ศาลนัดสืบพยานโจทก์ปากแรก 18 ก.พ.ปีหน้า คดี “ทักษิณ” ฟ้องหมิ่น “นิติภูมิ” แฉกลางเวทีพันธมิตรฯ ฉ้อฉล-ใช้กฎหมายหาผลประโยชน์
วันนี้ (25 พ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 904 ที่ศาลอาญารัชดาฯ ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานในคดีหมายเลขดำที่ อ.3070/2549 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มอบอำนาจให้นายสิริชัย ฐานพงศ์พันธุ์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง ร.ต.อ.นิติภูมิ นวรัตน์ หรือเนาวรัตน์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328
จากกรณีเมื่อวันที่ 13 มี.ค.2549 จำเลยกล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ทำนองใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์แก่ตนเองหรือพวกพ้อง ซึ่งไม่เป็นความจริง เนื่องจากโจทก์ได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีด้วยความสุจริตตลอดมาไม่เคยคดโกงชาติหรือฉ้อฉล การที่จำเลยกล่าวปราศรัยดังกล่าวเพื่อทำลายความศรัทธา และความเชื่อถือ ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เหตุเกิดที่แขวงดุสิต เขตดุสิต กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 พ.ค.) ร.ต.อ.นิติภูมิ จำเลยเดินทางมาที่ศาลด้วยตนเอง โดยศาลได้อ่านคำฟ้องให้จำเลยฟังจนเป็นที่เข้าใจแล้วสอบคำให้การจำเลยให้การปฏิเสธ และขอแต่งตั้งทนายความเพื่อต่อสู้คดี โดยฝ่ายโจทก์เตรียมพยานขึ้นเบิกความจำนวน 7 ปาก ใช้เวลา 2 นัด ขณะที่ฝ่ายจำเลยเตรียมพยานขึ้นเบิกความขึ้นต่อสู้จำนวน 6 ปาก ใช้เวลา 2 นัด โดยศาลนัดสืบพยานโจทก์ปากแรกในวันที่ 18 ก.พ.53 เวลา 09.00 น.
วันนี้ (25 พ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 904 ที่ศาลอาญารัชดาฯ ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานในคดีหมายเลขดำที่ อ.3070/2549 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มอบอำนาจให้นายสิริชัย ฐานพงศ์พันธุ์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง ร.ต.อ.นิติภูมิ นวรัตน์ หรือเนาวรัตน์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328
จากกรณีเมื่อวันที่ 13 มี.ค.2549 จำเลยกล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ทำนองใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์แก่ตนเองหรือพวกพ้อง ซึ่งไม่เป็นความจริง เนื่องจากโจทก์ได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีด้วยความสุจริตตลอดมาไม่เคยคดโกงชาติหรือฉ้อฉล การที่จำเลยกล่าวปราศรัยดังกล่าวเพื่อทำลายความศรัทธา และความเชื่อถือ ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เหตุเกิดที่แขวงดุสิต เขตดุสิต กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 พ.ค.) ร.ต.อ.นิติภูมิ จำเลยเดินทางมาที่ศาลด้วยตนเอง โดยศาลได้อ่านคำฟ้องให้จำเลยฟังจนเป็นที่เข้าใจแล้วสอบคำให้การจำเลยให้การปฏิเสธ และขอแต่งตั้งทนายความเพื่อต่อสู้คดี โดยฝ่ายโจทก์เตรียมพยานขึ้นเบิกความจำนวน 7 ปาก ใช้เวลา 2 นัด ขณะที่ฝ่ายจำเลยเตรียมพยานขึ้นเบิกความขึ้นต่อสู้จำนวน 6 ปาก ใช้เวลา 2 นัด โดยศาลนัดสืบพยานโจทก์ปากแรกในวันที่ 18 ก.พ.53 เวลา 09.00 น.