xs
xsm
sm
md
lg

มือฆ่าสาวนิตยสาร SHAPE โวยถูกใส่ร้าย ลั่นให้ตายดีกว่ารับสารภาพ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายสัญชัย หรือชัย สังข์แป้น อายุ 33 ปี โชเฟอร์รถแท็กซี่พร้อมกับนางเสาวนีย์ ช้างเขียว อายุ 36 ปี สองสามีภรรยาที่พักอยู่ในห้องฝั่งตรงข้ามกันและตกเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ
ตำรวจยันมีหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ มัดตัวแท็กซี่มือฆ่าสาวนิตยสาร SHAPE ขณะที่ผู้ต้องหาอ้างตำรวจจับแพะ ยันไม่ได้กระทำความผิด และพร้อมสู้คดีให้ถึงที่สุด

จากกรณีที่ น.ส.อรอัจฉรา พรหมผลิน อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่กองบรรณาธิการนิตยสาร SHAPE เครือ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) ถูกฆาตกรฆ่าแทงอก-เชือดคอหมกศพสวมเพียงชุดชั้นในไว้ในห้องพักเลขที่ 216 อาคารชัยพฤกษ์อพาร์ตเมนท์ ถนนชัยพฤกษ์ แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม. เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งวานนี้ (24 พ.ค.) เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายสัญชัย หรือชัย สังข์แป้น อายุ 33 ปี โชเฟอร์รถแท็กซี่ พร้อมกับนางเสาวนีย์ ช้างเขียว อายุ 36 ปี สองสามีภรรยาที่พักอยู่ในห้องฝั่งตรงข้ามกัน และตกเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับนายสัญชัยในภายหลังตามที่นำเสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าวันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน เปิดเผยว่า จากการสอบสวนอย่างเคร่งเครียดตลอดทั้งคืน นายสัญชัยยังให้การปฏิเสธ ไม่ยอมตอบคำถามเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ยืนยันว่าไม่รู้ไม่เห็นอย่างเดียว ส่วนนางเสาวนีย์ ภรรยาผู้ต้องหาได้ให้การที่เป็นประโยชน์ยอมรับว่าเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาว่าสามีเป็นคนลงมือก่อเหตุจริง เพราะไม่พอใจที่ผู้ตายเปิดทีวีเสียงดังทุกวัน และชอบกลับบ้านมาทำเสียงดังตอนดึก นอกจากนี้ผู้ตายยังเป็นคนโผงผาง พูดจาขวานผ่าซาก และเคยมีปากเสียงกันเรื่องทำนองนี้มาก่อน

พ.ต.ท.สุกิจ กล่าวอีกว่า ถึงแม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธทางเจ้าหน้าที่ก็เชื่อมั่นว่าไม่ได้จับผิดตัวอย่างแน่นอน เพราะมีพยานชัดเจน และหลักฐานส่วนใหญ่ได้จากกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งวันนี้ (25 พ.ค.) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะมาตรวจหาคราบเลือดเพิ่มเติมภายในรถแท็กซี่สีฟ้า ทะเบียน ทล 1562 กทม. อย่างไรก็ตาม หลักฐานเท่าที่มีก็สามารถมัดผู้ต้องหาได้แน่นหนา ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับนางเสาวนีย์ ภรรยาของนายสัญชัยเพิ่มเติม ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา น่าเชื่อว่าศาลจะอนุมัติให้เนื่องจากมีพยานหลักฐานเพียงพอ ประกอบกับคำให้การของนางเสาวนีย์เอง

ขณะเดียวกัน กลุ่มญาติและเพื่อนๆ ของนายสัญชัย ผู้ต้องหาก็ยังเดินทางมาให้กำลังใจที่โรงพักอีกประมาณกว่า 10 คน และจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับแพะ เพราะเชื่อมั่นว่านายสัญชัยไม่ใช่ผู้ต้องหา โดยนายชูชาติ สังข์แป้น อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นน้องชายกล่าวว่า ตนและญาติๆ ไม่เชื่อว่าพี่ชายของตนจะเป็นฆาตกร เพราะพี่ชายเป็นคนดีมากเป็นคนนิสัยดี ใจเย็น ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ขนาดสัตว์ยังไม่เคยฆ่าแล้วจะมาฆ่าคนได้อย่างไร ขณะเดียวกัน พี่ชายของตนก็ไม่มีเจตนาหลบหนี แต่เนื่องจากพี่ชายเป็นคนกลัวผี พอรู้ว่ามีการฆ่าปาดคอกันที่ห้องเช่าตรงข้ามห้องพักจึงไม่กล้าไปกลับไปนอนพักที่ห้อง จึงมาพักอยู่ที่บ้านพ่อแม่ซึ่งอยู่ใกล้อพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุ และยังดำรงชีวิตปกติไปขับแท็กซี่เหมือนเดิม

นายชูชาติกล่าวต่อว่า ตั้งแต่วันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ก็เรียกพี่ชายของตนไปสอบปากคำหลายครั้ง ก่อนจะควบคุมตัวแล้วแจ้งข้อหาฆ่าคนตาย ซึ่งพี่ชายของตนก็ไม่ยอมรับ บอกว่ายอมตายดีกว่าให้ยอมรับผิดเพราะพี่ชายไม่ได้เป็นคนลงมือ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายไม่ได้จึงวางแผนจับพี่ชายของตัวเองมาเป็นแพะรับบาป หากตำรวจมีหลักฐานว่าพี่ชายตนเป็นคนทำก็ให้เอาออกมาแสดงให้เห็นถ้าหลักฐานชัดเจนว่าพี่ชายเป็นคนทำก็จะยอมรับ แต่ตอนนี้พี่ชายยังยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้เป็นคนทำเราจึงเตรียมทนายเพื่อสู้คดีให้ถึงที่สุด ที่ผ่านมาพี่ชายบอกว่าตำรวจพยายามให้พี่ชายรับสารภาพเพื่อผ่อนหนักให้เป็นเบา และเท่าที่เข้าเยี่ยมพี่ชายมีสีหน้าเครียดเพราะไม่เคยต้องคดีมาก่อน

ด้านนายสัญชัยได้ร้องผ่านห้องขังเพื่อขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปรักปรำ ใส่ร้าย จับตนมาเป็นแพะรับบาป เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุได้จึงวางแผนจับตนมาเป็นแพะ และพยายามบีบบังคับกดดันให้รับสารภาพ ตนถูกใส่ร้าย ขอให้สื่อช่วยให้ความเป็นธรรมด้วย เพราะไม่เคยรู้จักกับคนตายเลยไม่เคยพูดคุยกันด้วยซ้ำ ตนเป็นคนทำมาหากิน ขับรถแท็กซี่กลับมาถึงห้องก็นอน แต่พอรู้ว่ามีการฆ่ากันตายเกิดขึ้นตนก็กลัว ที่กลัวไม่ใช่กลัวความผิด แต่ตนกลัวผีจึงไม่กล้ากลับไปอยู่ห้อง เลยไปนอนที่บ้านแม่ แต่ตำรวจก็หาว่าตนเป็นคนฆ่าแล้วพยายามหลบหนี ให้ตายดีกว่าให้ตนรับสารภาพในสิ่งที่ไม่ได้ทำ
กำลังโหลดความคิดเห็น