“ธานี” นำทีมสอบสวนเข้าสอบปากคำ “สนธิ” ที่บ้านพระอาทิตย์ โดยยังไม่ยอมเปิดปากเหตุควบคุม 3 ผู้ต้องสงสัยทีมยิง “สนธิ ลิ้มทองกุล” ระบุชุดสืบสวนเร่งทำงานอยู่ ขณะที่ทางสืบสวนพุ่ง 2 กลุ่มผู้ต้องสงสัยเชื่อมโยงใกล้ชิด “ทักษิณ” อาจร่วมขบวนการโดยที่นายใหญ่ไม่ได้รับรู้
วันนี้ (30 เม.ย.) เวลา 09.30 น.ที่บ้านพระอาทิตย์ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนคดีลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ พร้อมด้วยทีมพนักงานสอบสวน ได้เดินทางเข้าสอบปากคำนายสนธิด้วยตนเอง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ และหลังจากการสอบปากคำเสร็จสิ้น นายสนธิจะเปิดให้ผู้สื่อข่าวทำการซักถาม
ส่วนกรณีที่เมื่อวานที่ผ่านมามีรายงานข่าวแจ้งว่า ชุดเฉพาะกิจที่ได้รับมอบหมายให้สืบสวนสอบสวนคดีนี้ ซึ่งแกนหลักเป็นตำรวจกองปราบปรามได้ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนตลอดทั้งวันในหลายจังหวัด เช่น ราชบุรี กาญจนบุรี และลพบุรี และสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้รวม 3 คน เป็นทหาร 2 นาย และพลเรือน 1 คน โดยได้นำตัวมาสอบสวนที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร แต่ยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหานั้น
อย่างไรก็ตาม จากรายงานข่าวดังกล่าว จากการสอบถาม พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวได้ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดถึงความคืบหน้า โดยระบุเพียงว่าเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่
ขณะที่ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนได้ลงพื้นที่ตามที่ได้รับมอบหมาย แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
สำหรับแนวทางสืบสวนสอบสวนในการคลี่คลายคดีลอบยิงนายสนธิตั้งแต่เกิดเหตุ มีรายงานว่าชุดสืบสวนได้พุ่งเป้าไปที่ 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกที่ชุดสืบสวนเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว คือกลุ่มของ “นาย จ.” นักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ จ.ลพบุรี ที่มีความกว้างขวาง และสนิทกับทหารหน่วบรบพิเศษ และเป็นเจ้าของวินรถตู้รายใหญ่ในพื้นที่ลพบุรี โดย นาย จ.มีความสนิทสนมกับ “นาย ส.” นักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเป็นเจ้าของวินรถตู้ในพื้นที่อยุธยา นอกจากนั้น นาย ส.ถือเป็นคนที่มีความสัมพันธ์และรับใช้แบบถวายชีวิตแก่นางพจนีย์ ณ ป้อมเพ็ชร แม่คุณหญิงพจมาน แต่หลังจากใช้เวลาในการติดตามความเคลื่อนไหว ชุดสืบสวนเชื่อว่ามีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากการก่อเหตุในครั้งนี้ต้องเป็นผู้ที่มีศักยภาพสูง
ส่วนกลุ่มที่ 2 ที่ชุดสืบสวนเกาะติด คือ กลุ่มผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี หลังจากพยานหลักฐานพบว่ามีความเป็นไปได้ประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมี “เสธ.คนดัง” เป็นผู้บงการใหญ่ โดยการเรียกใช้อดีตนายทหารที่เคยต้องคดีฆ่าคนตายมาเป็นคนรับงาน จากนั้นได้ประสานกับนักการเมืองระดับชาติในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ที่มีความใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้จัดหาทีมมือปืนในลงมือปฏิบัติการในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 กลุ่ม ถือเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกอบกับในครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เรืองอำนาจ บุคคลเหล่านั้นก็ได้รับประโยชน์จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนการก่อเหตุในครั้งนี้ทางสืบสวนเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะรู้เห็น หรือไม่มีส่วนรู้เห็นในการก่อเหตุ