“วรพงษ์” ประชุมเครียดล่ามือยิง “สนธิ” ระบุคนร้ายเฝ้าติดตามรู้การเคลื่อนไหวก่อนดักซุ่มลงมือ คาดมีคนร้ายร่วมก่อเหตุถึง 7 คน และใช้รถปิกอัพ 2 คัน พร้อมดึงแฟนพันธุ์แท้ช่วยสืบหารถต้องสงสัย เผย “ธานี” เตรียมเรียกประชุมสางคดีลอบสังหาร “สนธิ” พรุ่งนี้ ด้าน พฐ.ถอดล้อรถตรวจหาหลักฐานและร่องรอยวิถีกระสุนเพิ่ม
วันนี้ (19 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. เปิดเผยภายหลังเรียกประชุมผู้บังคับบัญชาระดับรอง ผบช.น. ผู้บังคับการนครบาล 1-9 และเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวน บชน.เพื่อเร่งรัดคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้ง นสพ.เครือผู้จัดการ และ ASTV และคนขับรถจนได้รับบาดเจ็บ
โดยความคืบหน้านั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายสืบสวนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายขับรถกระบะออกมาจากบริเวณสี่แยกเทเวศร์แล้วเลี้ยวซ้าย แต่คนร้ายไม่ได้ขับรถตามมาตั้งแต่แรก
ผบช.น.กล่าวอีกว่า น่าเชื่อว่าคนร้ายดักซุ่มอยู่ก่อนจุดเกิดเหตุถึงแยกเทเวศร์ เมื่อรถนายสนธิมาถึงแยกนั้น รถคนร้ายก็ออกไปก่อน แสดงว่าคนร้ายต้องทราบว่ารถคุณสนธิออกมาเมื่อเวลาไหน โดยมีอาวุธปืนทั้งหมด 6 กระบอก แต่ปืนเอ็ม 79 นั้นยังไม่ทราบว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับปืนเอ็ม 16 หรือเป็นคนละกระบอก ส่วนคนร้ายนั้นคาดว่ามีประมาณ 6 หรือ 7 คน ส่วนรถที่คนร้ายใช้นั้นคาดว่ามีประมาณ 2 คัน ทั้งหมดเป็นรถปิกอัพ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ประสานไปยังผู้ที่เชี่ยวชาญหรือแฟนพันธุ์แท้รถปิกอัพ เพื่อให้มาดูภาพว่ารถที่คนร้ายใช้เป็นรถกระบะยี่ห้อและรุ่นอะไร สำหรับคุณสนธิและผู้ติดตามที่นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้แบ่งงานในความรับผิดชอบระดับรอง ผบ.ตร.ใหม่ โดยให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบคดีในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล และภูธรภาค 7 ว่า พล.ต.อ.ธานีได้นัดประชุมพนักงานสอบสวนคดีที่เกี่ยวกับการประกาศพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน วันพรุ่งนี้ เวลา 09.30 น.หลังจากนั้นจะเรียกประชุมในคดีคนร้ายลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ต่อไป ทั้งนี้ คดีของนายสนธิยังอยู่ในความรับผิดชอบระดับกองบัญชาการตำรวจนครบาล แต่รอง ผบ.ตร.ลงมาช่วยทำหน้าที่กำกับดูแลคดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจที่รับผิดชอบคดีคนร้ายยิงนายสนธิมีความกดดันหรือไม่ เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯ ได้กำหนดกรอบระยะเวลาให้ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีดังกล่าวโดยเร็ว ผบช.น.กล่าวว่า จริงๆ แล้วตำรวจมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ซึ่งเป็นความกดดันต่อตัวเองอยู่แล้ว ตลอดเวลาที่ทำงานได้ให้ความเคารพต่อหน้าที่ ทำให้ตำรวจต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง และพยายามติดตามความคืบหน้าของคดีอยู่ตลอดเวลา ซึ่งที่ผ่านมาตนและรองผู้บัญชาการที่เกี่ยวข้องหลายคนก็ไม่ได้กลับบ้าน ทำงานและนอนอยู่ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น.ที่ สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.พงษ์นเรศวร์ ตันติวัฒนา นักวิทยาศาสตร์ (สบ 3) กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ เดินทางเข้าตรวจสอบล้อรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าอัลพาร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน วล 89 กทม.ของนายสนธิอีกครั้ง เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ได้นำยางรถยนต์ทั้ง 4 ล้อ ถอดออกมาตรวจสอบร่องรอยว่ายางรถยนต์ทั้ง 4 เส้นถูกวางเรือใบก่อนที่จะเกิดเหตุ หรือคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงยางรถยนต์เพื่อต้องการหยุดรถ ก่อนลงมือกระหน่ำยิงนายสนธิด้วยอาวุธสงครามนานาชนิด
จากการตรวจสอบพบว่าล้อหน้าด้านขวามีหัวกระสุนปืนอาก้า 1 นัด มีรอยถูกยิง 4-5 รู ล้อหน้าด้านซ้ายไม่พบหัวกระสุน มีรอยถูกยิง 2 รู ล้อหลังด้านขวา พบเศษโลหะ 1 ชิ้น มีรอยถูกยิง 2-3 รู และล้อหลังด้านซ้ายพบหัวกระสุน 1 นัด รอการพิสูจน์ว่าเป็นหัวกระสุนชนิดใด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ทราบว่า รถของนายสนธิ ถูกยิงขณะกำลังแล่นอยู่ จนยางแตกทั้ง 4 ล้อ ทำให้รถหยุด จากนั้นคนร้ายได้ลงมือสาดกระสุนใส่จากส่วนบนของตัวรถ ไล่ลงสู่ตัวถังด้านล่าง อย่างไรก็ตามจะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง
วันนี้ (19 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. เปิดเผยภายหลังเรียกประชุมผู้บังคับบัญชาระดับรอง ผบช.น. ผู้บังคับการนครบาล 1-9 และเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวน บชน.เพื่อเร่งรัดคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้ง นสพ.เครือผู้จัดการ และ ASTV และคนขับรถจนได้รับบาดเจ็บ
โดยความคืบหน้านั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายสืบสวนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายขับรถกระบะออกมาจากบริเวณสี่แยกเทเวศร์แล้วเลี้ยวซ้าย แต่คนร้ายไม่ได้ขับรถตามมาตั้งแต่แรก
ผบช.น.กล่าวอีกว่า น่าเชื่อว่าคนร้ายดักซุ่มอยู่ก่อนจุดเกิดเหตุถึงแยกเทเวศร์ เมื่อรถนายสนธิมาถึงแยกนั้น รถคนร้ายก็ออกไปก่อน แสดงว่าคนร้ายต้องทราบว่ารถคุณสนธิออกมาเมื่อเวลาไหน โดยมีอาวุธปืนทั้งหมด 6 กระบอก แต่ปืนเอ็ม 79 นั้นยังไม่ทราบว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับปืนเอ็ม 16 หรือเป็นคนละกระบอก ส่วนคนร้ายนั้นคาดว่ามีประมาณ 6 หรือ 7 คน ส่วนรถที่คนร้ายใช้นั้นคาดว่ามีประมาณ 2 คัน ทั้งหมดเป็นรถปิกอัพ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ประสานไปยังผู้ที่เชี่ยวชาญหรือแฟนพันธุ์แท้รถปิกอัพ เพื่อให้มาดูภาพว่ารถที่คนร้ายใช้เป็นรถกระบะยี่ห้อและรุ่นอะไร สำหรับคุณสนธิและผู้ติดตามที่นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้แบ่งงานในความรับผิดชอบระดับรอง ผบ.ตร.ใหม่ โดยให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบคดีในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล และภูธรภาค 7 ว่า พล.ต.อ.ธานีได้นัดประชุมพนักงานสอบสวนคดีที่เกี่ยวกับการประกาศพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน วันพรุ่งนี้ เวลา 09.30 น.หลังจากนั้นจะเรียกประชุมในคดีคนร้ายลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ต่อไป ทั้งนี้ คดีของนายสนธิยังอยู่ในความรับผิดชอบระดับกองบัญชาการตำรวจนครบาล แต่รอง ผบ.ตร.ลงมาช่วยทำหน้าที่กำกับดูแลคดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจที่รับผิดชอบคดีคนร้ายยิงนายสนธิมีความกดดันหรือไม่ เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯ ได้กำหนดกรอบระยะเวลาให้ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีดังกล่าวโดยเร็ว ผบช.น.กล่าวว่า จริงๆ แล้วตำรวจมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ซึ่งเป็นความกดดันต่อตัวเองอยู่แล้ว ตลอดเวลาที่ทำงานได้ให้ความเคารพต่อหน้าที่ ทำให้ตำรวจต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง และพยายามติดตามความคืบหน้าของคดีอยู่ตลอดเวลา ซึ่งที่ผ่านมาตนและรองผู้บัญชาการที่เกี่ยวข้องหลายคนก็ไม่ได้กลับบ้าน ทำงานและนอนอยู่ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น.ที่ สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.พงษ์นเรศวร์ ตันติวัฒนา นักวิทยาศาสตร์ (สบ 3) กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ เดินทางเข้าตรวจสอบล้อรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าอัลพาร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน วล 89 กทม.ของนายสนธิอีกครั้ง เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ได้นำยางรถยนต์ทั้ง 4 ล้อ ถอดออกมาตรวจสอบร่องรอยว่ายางรถยนต์ทั้ง 4 เส้นถูกวางเรือใบก่อนที่จะเกิดเหตุ หรือคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงยางรถยนต์เพื่อต้องการหยุดรถ ก่อนลงมือกระหน่ำยิงนายสนธิด้วยอาวุธสงครามนานาชนิด
จากการตรวจสอบพบว่าล้อหน้าด้านขวามีหัวกระสุนปืนอาก้า 1 นัด มีรอยถูกยิง 4-5 รู ล้อหน้าด้านซ้ายไม่พบหัวกระสุน มีรอยถูกยิง 2 รู ล้อหลังด้านขวา พบเศษโลหะ 1 ชิ้น มีรอยถูกยิง 2-3 รู และล้อหลังด้านซ้ายพบหัวกระสุน 1 นัด รอการพิสูจน์ว่าเป็นหัวกระสุนชนิดใด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ทราบว่า รถของนายสนธิ ถูกยิงขณะกำลังแล่นอยู่ จนยางแตกทั้ง 4 ล้อ ทำให้รถหยุด จากนั้นคนร้ายได้ลงมือสาดกระสุนใส่จากส่วนบนของตัวรถ ไล่ลงสู่ตัวถังด้านล่าง อย่างไรก็ตามจะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง