เลขาศาลฯ ไม่ขัดรัฐบาลยืมเงินค่าธรรมเนียมแก้ปัญหาขาดงบ

เลขาธิการศาลยุติธรรม ยันเงินค่าธรรมเนียมศาลเป็นรายได้ของแผ่นดิน หากรัฐบาลจะยืมเงินค่าธรรมเนียมศาลมาแก้ปัญหาขาดแคลนงบก็ถือเป็นอำนาจ ทางศาลไม่คัดค้าน เบิกมาใช้ได้เลย

วันนี้ (6 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก นายพินิจ สุเสารัจ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางกฎหมาย การศาล และการบริหารงานศาลยุติธรรม ระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรม กับ นายคำมี ไชยะวง ประธานศาลประชาชนสูงสุดแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมี นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา ร่วมเป็นสักขีพยาน

ภายหลัง นายพินิจกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะยืมเงินค่าธรรมเนียมศาล มาแก้ปัญหาขาดแคลนงบประมาณว่า เงินค่าธรรมเนียมศาลเป็นเงินที่ประชาชนที่จะยื่นฟ้องคดีแพ่งจะต้องนำเงินมาวางเป็นประกันเท่าที่จำได้ตามกฎหมายเดิมกำหนดไว้ในอัตราร้อยละ 2.5 แต่ไม่เกิน 200,000 บาท แต่กฎหมายใหม่แก้ไขให้วางค่าธรรมเนียมศาลน้อยลง โดยค่าธรรมเนียมศาล ตามระเบียบปฏิบัติกำหนดให้ศาลทั่วประเทศต้องนำส่งกระทรวงการคลังภายใน 15 วัน เมื่อคดีสิ้นสุดแล้วศาลก็จะต้องเบิกเงินจากกระทรวงการคลังคืนผู้ฟ้องคดีให้เร็วที่สุด

“เงินค่าธรรมเนียมที่ศาลนำส่งกระทรวงการคลังถือเป็นรายได้ของแผ่นดิน ไม่ใช่รายได้ของศาล ซึ่งในแต่ละปีมีประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่หากรวมเงินที่ได้จากค่าปรับในคดีอาญา จาก พ.ร.บ.การพนัน และ พ.ร.บ.ศุลกากร หลังจากจ่ายค่าสินบนนำจับให้เจ้าพนักงานร้อยละ 50 แล้ว ก็จะมีเงินที่ศาลส่งให้กระทรวงการคลังปีละประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งหากรัฐบาลจะนำเงินค่าธรรมเนียมศาลซึ่งถือเป็นรายได้ของแผ่นดินไปใช้จ่ายก็ถือเป็นอำนาจของรัฐบาล สำนักงานศาลยุติธรรมคงไม่สามารถคัดค้าน หรือแสดงความเห็นได้” เลขาธิการศาลยุติธรรมกล่าวตอนท้าย