xs
xsm
sm
md
lg

ญาติเหยื่อ ตร.ฆาตกรแขวนคอ จี้ดีเอสไอเร่งคดี!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

"เมียทนายสมชาย" นำทีมตัวแทนรณรงค์สิทธิฯ ผู้เสียหายกรณีญาติถูกฆ่าแขวนคออำพรางคดีในพื้นที่กาฬสินธุ์ เข้าให้กำลังใจและติดตามคดีกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เร่งคลี่คลายคดีต่าง ๆ โดยเร็ว ด้าน "ปิยะวัฒน์" บอกดีเอสไอทุ่มเททำทุกคดีที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน พร้อมผลักดันอีกหลายคดีให้เป็นคดีพิเศษต่อไป

วันนี้ (29 พ.ค.) นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของนายสมชาย นีละไพจิตร อดีตทนายความนักกฎหมายมุสลิม เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อเร่งรัดติดตามคดีการหายตัวไปของนายสมชาย หลังถูกเจ้าหน้าที่รัฐอุ้มหายไปตั้งแต่ปี 2547และนายเมธา มาสขาว เลขาฯ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธมนุษยชน(ครส.)ได้นำญาติผู้เสียหายกรณีถูกฆาตกรรมแขวนคอผู้ต้องหาอำพรางคดีที่ จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 9 คดี เข้าพบเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เพื่อให้กำลังใจในการทำงาน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขอบคุณญาติผู้เสียหายที่มาให้กำลังใจกับทางดีเอสไอ โดยเฉพาะคดีที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งดีเอสไอถูกตั้งขึ้นมาเพื่อถ่วงดุลการทำหน้าที่ของหน่วยงานรัฐ และเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้นช่วงหลังจึงมีการแก้ไขกฎหมายให้คดีที่เกิดจากการกระทำของพนักงานฝ่ายปกครอง หรือข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาเป็นคดีพิเศษ ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ว่าต้องการหลักนิติธรรม โดยเฉพาะคดีอาชญากรรม ทางดีเอสไอจึงให้ความสำคัญกับการคุ้มครองพยาน

สำหรับคดีนายกิตติศักดิ์ ถิตย์บุญครอง วัยรุ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ ถูกฆ่าแขวนคอ ฆาตกรรมอำพรางคดี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ถูกกล่าวหากระทำการดังกล่าวนั้น ทางดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษตั้งแต่ปี 2548 ยอมรับว่าการทำคดีลักษณะนี้อาจจะต้องใช้ระยะเวลา เพื่อให้ได้หลักฐานชัดเจน ขณะเดียวกันทางหัวหน้าพนักงานสอบสวนคือ พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผอ.สำนักคดีอาญาพิเศษ ได้ทุ่มเทติดตามคดีมาโดยตลอด ส่วนตนในฐานะผู้บริหารของดีเอสไอก็พยายามให้ความเป็นธรรม แต่ยอมรับว่าข้าราชการของกรมดีเอสไอส่วนหนึ่งโอนย้ายมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แม้จะยังมียศตำรวจ ซึ่งได้รับพระราชทานฯ แต่ในความเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ต้องทำงานตามกฎหมาย แต่เพื่อให้เกิดความสบายใจในการทำคดี ก็พยายามตั้งคณะพนักงานสอบสวนที่มีความเป็นกลาง ส่วนคดีอื่นๆที่เกิดขึ้นในจ.กาฬสินธุ์นั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนก็จะพิจารณาเพื่อเข้าเป็นคดีพิเศษต่อไป

ด้าน พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนของสำนักคดีอาญาพิเศษ พยายามทุ่มเททำคดีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าจะเป็นคดีซ๊อตไข่ ที่จ.พระนครศรีอยุธยา คดีกลั่นแกล้งยัดยาเสพติดที่อ.แม่สอด จ.ตาก คดีฆาตกรรมอำพรางที่จ.กาฬสินธุ์ รวมทั้งคดีสำคัญอีกหลายคดี ส่วนคดีอื่นๆที่ญาติผู้เสียหายเดินทางมาให้กำลังใจในวันนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าจะสามารถนำเข้าเป็นคดีพิเศษต่อไป

ด้านนายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธมนุษยชน(ครส.) กล่าวว่า การยื่นหนังสือวันนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้ดีเอสไอ ที่สามารถออกหมายเรียกตำรวจสภ.เมือง กาฬสินธุ์ จำนวน 6 ราย ที่ตกเป็นผู้ต้องหา และหวังว่าคดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่างในคดีอื่น ๆ ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม นอกจากนี้ทางดีเอสไอจะต้องให้ความสำคัญกับมาตรการคุ้มครองพยานในคดีต่างๆด้วย

ขณะที่ นางอังคณา กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนไม่ได้เข้ามาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นานเกือบ 2 ปีแล้ว ทางอธิบดีดีเอสไอยืนยันแล้วว่าต้องการให้ดีเอสไอเป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบถ่วงดุล แต่คดีการหายตัวไปของทนายสมชายนั้น รัฐบาลสมัยที่ผ่านมาได้พยายามเข้ามาแทรกแซงหน่วยงานดีเอสไอ จึงเป็นประเด็นที่ว่าผู้เสียหายจะสามารถพึ่งพาดีเอสไอได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้นดีเอสไอจะต้องให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และมั่นใจว่าหากผู้เสียหายและพนักงานสอบสวนประสานการทำงานกันเชื่อว่าคดีสำคัญหลายคดีจะสามารถคลี่คลายได้
ญาติเหยื่อตำรวจฆ่าอำพรางคดี ในจ.กาฬสินธุ์ เร่งคดีกับพนักงานสอบสวน
นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของนายสมชาย นีละไพจิตร อดีตทนายความนักกฎหมายมุสลิม เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าให้กำลังใจการทำงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น