อาจารย์หื่นผูกคอตายหนีคดีข่มขืนศิษย์ โชคยังดียมทูตติดงานพ้นขีดอันตรายแล้ว แพทย์สั่งห้ามเยี่ยมรอดูอาการ แต่มีสิทธิ์ขนหัวลุกต่อ หากหายดีต้องกลับไปติดคุกต่อที่ห้องขังกองปราบปราม
ภายหลังจากที่ นายศักดิ์ชัย อุปละ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 หมู่ 6 ต.พัฒนา อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร อาจารย์ 3 ระดับ 8 อาจารย์ประจำชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านคำตานา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี โดยศิษย์นั้นอยู่ในความดูแล ได้ใช้กางเกงขายาวผูกคอของตนเองเข้ากับลูกกรงเหล็กหวังฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิดในห้องขังของกองปราบปราม เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันนี้ (11 มิ.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์ชัย อุปละ อาจารย์ 3 ระดับ 8 ผู้ต้องหา อาการได้พ้นขีดอันตรายแล้ว และสามารถย้ายตัวออกจากห้องไอซียูมาพักรักษาตัวที่ตึกเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 5 ห้อง 5/1 แผนกออร์โธปิดิกส์ รพ.ตำรวจ ทั้งนี้ ทางทีมแพทย์ได้สั่งห้ามไม่ให้สื่อมวลชนเข้าทำข่าวแต่อย่างใด และสั่งห้ามไม่ให้เยี่ยมโดยเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้จากการสอบถามทางแพทย์และพยาบาล ปรากฏว่า ยังไม่มีญาติของผู้ต้องหามาติดต่อขอเยี่ยมแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับห้องขังของกองปราบปราม ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.2550 ได้เคยมีผู้ต้องหาคดีข่มขืนฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอกับห้องขังจนเสียชีวิตมาแล้วหนึ่งราย คือ นายฉลาด เสนารัตน์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดีข่มขืนหลานสาวตนเองจนท้อง ซึ่งต่อมาได้มีผู้ต้องหาอีกหลายรายที่ถูกควบคุมตัวอ้างว่าถูกวิญญาณดังกล่าวตามมาหลอกหลอน ผู้ต้องหาบางรายในช่วงกลางดึกก็ต้องร้องเรียกสิบเวรหน้าห้องขังเพื่อให้ช่วยโทร.ตามญาติมานอนเป็นเพื่อนกันผีที่หน้าห้องขังมาแล้ว จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานาถึงความเฮี้ยนของวิญญาณในห้องขัง ทำให้ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.ต้องนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีปัดรังควาน ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต เพื่อความสบายใจของผู้ต้องหาและเจ้าหน้าที่ แต่ที่ผ่านมาก็ยังมีผู้ต้องหาพยายามฆ่าตัวตายในห้องขัง บก.ป.เกิดขึ้นอีก จนมาถึงรายนายศักดิ์ชัย ที่ขณะเกิดเหตุถูกควบคุมเพียงคนเดียวในห้องขังเป็นรายที่ 3
ห้องขัง ป.เฮี้ยนไม่เลิก! อาจารย์ขืนใจศิษย์ผูกคอฆ่าตัวเป็นรายที่ 3!