กองปราบฯบุกจับ 2 เจ้าของร้านสุดแสบ แก้ไข้ข้อมูลบัตรสมาร์ทการ์ดถอดรหัสสัญญาณของบริษัท ทรูวิชั่นส์ ที่หมดอายุ เพื่อให้สามารถรับชมรายการ ของทรูวิชั่นส์ ต่อได้ ก่อนนำมาขายให้กับลูกค้าที่สนใจ สารภาพ ทำเป็นครั้งแรกได้บัตรมาจากชาวต่างชาติในราคา 8,000 บาท มาขายต่อ 9,000 บาท
วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.เชี่ยววิทย์ ศรีวิเชียร สว.ฝป.10 บก.ป.พร้อมด้วย ร.ต.อ.สิทธิศักดิ์ หล๋อโตน พนักงานสอบสวน ฝป.10 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายอำนาจ รัตนวารินทร์ชัย อยู่บ้านเลขที่ 39/25 หมู่ 4 ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เจ้าของร้าน “เชษฐ์การช่าง” และ นายอัมรินทร์ ศิริศรีวรงค์ อยู่บ้านเลขที่ 224 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 66/1 แขวงและเขตบางพลัด กทม.เจ้าของร้าน “อัมรินทร์” ถนนบ้านหม้อ แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม.ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1748 และ 1749/2551 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2551 ข้อหาจำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอีเล็กทรอนิกส์ที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้น พร้อมของกลางบัตรสมาร์ทการ์ดปลอมของ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) โดยจับกุมได้ที่แผงค้าของทั้ง 2 ร้านดังกล่าว
พ.ต.ท.เชี่ยววิทย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ อดีต รอง ผบ.ตร.รับมอบหมายอำนาจจากบริษัท ทรูวิชั่นส์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับกองบังคับการปราบปราม เพื่อให้สืบสวนจับกุมผู้ลักลอบทำปลอมและจำหน่ายบัตรสมาร์ทการ์ดของบริษัท ทรูวิชั่นส์ ซึ่งออกให้กับสมาชิกใช้ประกอบกับเครื่องรับและถอดรหัสสัญญาณและจานดาวเทียมเพื่อรับชมรายการต่างๆ ของทรูวิชั่นส์ ภายในบริเวณแผงค้าย่านบ้านหม้อ
พ.ต.ท.เชี่ยววิทย์ กล่าวต่อว่า จากนั้นชุดสืบสวนได้เข้าล่อซื้อบัตรสมาร์ทการ์ดจากร้านเชษฐ์การช่าง โดยผู้ต้องหาจำหน่ายให้ในราคา 9,000 บาท สำหรับการรับชมรายการต่างๆ ของทรูวิชั่นส์ แบบแพลตินัมแพกเกจ ตลอดระยะเวลา 6 เดือน เมื่อบัตรหมดอายุการใช้งานแล้วก็สามารถนำมาแก้ข้อมูลเพื่อใช้รับชมรายการต่อไปได้อีกโดยจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มเติมอีก 1,000 บาท ขณะที่ ร้านอัมรินทร์ จำหน่ายในราคา 10,000 บาท โดยสามารถรับชมรายการต่างๆ ได้ตลอดระยะเวลา 1 ปี ซึ่งภายหลังชุดสืบสวนได้นำมาทดลองใช้งานแล้วพบว่า สามารถใช้งานได้เช่นเดียวกับบัตรสมาร์ทการ์ดของแท้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ ว่า ได้รับบัตรสมาร์ทการ์ดมาจากชาวต่างชาติในราคา 8,000 บาท ก่อนจะนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้าที่สนใจในราคา 9,000 บาท โดยเพิ่งเริ่มทำเป็นครั้งแรก จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน ฝป.10 บก.ป.ดำเนินคดีต่อไป