รถเก๋งคัมรี่ขับพุ่งชนกลุ่มทาสแม้วแดง หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ การ์ดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย แกนนำวอนเจ้าหน้าที่ตามจับมาดำเนินคดี หวั่นกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว อาจเพิ่มความเข้มข้นในการชุมนุมมากขึ้น
วันนี้ (9 เม.ย.) เมื่อเวลา 07.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดเหตุระทึกขวัญขึ้นในขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ในพื้นที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ได้มีรถรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กค-5881 จันทบุรี ขับมาจากแยกกองพลที่ 1 รอ โดยมีหญิงสาวผู้หนึ่งเป็นคนขับ วิ่งมุ่งหน้าไปยังแยกสี่เสาเทเวศน์ อย่างช้าๆ เมื่อรถคันดังกล่าวขับเข้ามาใกล้รถเวทีปราศรัยชั่วคราว ขณะนั้นมี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.และแกนนำคนอื่น ๆ รอปราศรัยอยู่ ก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อรถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องด้วยความเร็วอย่างเต็มที่พุ่งเฉี่ยวชนผู้ชุมนุมที่ไม่ทันระวังตัวจนได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นรถคันดังกล่าวก็ได้วิ่งไปกลับรถบริเวณแยกสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งมีกำลังตำรวจและการ์ด นปช.ตั้งจุดตรวจอยู่แยกดังกล่าว และพยายามสกัดแต่ไม่เป็นผล โดยรถคันนี้ได้ขับฝ่ากลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาอีกรอบอย่างรวดเร็วจนผู้ชุมนุมแตกกระเจิงหนีคนละทิศละทาง ทำให้การ์ดเสื้อแดงใช้ด้ามธงฟาดใส่กระโปรงรถยนต์เพื่อสกัดจับ แต่รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับพุ่งหนีออกไปทางลานพระบรมรูปทรงม้า หนีหายไป ด้านนายณัฐวุฒิ ได้นั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์ ของการ์ดเสื้อแดง ออกติดตามรถยนต์คันดังกล่าวด้วยแต่ไม่พบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับทุกพื้นที่ ขณะที่แกนนำที่อยู่บนรถปราศรัยก็ได้ช่วยประกาศให้ผู้ชุมนุมจากเวทีใหญ่ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลระดมกำลังมาช่วยสกัดจับรถคันดังกล่าว เมื่อจับได้แล้วให้นำตัวคนขับมาที่หน้าเวที จนทำให้บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ผู้ชุมนุมเกิดความโกรธแค้น และเข้าใจว่ารถยนต์ต้องสงสัยขับหนีเข้าไปในสวนอัมพร จึงพยายามเข้าไปเขย่าประตูและปีนรั้วสวนอัมพรเพื่อมองหารถยนต์คันดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสวนอัมพรพยายามชี้แจงว่าประตูของสวนอัมพรปิดล็อคไม่มีผู้ใดสามารถเข้าออกได้ แต่ผู้ชุมนุมยังไม่ยอมล่าถอย
จนกระทั่งแกนนำประกาศว่าสามารถจับตัวผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวได้แล้ว ผู้ชุมนุมจึงสงบลงและกลับมานั่งฟังการปราศรัยตามเดิม อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สามเสน ยืนยันว่ายังไม่สามารถจับกุมตัวสาวลึกลับคนดังกล่าวได้ แต่จะติดตามเจ้าของรถซึ่งตรวจสอบทะเบียนรถในเบื้องต้นทราบว่าเป็นรถของ นายธรรมรงค์ พงษ์เกียรติขจร บ้านเลข 29/34 ม.7 ต.จันทรนิมิตร อ.เมือง จ.จันทบุรี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการเรียกตัวมาทำการสอบปากคำ เพื่อจะได้ทราบว่าขณะเกิดเหตุใครเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ และจะออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป หากไม่จงใจก็จะแจ้งข้อหาขับขี่รถยนต์โดยประมาท แต่ถ้าเป็นการจงใจก็จะแจ้งข้อหาเจตนาทำร้ายร่างกายหรือพยายามฆ่าผู้อื่น
สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิระ คือ นายไพศาล พิสดาร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127 ม.6 ต.หนองคู อ.ลำปรายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้รับบาดเจ็บที่ขา ส่วนผู้ชุมนุมรายอื่นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ทำผิดโดยเร็ว เหตุการณ์ครั้งนี้อาจกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่กลุ่มเสื้อแดงอาจเพิ่มระดับความเข้มข้นในการชุมนุมมากขึ้น พร้อมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มการอารักขากลุ่มผู้ชุมนุม โดยให้ตั้งด่านรักษาความปลอดภัยปิดหัวท้ายของกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย
