ผบช.น.ถกบิ๊กตำรวจระดับผู้ใหญ่ วางแผนแก้ปัญหา “แดงถ่อย” ป่วนทั่วกรุง ขณะที่แหล่งข่าว ระบุ อาจนำกฎหมายจราจร บังคับใช้เอาผิดกลุ่มแท็กซี่ทาสรับใช้ทักษิณ โทษปรับไม่เกิน 500 บาท และกฎหมายอาญา โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกินหมื่นบาท สั่งฝ่ายสืบสวนจับภาพแท็กซี่ทุกคันที่จอดขวาง เตรียมเรียกเจ้าของมารับข้อกล่าวหา ส่วนรถยกเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯไม่ได้ “ภานุ” เร่งคุยเปิดทาง
วันนี้ (9 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 15.00 น.พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.เรียกประชุมนายตำรวจระดับ รอง ผบช.น. ผบก.น.1-9 รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ดาวกระจายไปยังพรรคประชาธิปัตย์ กระทรวงการต่างประเทศ และศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงการนำรถแท็กซี่ปิดถนนรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และทางขึ้นทางด่วน ดินแดง ทำให้การจราจรเป็นอัมพาตทั่ว กทม.
แหล่งข่าวจากองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เบื้องต้นอาจจะมีการนำ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 58 การจอดรถในทางเดินรถที่ผู้ขับขี่ไม่อาจอยู่ควบคุมรถนั้น ผู้ขับขี่ต้องหยุดเครื่องยนต์และห้ามล้อรถนั้นไว้ การจอดรถในทางเดินรถที่เป็นทางลาดหรือชัน ผู้ขับขี่ต้องหันล้อหน้าของรถเข้าขอบทาง มีอัตราโทษปรับ ไม่เกิน 500 บาท และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 229 ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ให้ทางสาธารณะ ประตูน้ำ ทำนบ เขื่อน อันเป็นส่วนของทางสาธารณ หรือที่ขึ้นลงของอากาศยาน อยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่การจราจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แหล่งข่าวจากกองบัญชากการตำรวจนครบาล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนบันทึกภาพทะเบียนรถแท็กซี่ที่มาจอดขวางทุกคัน เพื่อเป็นหลักฐานทางคดี หากเป็นรถส่วนบุคคลจะดำเนินการเรียกเจ้าของรถมารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนที่เป็นรถเช่า จะดำเนินการตรวจสอบว่าช่วงเวลาดังกล่าวผู้ใดเช่ามาขับ และจะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาเช่นกัน
ทางด้าน พล.ต.ต.วีระพัฒน์ ตันศรีสกุล ผู้บังคับการตำรวจจราจร กองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ดูแลงานด้านจราจร กำลังเร่งเจรจาแกนนำแท็กซี่ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อให้เปิดถนน ส่วนรถยกนั้น ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เนื่องจากการจราจรติดขัด เบื้องต้นในการพูดคุยกับแกนนำทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้การเจรจาเพื่อให้ทราบถึงการกระทำดังกล่าวมีความผิดทางอาญา และความผิดทาง พ.ร.บ.จราจรทางบก
พล.ต.ต.วีระพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกองบังคับการตำรวจจราจร ได้มีการแจ้งประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนเลี่ยงเส้นทางเข้าถนนอนุสาวรีย์ชัยฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
วันนี้ (9 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 15.00 น.พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.เรียกประชุมนายตำรวจระดับ รอง ผบช.น. ผบก.น.1-9 รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ดาวกระจายไปยังพรรคประชาธิปัตย์ กระทรวงการต่างประเทศ และศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงการนำรถแท็กซี่ปิดถนนรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และทางขึ้นทางด่วน ดินแดง ทำให้การจราจรเป็นอัมพาตทั่ว กทม.
แหล่งข่าวจากองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เบื้องต้นอาจจะมีการนำ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 58 การจอดรถในทางเดินรถที่ผู้ขับขี่ไม่อาจอยู่ควบคุมรถนั้น ผู้ขับขี่ต้องหยุดเครื่องยนต์และห้ามล้อรถนั้นไว้ การจอดรถในทางเดินรถที่เป็นทางลาดหรือชัน ผู้ขับขี่ต้องหันล้อหน้าของรถเข้าขอบทาง มีอัตราโทษปรับ ไม่เกิน 500 บาท และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 229 ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ให้ทางสาธารณะ ประตูน้ำ ทำนบ เขื่อน อันเป็นส่วนของทางสาธารณ หรือที่ขึ้นลงของอากาศยาน อยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่การจราจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แหล่งข่าวจากกองบัญชากการตำรวจนครบาล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนบันทึกภาพทะเบียนรถแท็กซี่ที่มาจอดขวางทุกคัน เพื่อเป็นหลักฐานทางคดี หากเป็นรถส่วนบุคคลจะดำเนินการเรียกเจ้าของรถมารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนที่เป็นรถเช่า จะดำเนินการตรวจสอบว่าช่วงเวลาดังกล่าวผู้ใดเช่ามาขับ และจะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาเช่นกัน
ทางด้าน พล.ต.ต.วีระพัฒน์ ตันศรีสกุล ผู้บังคับการตำรวจจราจร กองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ดูแลงานด้านจราจร กำลังเร่งเจรจาแกนนำแท็กซี่ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อให้เปิดถนน ส่วนรถยกนั้น ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เนื่องจากการจราจรติดขัด เบื้องต้นในการพูดคุยกับแกนนำทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้การเจรจาเพื่อให้ทราบถึงการกระทำดังกล่าวมีความผิดทางอาญา และความผิดทาง พ.ร.บ.จราจรทางบก
พล.ต.ต.วีระพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกองบังคับการตำรวจจราจร ได้มีการแจ้งประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนเลี่ยงเส้นทางเข้าถนนอนุสาวรีย์ชัยฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
