"ดีเอสไอ" ฝากขังแก๊งยาเสพติดเครือญาติ "ขุนส่า" พร้อมคัดค้านประกันเกรงหลบหนีและยุ่งเหยิงพยาน ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขัง พร้อมส่งตัวเข้าเรือนจำ
วันนี้ (20 มี.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท. บรรจบ อยู่ยืนยง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ.) ได้ควบคุมตัว นายพีรยุทธ์ แพศย์ศกล อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216 หมุ่8 ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย , นายชาญณรงค์ มูเซอร์ หรือ เกษมทัศ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 270 ม.5 หมู่บ้านสินทธนา ต.สันพระเนตร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ , นายวิชาญ สุถิพรรณ์ อายุ 40 ปี อยู่เลขที่ 187/2 ซ.ปลูกจิตต์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. ผู้ต้องหาในคดีค้ายาเสพติดข้ามชาติ มาฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 20-31 มี.ค. เนื่องจากจะครบกำหนด 48 ชม. แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นต้องรอสอบปากคำพยานอีก 15 ปาก รวบรวมพยานหลักฐานที่อยู่ตามสถานที่ต่างๆ ในหลายจังหวัด และรอผลตรวจสอบประวัติการต้องโทษจากลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหา ตามคำร้องระบุพฤติการณ์ว่า
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 51 สำนักงานปราบปรามยาเสพติดประเทศสหรัฐอเมริกา ประจำกรุงเทพฯ ได้มีหนังสือ ถึง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 3 ว่ากระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและฟอกเงิน และเป็นสมาชิกองค์กรผลิตยาเสพติดในประเทศพม่า มีกองกำลังว้าแดง คุ้มครองความปลอดภัยเป็นเครือข่ายและญาติของ ขุนส่า นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) วางแผนจับกุมโดยวิธีล่อซื้อ สามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้พร้อมกลาง เฮโรอีน 780 กรัม ในราคา 570,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีเฮโรอีนซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การภาคเสธ ว่ามีหน้าที่รับเงินซื้อขายเฮโรอีนเท่านั้น ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 และ 3 ให้การปฏิเสธ
ท้ายคำร้องยังระบุด้วยว่า คดีนี้มีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิตและการสืบสวนจับกุมกระทำได้โดนยาก หากมีการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 3 เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอาชญากรรมค่ายาเสพติดข้ามชาติ หากว่าปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนีไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานศาลพิจาณาคำร้องแล้วจึงอนุญาตให้ฝากขังพร้อมส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร