"ผู้จัดการ"มินิมาร์ทย่านหมอชิตแจ้งจับอันธพาลเถื่อน!

แก๊งค์อันธพาลชั่ว ก่อเหตุอุกอาจยกพวกชายฉกรรจ์กว่า 40 คน พร้อมอาวุธครบมือ บุกร้านมินิมาร์ทย่านหมอชิตขอยึดพื้นที่ไปครอง แต่ไม่สำเร็จชักปืนข่มขู่ผู้จัดการร้าน และทำร้ายร่างกาย รปภ.จนบาดเจ็บ แถมยังขโมยทรัพย์สินในร้านก่อนพากันเผ่นหนีหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาระงับเหตุ

วันนี้(20 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. นายวิรัตน์ ภูชงค์ ทนายความ พาตัวผู้เสียหายประกอบด้วย 1.นายประธาน อาจวิชัย อายุ 41 ปี 2.นายพูนทรัพย์ ผลบุญ อายุ 41 ปี 3.นายจักกฤษณ์ ธรรมปภัศร์ อายุ 29 ปี และ 4.นายทรงฤทธิ์ วรรณภูงา อายุ 34 ปี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ทองศูนย์ อุ่นวงศ์ สารวัตร สน.บางซื่อ ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนกว่า 40 คนที่บุกรุกเข้าไปในพื้นที่ร้านมินิมาร์ทไม่มีชื่อ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามสถานีขนส่งหมอชิต 2 ใกล้ทางขึ้นลงทางด่วนกำแพงเพชร 2 เพื่อทำร้ายร่างกายกลุ่ม รปภ.ซึ่งดูแลร้านด้วยอาวุธนานาชนิด แล้วลักทรัพย์ภายในร้านก่อนพากันหลบหนีไป

นายประธาน 1 ในผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้จัดการร้าน เปิดเผยว่า มินิมาร์ทดังกล่าว เป็นของ นายชัยสิทธิ์ งามทรัพย์ ซึ่งดำเนินกิจการอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับสัมปทานอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2548 จนกระทั่งเมื่อเวลา 04.45 น.วันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนตรวจนับสินค้าอยู่ในร้าน ได้มีกลุ่มผู้ต้องหาคือ 1.นายสำเริง หรือ“ปอ”จงจงประเสริฐ 2.นายสำรวย หรือ “กิ้ม” จงจงประเสริฐ 3.นายสุรชัย หรือ “ชุง” จงจงประเสริฐ 4.นายมานพ หรือ “บอย” นครจินดา และ 5.นายแหว่ง ไม่ทราบนามสกุล พาชายฉกรรจ์กว่า 40 คน มารวมตัวกันที่บริเวณหน้าร้านพร้อมอาวุธครบมือ ทั้งปืน มีด แป๊บเหล็ก กระบอง และขวด เพื่อขอเจรจายึดที่ไปครอบครองอย่างผิดกฎหมาย

นายประธาน กล่าวอีกว่า ตนเห็นท่าไม่ดีจึงได้ใช้วิทยุสื่อสารเรียกกลุ่ม รปภ.ของทางร้าน ประกอบด้วย นายทรงฤทธิ์ นายจักกฤษณ์ และนายพูนทรัพย์ ซึ่งอยู่ในละแวกใกล้เคียงให้เข้ามาช่วยเหลือ โดยตนได้สั่งให้นายทรงฤทธิ์ นำกล้องวีดีโอ มาบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ด้วย แต่หลังจากนั้นเพียง 15 นาทีกลุ่มคนร้ายก็ได้พากันกรูเข้ามาในร้านพร้อมใช้อาวุธรุมทำร้ายตนกับ รปภ.ทุกคน จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะกระชากเอากล้องวีดีโอ จากมือนายทรงฤทธิ์ ไป จากนั้นนายสำรวย หรือ “กิ้ม” ก็ชักอาวุธปืนลูกโม่ ไม่ทราบขนาด สีดำ ออกมาจ่อที่หน้าอกตนและขู่ว่า “เดี๋ยวกูจะฆ่าพวกมึงให้หมดเลย” นอกจากนี้กลุ่มคนร้ายยังได้ทำลายทรัพย์สินและหยิบฉวยสินค้าในร้านด้วยจนมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุทั้งหมดจึงแยกย้ายกันหลบหนี

“หลังเกิดเหตุตนได้ปรึกษากับทนายความและนำภาพที่กล้องวงจรปิดรอบๆ พื้นที่สามารถบันทึกเอาไว้ได้ มาเป็นหลักฐานแจ้งความกับตำรวจ สน.บางซื่อ เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายทั้งหมด ในข้อกล่าวหา ร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปบุกรุกในเวลากลางคืน, ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ร่วมกันชิงทรัพย์, และร่วมกันพยายามฆ่าเพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจท้าทายกฎหมายภัยกับสังคมและบ้านเมือง หากปล่อยให้กลุ่มคนร้ายแพร่ขยายอิทธิพลต่อไป อาจทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บอีกมากก็เป็นได้” นายประธาน กล่าว