อาจารย์ 3 ระดับ 8 ผู้ต้องหาข่มขืนลูกศิษย์ที่เพิ่งถูกจับกุมมา ใช้กางเกงผูกคอตายภายในห้องขังของกองปราบปราม ดีที่สิบเวรเห็นก่อน กว่าจะเข้าไปช่วยได้ อาการก็โคม่า แฉตำรวจท้องที่ทั้งโรงพักไม่ยอมรับแจ้งความดำเนินคดีในเบื้องต้น จน ปดส.ไปจับกุมตัวมา เผยนับเป็นผู้ต้องหารายที่ 3 ที่พยายามผูกคอตายในห้องขังกองปราบ ที่ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาระบุว่ามีวิญญาณร้ายมาเพ่นพ่าน จนผู้การ ป.ต้องนิมนต์พระมาทำพิธีปราบ
วันนี้ (10 มิ.ย.) เมื่อเวลา 02.50 น.ขณะที่ ด.ต.สัมพันธ์ ปานอร่าม สิบเวรหน้าห้องขังของกองปราบปราม ได้เดินตรวจตราความเรียบร้อยตามหน้าที่ ได้พบ นายศักดิ์ชัย อุปละ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 หมู่ 6 ต.พัฒนา อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร อาจารย์ 3 ระดับ 8 และเป็นอาจารย์ประจำชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านคำตานา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี โดยศิษย์นั้นอยู่ในความดูแล ได้ใช้กางเกงขายาวผูกคอของตนเองเข้ากับลูกกรงเหล็ก หวังฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด หลังจากตำรวจ ปดส.จับกุมตัวเมื่อวานนี้ (9 มิ.ย.) จึงรีบเข้าไปให้ความช่วยเหลือแล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจเพื่อช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน เนื่องจากอาการสาหัส ก่อนจะรีบรายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบทันที โดยล่าสุดมีรายงานว่าผู้ต้องหารายนี้ยังคงต้องนอนรักษาอาการอยู่ในห้องไอซียู
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายแสง (นามสมมติ) อายุ 32 ปี พา ด.ญ.บูม (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ลูกสาว เดินทางเข้าร้องทุกข์ดับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกสาวถูกครูประจำชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านคำตา จ.สกลนคร ข่มขืนกระทำชำเรามาเป็นเวลากว่า 1 ปี
ในวันดังกล่าว นายแสงเปิดเผยว่า มีอาชีพขับรถบรรทุก ฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน แต่ได้บอกลูกอยู่เสมอว่าจะส่งเสียลูกให้ได้เรียนจบชั้นสูงที่สุดเท่าที่ลูกอยากจะเรียน โดยได้พาลูกไปฝากน้องสาวให้เลี้ยงดู เนื่องจากตนเองเลิกกับแม่ของ ด.ญ.บูม ไปนานแล้ว ซึ่งน้องสาวก็รักและเอ็นดูน้องบูมเสมือนเป็นลูกอีกคนหนึ่ง และตนก็ส่งเสียเล่าเรียนจนขณะนี้ลูกสาวกำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.1 ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.00 น.หลังจากลูกสาวเลิกเรียนกลับมาที่บ้านก็ได้ขออนุญาตขี่รถจักรยานออกไปบ้านเพื่อน จนกระทั่งเวลา 20.30 น.ลูกสาวก็ยังไม่กลับบ้าน คนในบ้านจึงพากันออกตามหาไปทั่วหมู่บ้านแต่ก็ไม่พบ ในระหว่างตามหานั้นได้ขับรถผ่านไปที่โรงเรียนบ้านคำตา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ลูกสาวสาวเรียนตอนอยู่ชั้นประถมศึกษาจนจบ ป.6 สังเกตเห็นรถจักรยานของบุตรสาวจอดอยู่ในโรงเรียน และเห็นแสงไฟที่ห้องคอมพิวเตอร์เปิดอยู่จึงเข้าไปตะโกนเรียกแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา พวกตนจึงเดินเข้าไปในโรงเรียนแต่ยังไม่ทันจะเข้าไปถึงตัวของอาคารเรียน ลูกสาวก็วิ่งออกมาพร้อมกับขี่รถจักรยานหนีออกมาจากโรงเรียน
นายแสงกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนและญาติๆ จึงเดินไปที่ห้องคอมพิวเตอร์ พร้อมกับตะโกนเรียกนายศักดิ์ชัย อุปละ อายุ 50 ปี อาจารย์ 3 ระดับ 8 และเป็นอาจารย์ประจำชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านคำตานา ซึ่งตนเองรู้จักและคุ้นเคยกับอาจารย์ผู้นี้เป็นอย่างดีเพราะเคยเป็นอาจารย์สอนหนังสือตนมาก่อน แต่นายศักดิ์ชัยได้หลบอยู่ในห้องคอมพิวเตอร์ไม่ยอมออกมา พวกตนจึงเดินมาดูที่รถเก๋งของนายศักดิ์ชัย พบว่ายังมีกุญแจเสียบคาอยู่ที่รถจึงดึงกุญแจออกมาเก็บไว้
นายแสงกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นพวกตนจึงเดินทางกลับบ้านพร้อมเข้าไปสอบถามเรื่องราวจากลูกสาว จนลูกยอมเล่าให้ฟังว่าถูกนายศักดิ์ชัยข่มขืนกระทำชำเรามาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.6 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยนายศักดิ์ชัยจะโทรศัพท์มาข่มขู่ให้ไปร่วมหลับนอนด้วย หากไม่ยอมก็ข่มขู่ว่าจะฆ่าให้ตาย ทำให้ลูกสาวตนรู้สึกกลัวจึงต้องยอมไปหา ซึ่งทุกครั้งนายศักดิ์ชัยจะให้ไปหาที่ห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนเนื่องจากเป็นห้องพักของนายศักดิ์ชัยเอง เมื่อไปถึงก็จะถูกบังคับให้ร่วมหลับนอนในห้องดังกล่าวด้วย
ภายหลังทราบเรื่อง วันรุ่งขึ้นตนจึงพาลูกสาวเข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดต่อนายศักดิ์ชัยที่ สภ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิเสธที่จะรับแจ้งความ พร้อมกับได้เรียกคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยโดยมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของโรงพักและผู้บริหารโรงเรียนบ้านคำตานาและโรงเรียนที่ลูกสาวเรียนอยู่ในปัจจุบันมาร่วมไกล่เกลี่ยด้วย แต่ตนปฏิเสธที่จะไกล่เกลี่ยจึงเดินทางกลับบ้าน
จากนั้นในวันรุ่งขึ้นตนเดินทางมาแจ้งความอีกครั้ง แต่ทางพนักงานสอบสวนก็ยังไม่รับแจ้งความอีกเช่นเดิม แถมยังเรียกนายศักดิ์ชัย คู่กรณีมาที่โรงพักอีกครั้ง ตนจึงเดินทางกลับบ้าน จากนั้นก็พยายามเดินทางไปแจ้งความในวันที่ 27-28-29 พ.ค.ถึง 3 วัน แต่ถูกพนักงานสอบสวนปฏิเสธมาโดยตลอด จึงตัดสินใจเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา เพื่อขอความช่วยเหลือดังกล่าว
ภายหลังรับแจ้ง นางปวีณาได้ประสานไป พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบก.ปดส และพ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ รอง ผบก.ปดส. เพื่อพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดและเร่งติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยมี ร.ต.อ.ชัยชนะ สุริยะวงค์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) บก.ปดส.เป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี โดยนางปวีณา เปิดเผยว่า ได้ให้ ด.ญ.บูม มาพักเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตที่มูลนิธิปวีณาเป็นการชั่วคราวจนกว่าสภาพจิตจะดีขึ้น หาก ด.ญ.บูม มีสภาพจิตดีขึ้นแล้ว ตนจะสอบถามความสมัครใจของ ด.ญ.บูม ว่า สามารถที่จะเรียนที่โรงเรียนเดิมได้หรือไม่ หากไม่สามารถเรียนได้จะประสานไปยังคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อหาทางช่วยเหลือเรื่องที่เรียนแห่งใหม่ต่อไป
ต่อมาเวลา 14.00 น.วานนี้ (9 มิ.ย.) พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางค์กูร ผกก.1 บก.ปดส. ได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายศักดิ์ชัย ได้ที่บ้านเลขที่ 117 หมู่ 6 ต.พัฒนา อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร พร้อมส่งตัวให้ ร.ต.อ.ชัยชนะ สุริยะวงค์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) บก.ปดส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าตัวได้พยายามฆ่าตัวตายโดยใช้กางเกงผูกคอตายภายในห้องขังดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับห้องขังของกองปราบปราม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 ก.ค.2550 ได้เคยมีผู้ต้องหาคดีข่มขืนฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอกับห้องขังจนเสียชีวิตมาแล้วหนึ่งราย คือ นายฉลาด เสนารัตน์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดีข่มขืนหลานสาวตนเองจนท้อง ซึ่งต่อมาได้มีผู้ต้องหาอีกหลายรายที่ถูกควบคุมตัวอ้างว่าถูกวิญญาณดังกล่าวตามมาหลอกหลอน ผู้ต้องหาบางรายในช่วงกลางดึกก็ต้องร้องเรียกสิบเวรหน้าห้องขังเพื่อให้ช่วยโทร.ตามญาติมานอนเป็นเพื่อนกันผีที่หน้าห้องขังมาแล้ว จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานาถึงความเฮี้ยนของวิญญาณในห้องขัง ทำให้ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.ต้องนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีปัดรังควาน ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต เพื่อความสบายใจของผู้ต้องหาและเจ้าหน้าที่ แต่ที่ผ่านมาก็ยังมีผู้ต้องหาพยายามฆ่าตัวตายในห้องขัง บก.ป.เกิดขึ้นอีก จนมาถึงรายนายศักดิ์ชัย ที่ขณะเกิดเหตุถูกควบคุมเพียงคนเดียวในห้องขังเป็นรายที่ 3