นครบาลระส่ำ! “ธานี” ขีดเส้นหลังเที่ยงคืนวันนี้ทุกพื้นที่ต้องไม่มีอบายมุข

“ธานี” สั่งนครบาลเข้มงวดกวาดล้างจับกุมอบายมุขในพื้นที่ พร้อมเตรียมคาดโทษตำรวจท้องที่ที่ปล่อยปละละเลย ขีดเส้นพ้นเที่ยงคืนของวันนี้จะต้องไม่มีสิ่งเหล่านี้อย่างเด็ดขาด

วันนี้ (28 พ.ค.) เวลา 12.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รับผิดชอบดูแลกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการชี้แจงขั้นตอนแนวทางปฏิบัติกวดขันปราบปรามกวาดล้างจับกุมอบายมุขในพื้นที่ กทม.ให้แก่นายตำรวจระดับรอง ผกก.ขึ้นไปจนถึง รอง ผบช.น.ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลทั้งหมด เน้นย้ำให้กวดขันปราบปรามจับกุมอย่างจริงจังและคาดโทษตำรวจท้องที่ที่ปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบเปิดบ่อนพนัน อบายมุข สิ่งผิดกฎหมายและตู้ม้า หากพบตำรวจ สน.ใดปล่อยปละละเลยหรือเข้าไปเกี่ยวข้องหรือเรียกรับผลประโยชน์จะถูกพิจารณาโทษตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ จนถึงระดับกองบังคับการ และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมระบุหากพ้นเที่ยงคืนของวันนี้จะต้องไม่มีสิ่งเหล่านี้อย่างเด็ดขาด

ต่อข้อถามว่า ขณะนี้มีบ่อนพนันลักลอบเปิดหลายแห่ง เช่น บ่อนเตาปูน บ่อนกิ่งเพชร บ่อนบางนา ฯลฯ รวมถึงตู้ม้าทั้งตู้เล็ก ตู้ใหญ่ หลายพื้นที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องและเข้าไปเล่นด้วยจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า วันนี้ได้ให้แนวทางของการปราบปรามพร้อมยื่นคำขาดเรื่องอบายมุข บ่อนพนันตู้ม้า วันนี้เป็นวันสุดท้ายตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปในพื้นที่นครบาลต้องไม่มี หากมีต้องถูกจับกุมและลงโทษตำรวจพื้นที่ที่รับผิดชอบดูแลทั้งหมดถือว่ามีการเตือนกันแล้วและจะลงโทษตั้งแต่ผู้บังคับบัญชาระดับผู้บัญชาการลงไปมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องยุ่งเกี่ยวบ้างต้องโดนลงโทษหมดไม่มียกเว้น สิ่งที่เน้นมากที่สุด 4 เรื่อง คือ บ่อนการพนัน สถานบริการที่มียาเสพติด สถานบริการที่ปล่อยให้มีการค้าประเวณี และตู้ม้า

“ในที่ประชุมที่ผ่านมา ตำรวจนครบาลได้รายงานผลการจับกุมสถานบริการและสิ่งผิดกฎหมายให้รับทราบ เมื่อฟังแล้วรู้สึกไม่พอใจในการปฏิบัติผลการจับกุมน้อย ทุกอย่างมันฟ้องออกมาเองว่าอะไรเป็นอะไร จากนี้ไปคงไม่ต้องให้เวลากันอีกเพราะเรื่องการป้องกันปราบปรามอบายมุขก็ดี อาชญากรรมก็ดีเรื่องแบบนี้ไม่ต้องมีการให้เวลากันหรอก ทุกอย่างต้องปฏิบัติต้องเดินหน้าหมด โดยเฉพาะ 4 เรื่องที่ผมบอกต้องทำอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะตู้ม้าพรุ่งนี้ต้องไม่มี และไม่จำเป็นต้องขอข้อมูลจากหน่วยไหน ผมมีมากกว่าพวกเขาอีก วันนี้พูดแล้วเตือนแล้วถ้าพูดไม่ฟังกันก็ต้องจัดการ เดี๋ยวคอยดูกันแล้วกันถ้าท้องที่รับผิดชอบไม่ทำผมก็มีทีมงานของผมเข้าไปทำ อย่าได้ละเลยอย่าปล่อยก็แล้วกัน ถ้าเจอที่ไหนก็จับเลย ถ้าระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติลงมาดำเนินการเมื่อไหร่ ตั้งแต่ระดับผู้บัญชาการลงไปต้องโดนกันหมด ถ้าใครมีปัญหา หรือท้องที่ไหนมีปัญหาทำไม่ได้ให้มาคุยกับผมได้” พล.ต.อ.ธานี กล่าว

ด้าน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำกับดูแลกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงการปราบปรามจับกุมอบายมุข บ่อนพนัน สถานบริการผิดกฎหมายในพื้นที่ บช.น.ว่า วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายหลังเที่ยงคืนอบายมุข บ่อนพนัน และตู้ม้าจะต้องไม่มีในพื้นที่ กทม.ตามที่ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับยื่นคำขาดไว้

ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า หากตรวจพบว่าท้องที่ใดยังปล่อยให้เปิดอยู่ นายตำรวจระดับ ผกก.ท้องที่นั้นๆ ต้องถูกลงโทษทางวินัยเป็นคนแรก พร้อมทั้งรีบเก็บของออกจาก สน.ทันที อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าการที่ พล.ต.อ.ธานี กำชับการปฏิบัติในครั้งนี้ผู้ปฏิบัติทุกหน่วยคงต้องรับฟังและนำไปปฏิบัติอย่างแน่นอน และฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่า หากพบเห็นการลักลอบเล่นพนัน อบายมุข สิ่งผิดกฎหมายทุกประเภทรวมถึงตู้ม้า ที่ยังมีการลักลอบเปิดอยู่ให้แจ้งมายังโทรศัพย์มือถือสายตรงถึงตนเองได้ 24 ชั่วโมงหมายเลข 08-1947 2828 หลังจากนั้นไม่เกิน 1 ชั่วโมง ตนจะไปถึงจุดที่พบมีการลักลอบเปิดเล่นและดำเนินการในทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.ต.อ.ธานี และ พล.ต.ท.อัศวิน เดินทางกลับไป พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เรียกนายตำรวจระดับ ผบก.1-9 และ ผกก.ทั้ง 88 สน. และรอง ผบช.น.ประชุมเครียดขานรับนโยบายคำสั่งแนวทางปฏิบัติปรามปรามจับกุมตู้ม้า บ่อนการพนัน

สำหรับ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ถือเป็นนายตำรวจมือคนกฎหมายคนสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยประวัติถือว่าตงฉินสุดสุด

พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.นอร.(นักเรียนนายร้อยอบรม) รุ่นที่ 15 อดีตประธานรุ่นนิติ ม.ธรรมศาสตร์ ปี 2511 เคยเป็น ผู้ช่วย ผบช.น.ก่อนขยับเป็นรอง ผบช.น.และเป็น ผบช.น.ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันใน ก.ตร.ว่าผู้ทรงคุณวุฒิบางนายไม่สบายใจที่ พล.ต.ท.ธานี (ยศขณะนั้น)จะขึ้นเป็นแม่ทัพนครบาล เนื่องจากเห็นว่า พล.ต.อ.ธานี เป็นนายตำรวจที่ซื่อสัตย์สุจริต และจะต้องเข้ามารับผิดชอบในการปราบปรามการรับส่วย ซึ่งจะทำให้รายได้ของตำรวจในนครบาลลดลงจนอาจเกิดปัญหาตามมา แต่ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ นิลคูหา ผบช.น.ขณะนั้นกล่าวชื่นชม พล.ต.อ.ธานี ว่าเป็นคนดีและเหมาะสมกับตำแหน่ง ผบช.น.

นอกจากนี้ ขณะที่เขาเป็น รอง ผบช.น.นั้น ได้เสนอไม่ต่อใบอนุญาตให้สถานบริการอาบอบนวดให้เสี่ยกามกลับใจถึง 4 แห่ง และนำมาซึ่งการแฉส่วยตำรวจนครบาล ทำให้นายตำรวจหลายนายถูก พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร.ขณะนั้นสั่งเด้งออกนอกหน่วยกันระนาว

หลังรับตำแหน่ง ผบช.น.เมื่อปี 2547 เขาให้นโยบายกับผู้ใต้บังคับบัญชาทันทีว่าคือห้ามรับส่วยทุกประเภท จนได้ฉายาจากผู้สื่อข่าวกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า “นายพลไม้บรรทัด” สมัยที่เขาเป็น ผบช.น.ว่ากันว่า ผับ เธค ปิดตรงเวลากันเป็นแถว แม้แต่บ่อนใหญ่ในเมืองกรุงต่างไม่กล้าท้าทายอำนาจนายพลไม้บรรทัดคนนี้

หลังจากนั้น เขาได้รับการโยกมาเป็นผู้บัญชาการสอบสวนกลาง และเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. และก่อนที่จะมีการพิจารณา รอง ผบ.ตร.เขามี พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ยศขณะนั้นเป็นเคนดิเดต สุดท้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.เลือก พล.ต.ท.ธานี หลังจากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ถูกมรสุมเล่นงานจนเกษียณราชการในตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี

พล.ต.อ.ธานี หรือล้าน ของกลุ่มเพื่อนรุ่นนิติ มธ.2511 ที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เขาคือ ตำรวจที่ดี จิตใจงดงาม สะอาด ดำรงซึ่งความซื่อสัตย์ บริสุทธิ์ ยุติธรรม จนมีการยกย่องว่าเขาเป็นหนึ่งในยอดตำรวจดีของประเทศไทย”