วิน จยย.แจ้งเบาะแสนำจับผู้ต้องหาปล้นเหยื่อตามสะพานลอย ขัดขืนฆ่าทิ้ง นำเงินไปเที่ยวอย่างสำราญ ตามหมายจับปฏิทินโจร ได้รับเงินแสนเป็นรางวัลนำจับ โดยตามจับได้ขณะผู้ต้องหาหนีไปบวชซุกชายผ้าเหลือง หลังหลบหนีคดีนานกว่า 7 ปี
วันนี้ (23 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 09.30 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พ.ต.ต.ณพพนธ์ ธนภัตนันท์ สว.สส.สน.บางกอกใหญ่ พร้อมพวกร่วมกันจับกุม นายจตุรงค์ หงษา อยู่บ้านเลขที่ 54/6 ม.10 แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพ หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.2151/2546 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2546 ข้อหาปล้นทรัพย์ ผู้ต้องหาตามปฏิทินโจร ลำดับที่ 23 ซึ่งมีค่าหัวจำนวน 100,000 บาท
จากการสอบสวนผู้ต้องหา เบื้องต้นรับสภาพว่าก่อนหน้านี้เคยทำงานผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์แต่เงินไม่พอใช้ จึงได้ลงมือปล้นโดยตระเวนออกปล้นตามท้องที่ต่างๆ เน้นเหยื่อตามสะพานลอย หากขัดขืนก็จะลงมือฆ่าทันที เมื่อลงมือแล้วก็จะนำเงินไปเที่ยวเตร่ หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปในหลายท้องที่ โดยจะไปรับจ้างหาเงินใช้ และรับจ้างญาติเลี้ยงปลา ก่อนมาเป็นลูกเรือประมงที่ จ.สมุทสาคร โดยใช้เวลาหลบหนีทั้งสิ้น 7 ปี ก่อนที่แม่ขอร้องให้บวชทดแทนบุญคุณ ตนจึงตัดสินใจมาบวชที่วัดหนองฝ้าย ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เนื่องจากมีหลวงลุงบวชเป็นพระอยู่ก่อนแล้ว และเพิ่งบวชได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว
พ.ต.ต.ณพพนธ์ กล่าวว่า เบื้องต้นมีวินจักรยานยนต์รับจ้างย่านบางกอกใหญ่ เข้ามาแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนว่าพบผู้ต้องหาตามปฏิทินโจรของนครบาล ที่ จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบตามฐานข้อมูลจนทราบว่าผู้ต้องหาหนีไปบวชที่วัดดังกล่าว และจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพบว่า ผู้ต้องหายังเคยก่อเหตุในหลายพื้นที่ คือ ท้องที่ สน.โชคชัย สน.บางชัน ข้อหาปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ สน.หัวหมาก ข้อหาปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ และปล้นทรัพย์ และยังสืบทราบว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุปล้นทรัพย์บนสะพานลอยในช่วงที่ผ่านมาด้วย
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า ในหลายคดีเมื่อผู้ต้องหาก่อเหตุและหลบหนีไปประมาณ 1-2 ปี ก็จะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เนื่องจากคิดว่าตำรวจไม่ติดตามแล้ว และอีกอย่างมักจะมีคดีอื่นๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอจึงต้องมีการจัดทำปฏิทินออกมาเพื่อเป็นการเตือนว่ายังมีคดีค้างเก่าอยู่ และอยากขอความร่วมมือกับประชาชนที่พบเห็นผู้ต้องหาที่ปรากฏตามปฏิทินสามารถแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุก สน.ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งข้อมูลต่างๆ เจ้าหน้าที่จะเก็บไว้เป็นความลับเพื่อความปลอดภัยของผู้แจ้ง และหากนำไปสู่การจับกุมก็จะได้รับเงินรางวัลนำจับตามประกาศด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จ พล.ต.ท.วรพงษ์ ได้มอบรางวัลนำจับเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท ผ่านทาง พ.ต.ต.ณพพนธ์ ธนภัตนันท์ สว.สส.สน.บางกอกใหญ่ มอบแก่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง พลเมืองดีรายนี้เพื่อเป็นกำลังใจต่อไป