นรต.หญิงรุ่น 1 ของประวัติศาสตร์วงการสีกากี เข้าพิธีรับน้อง ที่ 1 ของรุ่น เผย เอนท์ ติดแพทย์-วิศวะ แต่สละสิทธิ์มาเป็นนักเรียนนายร้อยหญิงเพราะอยากทำงานเสียสละเพื่อประชาชน นรต.ปี 4 รอรับทดสอบร่างกายและสภาพจิตใจ ก่อนปล่อยกลับบ้านช่วงสงกรานต์
วันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเวลา 07.30 น.พล.ต.ท.อมรินทร์ อัครวงษ์ ผบช.รร.นรต.พร้อมด้วย รศ.พ.ต.อ.ดร.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ รร.นรต.นำคณะอาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และเหล่านักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นพี่จัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่ แบ่งเป็น นรต.หญิง รุ่นที่ 1 ในประวัติศาสตร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 70 นาย นักเรียนเตรียมทหารที่เข้ามาเป็น นรต.ชาย รุ่นที่ 66 จำนวน 178 นาย และข้าราชการตำรวจที่สอบเข้ามาเป็น นรต.อีก 30 นาย รวมทั้งสิ้น 278 นาย โดยพิธีการนี้จะเริ่มขึ้นในช่วงเช้าที่วัดบางช้างเหนือ อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนสิ้นสุดงานในช่วงค่ำที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ซึ่งอยู่ห่างกันไปประมาณ 500 เมตร
นรต.(หญิง) พิมพ์ชนก ลี่ทองอิน สาวแกร่งซึ่งผ่านการสอบคัดเลือกได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ของรุ่น กล่าวว่า หลังจบ ม.6 มาจากโรงเรียนพรหมานุสรณ์ จ.เพชรบุรี ตนก็ลองไปสอบเอนทรานซ์ตามวิธีการปฏิบัติของเด็ก ม.ปลายทั่วไป ปรากฏว่า สอบได้หลายคณะ ทั้งวิศวกรรมไฟฟ้า ที่เทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สอบติดคณะเภสัชศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร และติดสำรอง อันดับที่ 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แต่พอทราบข่าวว่าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เปิดรับ นรต.หญิง รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ จึงรีบขยันอ่านหนังสือเพิ่ม และฟิตร่างกายมาเป็นอย่างดีก่อนสอบผ่านได้รับคัดเลือกให้เข้ามาศึกษาในสถาบันแห่งนี้
“ก่อนตัดสินใจเดินทางมารายงานตัวในวันนี้ ตนต้องไปทำเรื่องขอสละสิทธิ์ที่อื่นๆ ก่อน ถ้าจะถามว่ารู้สึกอย่างไรกับอาชีพตำรวจ ตนตอบได้เพียงว่า ทุกสาขาอาชีพนั้นมีทั้งคนดี และคนไม่ดี แต่ตำรวจต้องเสียสละทำงานเพื่อประชาชน ซึ่งตนก็อยากทำแบบนั้น เมื่อรู้ว่าสอบได้พ่อกับแม่ก็รู้สึกภาคภูมิใจมาก โดยหลังจากนี้ไปจะต้องอดทนและใช้ความพยายามเรียนให้จบจนได้” นรต.(หญิง) พิมพ์ชนก กล่าว
ด้าน รศ.พ.ต.อ.ดร.ธัชชัย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ในวันนี้ นรต.หญิง รุ่นที่ 1 ทั้ง 70 คน มารายงานตัวกันครบทั้งหมด ซึ่งในทีแรกคาดการณ์กันว่าอาจจะมีคนที่ถอดใจสละสิทธิ์ไปบ้าง สำหรับภาคพิธีการในช่วงเช้า นรต.หญิง และ นรต.ชาย ทั้ง 278 นาย จะต้องผ่านการปฐมนิเทศกันที่วัดบางช้างเหนือ โดยจะจัดให้มีการอบรมธรรมะเพื่อปูพื้นที่ฐานด้านจริยธรรมตำรวจ ก่อนจะให้ช่วยกันทำความสะอาดพื้นที่บริเวณวัด เพื่อวางรากฐานเกี่ยวกับเรื่องการเสียสละ จากนั้นจะต้องพากันเดินเท้าจากวัดเข้าสู่โรงเรียน โดยมีชาวบ้านในท้องถิ่นให้การต้อนรับตลอด 2 ข้างทาง เนื่องจาก นรต.ทุกคนจะต้องโอนชื่อเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านเป็นชาว อ.สามพราน จ.นครปฐม แห่งนี้จนกว่าจะศึกษาจบ
รศ.พ.ต.อ.ดร.ธัชชัย กล่าวต่อว่า ส่วนไฮไลต์ของกิจกรรมในครั้งนี้จะอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 15.30 น.ซึ่งจะเป็นภาคพิธีการรับน้องอย่างแท้จริง เมื่อ นรต.หญิง และ นรต.ชาย น้องใหม่ทั้งหมด เดินเท้าไปถึงบริเวณด้านหน้าประตูโรงเรียนนายร้อยตำรวจแล้ว ก็จะมี นรต.รุ่นที่ 63 ซึ่งถือเป็นพี่ๆ ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 ออกมาคอยต้อนรับ โดยหัวหน้า นรต.ชั้นปีที่ 4 จะออกคำสั่งทดสอบสมรรถภาพร่างกายและสภาพจิตใจ ให้น้องๆ ปฏิบัติตามจนกว่าจะเป็นที่พอใจ แล้วจึงจะอนุญาตให้ผ่านเข้าประตูโรงเรียนไปทำการสักการะอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้
“เมื่อ นรต.น้องใหม่ทั้งหมดสักการะอนุสาวรีย์เป็นที่เรียบร้อย ก็จะมีกิจกรรมพาทัวร์ในสถานที่ ไปทำความรู้จักกับอาคาร และรุ่นพี่ชั้นปีต่างๆ ซึ่งกว่าจะได้นอนพักผ่อนก็น่าจะเป็นเวลาประมาณ 22.00 น.ก่อนจะรอเสียงนกหวีดปลุกขึ้นมาวิ่งในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ โดยการปรับพื้นฐานให้กับนักเรียนใหม่จะมีไปจนถึงวันที่ 10 เม.ย.2542
จากนั้นก็จะอนุญาตให้ลาไปเยี่ยมบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แล้วเตรียมตัวกลับเข้ามารับการศึกษาภาควิชาการจากทางโรงเรียนนายร้อยตำรวจต่อไป” รศ.พ.ต.อ.ดร.ธัชชัย กล่าว
วันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเวลา 07.30 น.พล.ต.ท.อมรินทร์ อัครวงษ์ ผบช.รร.นรต.พร้อมด้วย รศ.พ.ต.อ.ดร.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ รร.นรต.นำคณะอาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และเหล่านักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นพี่จัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่ แบ่งเป็น นรต.หญิง รุ่นที่ 1 ในประวัติศาสตร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 70 นาย นักเรียนเตรียมทหารที่เข้ามาเป็น นรต.ชาย รุ่นที่ 66 จำนวน 178 นาย และข้าราชการตำรวจที่สอบเข้ามาเป็น นรต.อีก 30 นาย รวมทั้งสิ้น 278 นาย โดยพิธีการนี้จะเริ่มขึ้นในช่วงเช้าที่วัดบางช้างเหนือ อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนสิ้นสุดงานในช่วงค่ำที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ซึ่งอยู่ห่างกันไปประมาณ 500 เมตร
นรต.(หญิง) พิมพ์ชนก ลี่ทองอิน สาวแกร่งซึ่งผ่านการสอบคัดเลือกได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ของรุ่น กล่าวว่า หลังจบ ม.6 มาจากโรงเรียนพรหมานุสรณ์ จ.เพชรบุรี ตนก็ลองไปสอบเอนทรานซ์ตามวิธีการปฏิบัติของเด็ก ม.ปลายทั่วไป ปรากฏว่า สอบได้หลายคณะ ทั้งวิศวกรรมไฟฟ้า ที่เทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สอบติดคณะเภสัชศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร และติดสำรอง อันดับที่ 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แต่พอทราบข่าวว่าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เปิดรับ นรต.หญิง รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ จึงรีบขยันอ่านหนังสือเพิ่ม และฟิตร่างกายมาเป็นอย่างดีก่อนสอบผ่านได้รับคัดเลือกให้เข้ามาศึกษาในสถาบันแห่งนี้
“ก่อนตัดสินใจเดินทางมารายงานตัวในวันนี้ ตนต้องไปทำเรื่องขอสละสิทธิ์ที่อื่นๆ ก่อน ถ้าจะถามว่ารู้สึกอย่างไรกับอาชีพตำรวจ ตนตอบได้เพียงว่า ทุกสาขาอาชีพนั้นมีทั้งคนดี และคนไม่ดี แต่ตำรวจต้องเสียสละทำงานเพื่อประชาชน ซึ่งตนก็อยากทำแบบนั้น เมื่อรู้ว่าสอบได้พ่อกับแม่ก็รู้สึกภาคภูมิใจมาก โดยหลังจากนี้ไปจะต้องอดทนและใช้ความพยายามเรียนให้จบจนได้” นรต.(หญิง) พิมพ์ชนก กล่าว
ด้าน รศ.พ.ต.อ.ดร.ธัชชัย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ในวันนี้ นรต.หญิง รุ่นที่ 1 ทั้ง 70 คน มารายงานตัวกันครบทั้งหมด ซึ่งในทีแรกคาดการณ์กันว่าอาจจะมีคนที่ถอดใจสละสิทธิ์ไปบ้าง สำหรับภาคพิธีการในช่วงเช้า นรต.หญิง และ นรต.ชาย ทั้ง 278 นาย จะต้องผ่านการปฐมนิเทศกันที่วัดบางช้างเหนือ โดยจะจัดให้มีการอบรมธรรมะเพื่อปูพื้นที่ฐานด้านจริยธรรมตำรวจ ก่อนจะให้ช่วยกันทำความสะอาดพื้นที่บริเวณวัด เพื่อวางรากฐานเกี่ยวกับเรื่องการเสียสละ จากนั้นจะต้องพากันเดินเท้าจากวัดเข้าสู่โรงเรียน โดยมีชาวบ้านในท้องถิ่นให้การต้อนรับตลอด 2 ข้างทาง เนื่องจาก นรต.ทุกคนจะต้องโอนชื่อเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านเป็นชาว อ.สามพราน จ.นครปฐม แห่งนี้จนกว่าจะศึกษาจบ
รศ.พ.ต.อ.ดร.ธัชชัย กล่าวต่อว่า ส่วนไฮไลต์ของกิจกรรมในครั้งนี้จะอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 15.30 น.ซึ่งจะเป็นภาคพิธีการรับน้องอย่างแท้จริง เมื่อ นรต.หญิง และ นรต.ชาย น้องใหม่ทั้งหมด เดินเท้าไปถึงบริเวณด้านหน้าประตูโรงเรียนนายร้อยตำรวจแล้ว ก็จะมี นรต.รุ่นที่ 63 ซึ่งถือเป็นพี่ๆ ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 ออกมาคอยต้อนรับ โดยหัวหน้า นรต.ชั้นปีที่ 4 จะออกคำสั่งทดสอบสมรรถภาพร่างกายและสภาพจิตใจ ให้น้องๆ ปฏิบัติตามจนกว่าจะเป็นที่พอใจ แล้วจึงจะอนุญาตให้ผ่านเข้าประตูโรงเรียนไปทำการสักการะอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้
“เมื่อ นรต.น้องใหม่ทั้งหมดสักการะอนุสาวรีย์เป็นที่เรียบร้อย ก็จะมีกิจกรรมพาทัวร์ในสถานที่ ไปทำความรู้จักกับอาคาร และรุ่นพี่ชั้นปีต่างๆ ซึ่งกว่าจะได้นอนพักผ่อนก็น่าจะเป็นเวลาประมาณ 22.00 น.ก่อนจะรอเสียงนกหวีดปลุกขึ้นมาวิ่งในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ โดยการปรับพื้นฐานให้กับนักเรียนใหม่จะมีไปจนถึงวันที่ 10 เม.ย.2542
จากนั้นก็จะอนุญาตให้ลาไปเยี่ยมบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แล้วเตรียมตัวกลับเข้ามารับการศึกษาภาควิชาการจากทางโรงเรียนนายร้อยตำรวจต่อไป” รศ.พ.ต.อ.ดร.ธัชชัย กล่าว