คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบยิงระเบิดเอ็ม79 เข้าไปยังศาลรัฐธรรมนูญจำนวน 3 ลูกกลางดึก แต่ระเบิดเพียงลูกเดียว สะเก็ดระเบิดถูก สห. ที่เฝ้าอยู่เจ็บ 1 ตำรวจยังไม่ปักใจว่าเป็นฝีมือฝ่ายใดเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด
วันนี้(13 เม.ย.) เมื่อเวลา 01.30น. ร.ต.ต.วีรวัฒน์ สว่างรุ่งโรจน์ชัย ร้อยเวร สน.พระราชวัง ได้รับแจ้งเหตุ คนร้ายบุกยิงระเบิดเอ็ม79 เข้าไปในศาลรัฐธรรมนูญ ถ.จักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ.บช.น.และรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดพร้อมด้วย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.
ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหน้าต่างชั้นที่2 ของศาลรัฐธรรมนูญ พบว่าถูกแรงระเบิดเสียหายจนหน้าต่างไม้แตกเสียหาย และสะเก็ดระเบิดยังกระเด็นไปถูก ส.อ.วันชัย วัฒนพงศ์ศิริ สห.ซึ่งทำหน้าที่ รปภ.ศาลรัฐธรรมนูญที่เฝ้าอยู่ด้านใน ได้รับบาดเจ็บที่เท้า เจ้าหน้าที่นำส่งรพ.กลาง ถัดไปภายในรั้วห่างจากจุดที่มีการระเบิดประมาณ 20 เมตร ยังพบระเบิดชนิดเดียวกันตกอยู่อีกจำนวน 2 ลูก แต่ยังไม่ระเบิด เจ้าหน้าที่จึงนำยางรถยนต์มาครอบไว้ และทำการตรวจพิสูจน์
จากการสอบสวน ด.ต.นิกร ขุนหอม ผบ.หมู่ จราตรสน.จักรวรรดิ ที่ประจำการอยู่ที่ด่านตรวจหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมตำรวจอีก3 นาย ได้มาปฎิบัติหน้าที่แทนตำรวจพื้นที่ สน.พระราชวัง เนื่องจากสน.พระราชวังมีกำลังตำรวจไม่ ขณะทำหน้าที่อยู่ด้านหน้าประตูศาล ก็ได้ยินเสียงดังสนั่น จึงหันไปดูด้านในเห็น สห.ที่อยู่ด้านในได้รับบาดเจ็บ จึงออกมาดูด้านนอกก็ไม่พบเห็นคนร้ายที่ยิงคาดว่าหนีไปก่อน แต่ก่อนเกิดเหตุเห็นรถยนต์ ไม่ทราบชนิด ยี่ห้อ ขับผ่านก่อนหน้าเพียงไม่นาน
ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจเบื้องต้นพบว่ายิงมาคนร้ายยิงระเบิดดังกล่าวเข้ามาจำนวน 3นัด ระบิด ที่ตรวจพบเป็นระเบิดคล้ายชนิดเอ็ม79 อย่างไรก็ตามต้องให้หน่วยตรวจพอสูจน์ตรวจสอบเพื่อระบุชนิดอีกครั้ง ตแต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าระเบิดถูกยิงมาจากด้านอาคารการไฟฟ้านครหลวงซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ยังไม่ทราบจำนวนคนร้าย ต้องรอตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าระเบิดชนิดนี้เป็นอาวุธสงครามคนร้ายอาจเป็นเจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจได้หรือไม่ พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า ไม่จำเป็นเพราะคนร้ายทั่วไปตำรวจก็เคยตรวจจับได้ว่ามีไว้ในครอบครอง จึงยังไม่ได้มุ่งประเด็นการสืบสวนว่าคนร้ายเป็นฝ่านใด หรือเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่ ส่วนจะมีการเพิ่มกำลัง เพื่อดูแลความปลอดภัยสถานที่ราชการอื่นหรือไม่ ต้องตรวจสอบก่อนว่ามีความจำเป็นหรือไม่ อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็มีกำลังทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว แต่ก็ต้องขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับตำรวจหากพบสิ่งวผิดปกติ สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่ 191
ทั้งนี้มีรายงานว่า บริเวณด้านหน้าศาลรัฐธรรมนูญมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด บริเวณเสาไฟฟ้าตรงข้ามประตูทางเข้าอยู่จำนวน 3 ตัว แต่ผิดปกติที่กล้องทั้ง 3 ตัวนั้นเสียพร้อมกัน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำเทปบันทึกภาพจากกล้องทั้ง 3 ตัวไปตรวจสอบอีกครั้งว่าสามารถบันทึกภาพภาพคนร้ายขณะก่อเหตุได้หรือไม่
วันนี้(13 เม.ย.) เมื่อเวลา 01.30น. ร.ต.ต.วีรวัฒน์ สว่างรุ่งโรจน์ชัย ร้อยเวร สน.พระราชวัง ได้รับแจ้งเหตุ คนร้ายบุกยิงระเบิดเอ็ม79 เข้าไปในศาลรัฐธรรมนูญ ถ.จักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ.บช.น.และรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดพร้อมด้วย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.
ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหน้าต่างชั้นที่2 ของศาลรัฐธรรมนูญ พบว่าถูกแรงระเบิดเสียหายจนหน้าต่างไม้แตกเสียหาย และสะเก็ดระเบิดยังกระเด็นไปถูก ส.อ.วันชัย วัฒนพงศ์ศิริ สห.ซึ่งทำหน้าที่ รปภ.ศาลรัฐธรรมนูญที่เฝ้าอยู่ด้านใน ได้รับบาดเจ็บที่เท้า เจ้าหน้าที่นำส่งรพ.กลาง ถัดไปภายในรั้วห่างจากจุดที่มีการระเบิดประมาณ 20 เมตร ยังพบระเบิดชนิดเดียวกันตกอยู่อีกจำนวน 2 ลูก แต่ยังไม่ระเบิด เจ้าหน้าที่จึงนำยางรถยนต์มาครอบไว้ และทำการตรวจพิสูจน์
จากการสอบสวน ด.ต.นิกร ขุนหอม ผบ.หมู่ จราตรสน.จักรวรรดิ ที่ประจำการอยู่ที่ด่านตรวจหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมตำรวจอีก3 นาย ได้มาปฎิบัติหน้าที่แทนตำรวจพื้นที่ สน.พระราชวัง เนื่องจากสน.พระราชวังมีกำลังตำรวจไม่ ขณะทำหน้าที่อยู่ด้านหน้าประตูศาล ก็ได้ยินเสียงดังสนั่น จึงหันไปดูด้านในเห็น สห.ที่อยู่ด้านในได้รับบาดเจ็บ จึงออกมาดูด้านนอกก็ไม่พบเห็นคนร้ายที่ยิงคาดว่าหนีไปก่อน แต่ก่อนเกิดเหตุเห็นรถยนต์ ไม่ทราบชนิด ยี่ห้อ ขับผ่านก่อนหน้าเพียงไม่นาน
ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจเบื้องต้นพบว่ายิงมาคนร้ายยิงระเบิดดังกล่าวเข้ามาจำนวน 3นัด ระบิด ที่ตรวจพบเป็นระเบิดคล้ายชนิดเอ็ม79 อย่างไรก็ตามต้องให้หน่วยตรวจพอสูจน์ตรวจสอบเพื่อระบุชนิดอีกครั้ง ตแต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าระเบิดถูกยิงมาจากด้านอาคารการไฟฟ้านครหลวงซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ยังไม่ทราบจำนวนคนร้าย ต้องรอตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าระเบิดชนิดนี้เป็นอาวุธสงครามคนร้ายอาจเป็นเจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจได้หรือไม่ พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า ไม่จำเป็นเพราะคนร้ายทั่วไปตำรวจก็เคยตรวจจับได้ว่ามีไว้ในครอบครอง จึงยังไม่ได้มุ่งประเด็นการสืบสวนว่าคนร้ายเป็นฝ่านใด หรือเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่ ส่วนจะมีการเพิ่มกำลัง เพื่อดูแลความปลอดภัยสถานที่ราชการอื่นหรือไม่ ต้องตรวจสอบก่อนว่ามีความจำเป็นหรือไม่ อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็มีกำลังทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว แต่ก็ต้องขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับตำรวจหากพบสิ่งวผิดปกติ สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่ 191
ทั้งนี้มีรายงานว่า บริเวณด้านหน้าศาลรัฐธรรมนูญมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด บริเวณเสาไฟฟ้าตรงข้ามประตูทางเข้าอยู่จำนวน 3 ตัว แต่ผิดปกติที่กล้องทั้ง 3 ตัวนั้นเสียพร้อมกัน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำเทปบันทึกภาพจากกล้องทั้ง 3 ตัวไปตรวจสอบอีกครั้งว่าสามารถบันทึกภาพภาพคนร้ายขณะก่อเหตุได้หรือไม่