ตำรวจประสานกองทัพ ตรวจสอบกระสุนยิง “สนธิ” ขณะที่กองพิสูจน์หลักฐาน ประชุมหาข้อยุติ ด้านชุดสืบสวนลงพื้นที่กาญจนบุรี และลพบุรี เพื่อตามหารถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ พร้อมรวบรวมบัญชีรายชื่อกลุ่มบุคคลเป้าหมายที่ต้องติดตามเป็นพิเศษ
วันนี้ (24 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชานเพื่อประชาธิปไตยว่า ขณะนี้ได้มีการประสานขอข้อมูลไปทางกองทัพบก เพื่อตรวจสอบกระสุนแล้ว และวันนี้กองพิสูจน์หลักฐานได้ร่วมประชุมเพื่อหาข้อยุติ ส่วนแนววิถีกระสุนั้นขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วนแล้ว สำหรับจำนวนรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุนั้นมีไม่ต่ำกว่า 2 คัน และคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุอยู่ที่ประมาณ 5-7 คน ส่วนปืนที่ยิงกระสุนระเบิดนั้นยังไม่ชัดเจนว่าเป็นเครื่องยิงแบบ เอ็ม 203 หรือ เอ็ม 79
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ซึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุ มาจากกองพลทหารราบที่ 9 นั้น เบื้องต้นพบว่าเป็นของหน่วย ร.9 พัน 1, ร.9 พัน 3 และ ร.29 พัน 2 ซึ่งอาจเล็ดลอดออกไประหว่างการฝึกซ้อม เพราะการควบคุมค่อนข้างยากลำบากในทางปฏิบัติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง โดยทางทหารไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ระบุแต่เพียงว่าหากข้อเท็จจริงปรากฏจะออกมาชี้แจงให้สาธารณชนได้รับทราบทันที
นอกจากนั้น ทางการสืบสวนแจ้งว่าการตรวจสอบปลอกและหัวกระสุนปืนเอ็ม 16 ที่พบจุดเกิดเหตุ เพื่อตามหาอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ใช้ยิงถล่มนายสนธิ เนื่องจากกระสุนชนิดดังกล่าวมีใช้เฉพาะในราชการทหาร จึงต้องให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงประสานหารือการตรวจสอบก่อน ทั้งนี้ ปืนเอ็ม 16 ที่ใช้ในค่ายทหารนั้นจะมีการเบิกใช้ตามอัตราการจัดยุทโธปกรณ์ ไม่ได้พกติดตัวในที่สาธารณะ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า การยิงอาวุธปืนเอ็ม 16 ใส่รถของนายสนธิ ทีมสืบเชื่อว่าเป็นความผิดพลาดของมือปืนที่ต้องการยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่รถนายสนธิ แต่เหนี่ยวไกพลาดไปที่ไกปืนเอ็ม 16 ทั้งนี้ อาวุธปืนเอ็ม 16 จะตั้งระบบการยิงได้ 3 แบบ คือ 1.ยิงธรรมดาทีละนัด 2.ยิงแบบเซมิออโตเมติก หรือกึ่งอัตโนมัติ คือเหนี่ยวไก 1 ครั้งจะทำให้กระสุนออก 3 นัด และ 3.ยิงแบบออโตเมติก หรือรัวยิง ซึ่งกระบอกปืนเอ็ม 16 ที่ยิงนายสนธิน่าจะตั้งไว้ที่ระบบเซมิออโตเมติก แต่กระสุนที่คนร้ายต้องการใช้สังหารนายสนธิ นอกจากระเบิดเอ็ม 79 แล้ว คืออาวุธปืนอาก้าที่ไม่มีใช้ในกองทัพไทย และพวก ผกค.เดิมนิยมใช้
ทั้งนี้ จากการประเมินฝีมือของมือปืนแล้วคาดว่าไม่ใช่มืออาชีพ โดยดูจากกลุ่มกระสุนที่ยิงออกไป และความผิดพลาดในการยิงที่ยังไม่นิ่ง ทั้งที่หวังผลถึงชีวิต ส่วนรถยนต์กระบะสีดำที่ใช้ยิงถล่มนั้น ทางชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) อยู่ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และลพบุรี เพื่อติดตามค้นหา ขณะเดียวกันยังรวบรวมบัญชีรายชื่อกลุ่มบุคคลเป้าหมายที่ต้องติดตามเป็นพิเศษด้วย
วันนี้ (24 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชานเพื่อประชาธิปไตยว่า ขณะนี้ได้มีการประสานขอข้อมูลไปทางกองทัพบก เพื่อตรวจสอบกระสุนแล้ว และวันนี้กองพิสูจน์หลักฐานได้ร่วมประชุมเพื่อหาข้อยุติ ส่วนแนววิถีกระสุนั้นขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วนแล้ว สำหรับจำนวนรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุนั้นมีไม่ต่ำกว่า 2 คัน และคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุอยู่ที่ประมาณ 5-7 คน ส่วนปืนที่ยิงกระสุนระเบิดนั้นยังไม่ชัดเจนว่าเป็นเครื่องยิงแบบ เอ็ม 203 หรือ เอ็ม 79
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ซึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุ มาจากกองพลทหารราบที่ 9 นั้น เบื้องต้นพบว่าเป็นของหน่วย ร.9 พัน 1, ร.9 พัน 3 และ ร.29 พัน 2 ซึ่งอาจเล็ดลอดออกไประหว่างการฝึกซ้อม เพราะการควบคุมค่อนข้างยากลำบากในทางปฏิบัติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง โดยทางทหารไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ระบุแต่เพียงว่าหากข้อเท็จจริงปรากฏจะออกมาชี้แจงให้สาธารณชนได้รับทราบทันที
นอกจากนั้น ทางการสืบสวนแจ้งว่าการตรวจสอบปลอกและหัวกระสุนปืนเอ็ม 16 ที่พบจุดเกิดเหตุ เพื่อตามหาอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ใช้ยิงถล่มนายสนธิ เนื่องจากกระสุนชนิดดังกล่าวมีใช้เฉพาะในราชการทหาร จึงต้องให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงประสานหารือการตรวจสอบก่อน ทั้งนี้ ปืนเอ็ม 16 ที่ใช้ในค่ายทหารนั้นจะมีการเบิกใช้ตามอัตราการจัดยุทโธปกรณ์ ไม่ได้พกติดตัวในที่สาธารณะ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า การยิงอาวุธปืนเอ็ม 16 ใส่รถของนายสนธิ ทีมสืบเชื่อว่าเป็นความผิดพลาดของมือปืนที่ต้องการยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่รถนายสนธิ แต่เหนี่ยวไกพลาดไปที่ไกปืนเอ็ม 16 ทั้งนี้ อาวุธปืนเอ็ม 16 จะตั้งระบบการยิงได้ 3 แบบ คือ 1.ยิงธรรมดาทีละนัด 2.ยิงแบบเซมิออโตเมติก หรือกึ่งอัตโนมัติ คือเหนี่ยวไก 1 ครั้งจะทำให้กระสุนออก 3 นัด และ 3.ยิงแบบออโตเมติก หรือรัวยิง ซึ่งกระบอกปืนเอ็ม 16 ที่ยิงนายสนธิน่าจะตั้งไว้ที่ระบบเซมิออโตเมติก แต่กระสุนที่คนร้ายต้องการใช้สังหารนายสนธิ นอกจากระเบิดเอ็ม 79 แล้ว คืออาวุธปืนอาก้าที่ไม่มีใช้ในกองทัพไทย และพวก ผกค.เดิมนิยมใช้
ทั้งนี้ จากการประเมินฝีมือของมือปืนแล้วคาดว่าไม่ใช่มืออาชีพ โดยดูจากกลุ่มกระสุนที่ยิงออกไป และความผิดพลาดในการยิงที่ยังไม่นิ่ง ทั้งที่หวังผลถึงชีวิต ส่วนรถยนต์กระบะสีดำที่ใช้ยิงถล่มนั้น ทางชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) อยู่ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และลพบุรี เพื่อติดตามค้นหา ขณะเดียวกันยังรวบรวมบัญชีรายชื่อกลุ่มบุคคลเป้าหมายที่ต้องติดตามเป็นพิเศษด้วย
