xs
xsm
sm
md
lg

เมียมือเชือดสาวกอง บก.SHAPE ยัน ผัวสังหารเหยื่อจริง!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอสาวกอง บก.SHAPE ยังปากแข็งปฏิเสธข้อกล่าวหาของตำรวจ อ้างถูกกลั่นแกล้ง และจับเป็นแพะรับบาป ขณะที่เมียเจ้าตัวให้การยืนยัน ผัวเป็นผู้ลงมือโหดจริง

วันนี้ (25 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 17.00 น.พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอด แถลงผลเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกองกำกับการสืบสวนนครบาล 7 และฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน จับกุม นายสัญชัย หรือ ชัย สังข์แป้น อายุ 33 ปี โชเฟอร์รถแท็กซี่ ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้มีดเชือดคอและแทง น.ส.อรอัจฉรา พรหมผลิน อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่กองบรรณาธิการนิตยสาร SHAPE เครือ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เสียชีวิตหมกศพอำพรางคดีภายในห้องพักเลขที่ 216 อาคารชัยพฤกษ์อพาร์ตเมนท์ ถนนชัยพฤกษ์ แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม.เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสอบปากคำในฐานะผู้ต้องสงสัยกระทั่งสืบสวนพบหลักฐานยืนยันการกระทำความผิดชัดเจน จึงขออนุมัติศาลจังหวัดตลิ่งชันเลขที่ 833/2552 ลงวันที่ 24 พ.ค.จับกุมตัวนายสัญชัยพร้อมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนาโดยไตร่ตรอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนำตัวมาแถลงข่าว นายสัญชัย มีสีหน้าเคร่งเครียด น้ำเสียงตะกุกตะกักตลอดเวลาที่สื่อมวลชนซักถาม โดยปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่า น.ส.อรอัจฉรา พร้อมยืนยันตำรวจจับแพะอย่างแน่นอน จะให้ไปพิสูจน์หรือสาบานที่ไหนก็ได้ และพร้อมเข้าเครื่องจับเท็จ อยากให้ตำรวจสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายให้ได้จริงๆ และอยากถามว่า ทำไมต้องจับแพะบ่อยๆ ทั้งๆ ที่ตนเองไม่ได้ทำและเป็นคนฆ่า ไม่รู้ว่าตำรวจไปเอาหลักฐานมาจากไหนโดยเฉพาะคราบเลือดที่บอกว่าพบในรถแท็กซี่ และในห้องพักของตนเอง อยากให้มีการพิสูจน์ในตรงนี้อยู่ดีๆ ก็เอาหลักฐานมายัดเยียดโดยที่ไม่ได้ทำจะให้รับสารภาพได้อย่างไร และไม่รู้ว่าตำรวจพูดอะไรกับภรรยาของตนบ้าง ถึงได้พูดออกมาอย่างนั้น ไม่รู้ตำรวจไปทำอะไรกับเมียตนเองเพราะ 2 วันนี้แยกกันสอบสวนไม่ได้เจอกันเลยอยากให้พิสูจน์ความจริงว่าใครคือฆาตกรตัวจริงกันแน่ และขอยืนยันไม่เคยเห็นมีด 2 เล่มที่นำมาแถลงข่าวในวันนี้มาก่อนการฆ่าคนมันยากแต่การใส่ร้ายคนมันง่าย

“ผมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนทำและไม่ได้ฆ่าเขาจริงๆ วันเกิดเหตุก็นอนดูทีวีอยู่ในห้อง และไม่เคยรู้จักไม่เคยพบเห็นคนตายมาก่อน ปกติจะออกจาบ้านไปขับแท็กซี่ประมาณ 9-10 โมง และกลับเข้ามาก่อนเที่ยงคืน แต่พอหลังเกิดเหตุก็ถูกตำรวจไปเอาตัวมา และบอกว่า มีคราบเลือดอยู่ในห้อง และรถแท็กซี่ไม่รู้เลือดมาได้อย่างไร เชื่อว่า ตำรวจจะต้องกลั่นแกล้งและใส่ร้ายผม เพราะตำรวจเอากุญแจห้องของผมไป ผมไม่เคยมีเรื่องโกรธแค้นกับเขา และขอยืนยันความบริสุทธิ์ของผม ว่า ไม่ได้เป็นคนทำไม่ได้เป็นฆาตกร ส่วนเหตุที่ไปหาร่างทรง เพราะแฟนเป็นคนพาไป ทั้งที่ตัวเองก็ไม่อยากไป ตอนที่รู้ข่าวว่ามีคนตายในห้องนั้น ก็ไม่กล้านอนในห้องพักชั้นเดียวกันอีกเลย ไปนอนบ้านแม่ตลอด และไม่ได้เอาหลักฐานอะไรไปทิ้งขยะเหมือนตอนที่เป็นข่าวขอยืนยันว่าตำรวจใส่ความอย่างแน่นอน และไม่ได้เอารถไปล้างตอนตี 4 ตอนนั้นออกไปตลาดพร้อมกับแฟน ถ้าผมเป็นคนฆ่าผู้ตายจริง ก็ต้องมีหลักฐานรอยนิ้วมือในห้องคนตาย แต่นี่ไม่มีและพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นนิ้วมือใครอยู่ดีๆ ก็มาแจ้งข้อหากันแบบนี้ ยืนยันจะต่อสู้ทางคดีจนถึงที่สุด” นายสันต์ชัย กล่าวปฏิเสธ

ขณะที่ ผบช.น.กล่าวว่าผู้ต้องหามีสิทธิ์จะให้การอย่างใดก็ได้ ตำรวจมีพยานหลักฐานยืนยันการกระทำผิดอย่างชัดเจนแน่นหนา มีทั้งพยานบุคคล หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และผลตรวจทาง ดีเอ็นเอ รวมถึงคำให้การของพยานปากสำคัญซึ่งเป็นภรรยาของผู้ต้องหารายนี้

ด้าน นางเสาวนีย์ ซึ่งถูกนำตัวมาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลด้วย แต่แยกไว้อีกห้องหนึ่งไม่ได้นำมาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ เปิดเผยว่า “คืนเกิดเหตุผู้ตายเปิดโทรทัศน์เสียงดังมาก สามีถึงบอกให้ตนไปเคาะห้องแล้วบอกให้เบาเสียงโทรทัศน์หน่อย แต่ผู้ตายกลับด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย แลเถียงกันจนสามีออกมาดูเขาก็ด่าทั้งสามีและตัวฉัน จนสามีทนไม่ไหวเข้าไปผลักได้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เขาก็ยังไม่ยอมหยุดยังด่าต่อ จนสามีจับศีรษะเข้าโขกพื้นห้องจนตนเข้าไปห้ามว่าพอแล้ว แต่คนตายต่อสู้ดิ้นไปมา นายสันต์ชัย จึงคว้าอาวุธมีดที่วางอยู่ในห้องผู้ตายแทงไปที่หน้าอกของผู้ตายและใช้มีดอีกเล่มหนึ่ง ที่อยู่ในห้องผู้ตายปาดบริเวณคอหลายครั้ง”

“ฉันเห็นกับตา ตกใจมาก จึงร้องพี่หยุดเถอะๆ พอได้แล้ว แค่นี้มันก็ตายแล้ว จนผู้ตายแน่นิ่งไป สามีก็ลากศพเข้าไปในห้องน้ำ ฉันรีบวิ่งออกมาก่อนส่วนสามีก็กระโดดประตูข้างหลังออกไป” นางเสาวนีย์ กล่าว

จากการสืบสวนทราบว่า หลักการเกิดเหตุทั้ง 2 คน ก็ได้ชำระร่างกายแล้วพากันมาเช็ดรอยเลือดของผู้ตายที่ห้องของตนเองและห้องว่างข้างเคียง เสร็จแล้วได้พากันออกจากห้องพักไปข้างนอกเอาเสื้อผ้าของผู้ตายบางส่วน และเสื้อผ้าของนายสันต์ชัยที่เปื้อนเลือดไปทิ้งที่ถึงขยะปากซอย หลักจากนั้น นายสันต์ชัย ไม่กลับมานอนที่ห้องพักจนกระทั่งถูกจับกุม
นายสัญชัย หรือชัย สังข์แป้น ผู้ต้องหา ปฏิเสธเสียงแข็งต่อหน้าผบช.น.
นายสัญชัย หรือชัย สังข์แป้น
กำลังโหลดความคิดเห็น