กฎเหล็ก “นายพลไม้บรรทัด” ตร.นครบาลอาจกระอักเลือดตาย!

ประกาศิตของ “นายพลไม้บรรทัด” พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ที่ได้มอบ “กฎเหล็ก” ให้กับตำรวจในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบดูแล บช.น.โดยตรง ที่ได้หยิบยกปัญหาใหญ่ อันเป็นเครื่องบั่นทอนตัดต้นทุนทางสังคมของตำรวจ 4 เรื่องใหญ่ ประกอบด้วย บ่อนการพนัน สถานบริการที่มียาเสพติด สถานบริการที่ปล่อยให้มีการค้าประเวณี และตู้ม้า

ปัญหาใหญ่ 4 เรื่องของคนกรุงที่ไม่มีความเชื่อมั่นในการปราบปรามของตำรวจตามที่ พล.ต.อ.ธานี หยิบยกมาให้ปราบปรามให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมงนั้น ทั้ง 4 เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องเก่า ที่สนิมจับเกรอะจนตำรวจนครบาลหมดปัญญาที่จะแก้ไข สาเหตุก็เพราะว่า สนิมที่ว่าแต่ละชิ้นนั้น มีค่าและมีราคาแพงยิ่งนัก!

ว่าด้วยเรื่อง “บ่อนการพนัน” นั้น ฟันธงตรงเผงได้เลยว่า มีอยู่ในทุกพื้นที่ เพียงแต่ว่า เป็นบ่อนใหญ่หรือบ่อนเล็กเท่านั้นเอง ยังไม่รวมบรรดา “บ่อนวิ่ง” อีกต่างหาก ตามข้อมูลที่ได้รวบรวมและเป็นที่ยอมรับของบรรดาเซียนพนันนั้น บ่อนใหญ่ในเมืองกรุงที่ขึ้นชื่อลือชา และไม่เคยถูกลบชื่อออกจากสารบบ แม้จะมีการถูกจับกุมบ้างบางครั้ง แต่ก็กลับฟื้นคืนชีพมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ดังจะรวบรวมมาพอสังเขป

“บ่อนเตาปูน” เป็นบ่อนการพนันที่ขึ้นชื่อลือชามากว่า 20 ปี ล่าสุด แม้จะถูกกองปราบปรามสมัย พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป.ขณะนั้น ใช้แผน “เดอะแคต”ทลายลงได้ แต่บ่อนดังกล่าวก็กลับมาผงาดในยุทธจักรอีก เรียกว่า ไม่มีใครที่จะสามารถทลายบ่อนแห่งนี้ลงได้อย่างเบ็ดเสร็จราบคาบ งานนี้ จึงถือเป็นการพิสูจน์ฝีมือของ “เดอะย้อย” พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ภายใต้ประกาศิตและกฎเหล็กของ “นายพลไม้บรรทัด” อย่างยิ่งยวด

“บ่อนประตูน้ำ” เป็นบ่อนการพนันที่เปิดมานานไม่แพ้บ่อนเตาปูน ไม่เฉพาะแต่บรรดาเซียนพนันตัวยงเท่านั้นที่รู้จักบ่อนแห่งนี้ ไปสอบถามใครๆ แถวโรงแรมบางกอกพาเลส หรือย่านประตูน้ำ ถนนราชปรารถทั้งสาย ก็รู้จักบ่อนแห่งนี้ดี ทว่าบ่อนแห่งนี้ กลับซบเซาลงในสมัยที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็น ผบ.ตร. ด้วยถูกกระหน่ำอย่างหนัก จนต่องปิดตัวลงชั่วคราว กระนั้นภายหลัง ก็กลับขึ้นมาผงาดได้อีกครั้ง

“บ่อนเจ๊เป้า บางนา” เป็นบ่อนขนาดกลางที่มีชื่อเสียงมานานเช่นกัน เจ้าของบ่อนจะดัดแปลงคอนโดมิเนียมที่ชั้น 2-3 เป็นบ่อน ตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 103 หรือ ซอยอุดมสุข 26 ชาวบ้านย่านตลาดละแวกนั้นรู้จักกันดี ยกเว้นตำรวจท้องที่เพียงหน่วยงานเดียวที่ทำไม่รู้จักเสีย

ยังมีบ่อนที่เป็นที่รู้จักกันดีของบรรดาเซียนพนัน ทั้งยังเคยถูกตำรวจจากหน่วยต่างๆ เข้าจับกุมจนเป็นข่าวมาแล้วไม่ว่าจะเป็น “บ่อนเสี่ยถ่อ” ย่านถนนพระราม 3 ท้องที่ของใครคงรู้กันดี “บ่อนตี๋ใหญ่” ย่านดินแดง “บ่อนอ๊อตโต้” ย่านพัฒนาการ “บ่อนเจ๊ง้อ” ยานนาวา “บ่อนหวิน” บางนา และ “บ่อนลอยฟ้า” หรือ “บ่อนจ่ามนัส” ย่านตลิ่งชัน

นอกเหนือจากบ่อนการพนันแหล่งใหญ่แล้ว ยังมีบ่อนการพนันรายวันอย่าง บ่อนหวยปิงปอง จับยี่กี บ่อนรายสัปดาห์ ที่มีมูลค่าเม็ดเงินมหาศาล คือ บ่อนพนันโต๊ะบอล ที่เด็กชั้นประถม ยันผู้เฒ่าผู้แก่ติดกันงอมแงม

กฎเหล็กของ “นายพลไม้บรรทัด” อีก 3 เรื่อง ทั้งเรื่องสถานบริการที่ปล่อยให้มียาเสพติด สถานบริการที่ปล่อยให้มีการค้าประเวณี และการพนันตู้ม้านั้น ต้องยอมรับกันอย่างตรงๆว่า ทั้ง 4 เรื่องที่ พล.ต.อ.ธานี ขีดเส้นตายมิให้มีภายใน 24 ชั่วโมงนั้น ล้วนเป็น “หม้อข้าวหม้อน้ำ” ของเหล่าตำรวจนครบาล และเหล่า “นักบิน” นอกหน่วย ดังนั้น การที่ พล.ต.อ.ธานี สั่งเด็ดขาดให้ตำรวจนครบาลทุบทำลาย “อู่ข้าวอู่น้ำ” ตนเองฉะนี้แล้ว เชื่อว่า หลังจากนี้ไปภายใน 1-2 สัปดาห์ มหกรรมแห่งการ “จัดฉาก” ทลายบ่อน ทลายปาร์ตี้ยา ทลายโอเกะค้าประเวณี และกวาดล้างตู้ม้าจะเกิดขึ้น จนนักข่าวสายตระเวณจะต้องวิ่งกันขาขวิด

ถามว่า พล.ต.อ.ธานี มีความจริงจังมากน้อยแค่ไหนในการปราบปรามอบายมุขเหล่านี้ ตอบแทนได้เลยว่า นายพลไม้บรรทัดผู้นี้มีความจริงใจเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ในการปราบปรามอบายมุขดังกล่าว แต่ทว่า คำถามนี้ น่าจะถามไปยังตำรวจนครบาลเสียมากกว่า แต่ก็นั่นแหละ บ่อนบางบ่อนยืนหยัดมาได้นานนับสิบๆ ปี จะต้องรอคำตอบจากตำรวจนครบาลไปใย!

จากกฎเหล็กของ พล.ต.อ.ธานีที่ระบุว่า หากท้องที่ไหน ปล่อยให้ 4 เรื่องที่คาดโทษไว้เกิดในพื้นที่ ผกก.ท้องที่นั้นจะถูกย้ายในทันทีชนิดไม่มีการอุทธรณ์ รวมทั้งผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ระดับผู้บัญชาการลงมา จะต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวนด้วย เรื่องนี้ ทำเอาบรรดา “ทั่นรองฯ” โดยเฉพาะรอง ผกก. ที่กำลังจะก้าวขึ้นชั้นผู้นำโรงพัก พากันยิ้มร่า เพราะตำแหน่ง ผกก.คงต้องว่างลงอีกหลายตำแหน่ง เผลอๆหากเอาจริงเอาจัง ทั้ง 88 โรงพักทั่วนครบาล คงเหี้ยนเตียนเป็นแน่

นับว่าเป็นโชคดีของคนเมืองหลวงที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ได้แบ่งงานความรับผิดชอบใหม่ให้กับบรรดารอง ผบ.ตร.ทั้งหลาย ซึ่งเดิมทีนั้น ในเขตกองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้ที่เข้ามารับผิดชอบคือ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.อีกผู้หนึ่ง ทว่าเหมือนสวรรค์มีตา ฟ้าดลใจ ให้ พล.ต.อ.พัชรวาท เลือก พล.ต.อ.ธานี เข้ามาควบคุมดูแล บช.น.แทน แม้จะเหลือเวลาอีกเพียงประมาณ 4 เดือน แต่ก็ใคร่ขอ 4 เดือนที่เหลือของ พล.ต.อ.ธานีนั้น ให้เป็นดั่ง 4 เดือนที่ทุกท้องที่พากันตั้งใจปราบปรามอบายมุข แม้ไม่ได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ตามที่ พล.ต.อ.ธานีหมายใจไว้ก็ตาม ขอเพียงแค่ 30-40 เปอร์เซ็นต์ ก็เชื่อว่า จะต้องมีนายตำรวจอีกหลายพากันกระอักเลือดตายเป็นแน่แท้

มีเรื่องเล่าขานถึงความเป็น “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์”ของ พล.ต.อ.ธานีมาว่า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบก.ชัยภูมิ ได้มีคำสั่งให้ทุกโรงพัก ห้ามมิให้รับ “ส่วย” หวยใต้ดิน เป็นค่าน้ำร้อนน้ำชาอย่างเด็ดขาด ซึ่งเรื่องนี้ ตำรวจในพื้นที่ก็พากันเล่าขานมาจนถึงทุกวันนี้

อย่างไรก็ตาม หากตำรวจทุกนาย ทุกพื้นที่ ปฏิบัติและดำรงตนเหมือนอย่าง “นายพลไม้บรรทัด” ผู้นี้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปโอดครวญ พิรี้พิไร รำพันถึงความเป็นตำรวจที่มีต้นทุนทางสังคมต่ำ จนมักถูกสังคมต่อว่าต่อขาน แต่หาได้มองไม่ว่า ความประพฤติของตนเองนั่นแหละ ที่เป็นตัวฉุดรั้งให้ต้นทุนที่ต่ำอยู่แล้ว กลับยิ่งทรุดต่ำลงไป จนไม่อาจที่จะถอนรากถอนโคนขึ้นมาได้อีก ก็ด้วยเพราะทนงตนในความเป็น"ตำรวจ"นั่นเอง

นครบาลระส่ำ! “ธานี” ขีดเส้นหลังเที่ยงคืนวันนี้ทุกพื้นที่ต้องไม่มีอบายมุข