รวบพ่อค้าเครื่องไฟฟ้าธุรกิจพังหันส่งยานรกไม่รอดคุก!

ตร.บางเขนรวบพ่อค้าขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ทำธุรกิจเจ๊งหวังหาเงินใช้หนี้ริเป็นเอเยนต์ลอบค้ายาบ้า แต่ไม่รอด ตร.สืบทราบตามจับได้ขณะนำยามาส่งลูกค้าย่านรามอินทรา ตรวจค้นพบยาบ้า 10,000 เม็ด ซุกซ่อน สารภาพทุกครั้งจะขับรถมารับยาที่ จ.มุกดาหาร อีกราย จับลูกทหารแทงอริเสียชีวิต หลบหนีคดีตั้งแต่ปี 46 ก่อนที่จะมาถูกจับตัวได้

วันนี้ (11 มี.ค.) เมื่อเวลา 00.04 น. พ.ต.ท.ภูดิท จิตตธรรม สว.สส.สน.บางเขน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายพิชัย หรือต๋อย ศิริรรัตน์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่14 ต.ปากแรต อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาค้ายาบ้า พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 10,000 เม็ด รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ณข 4945 กทม. โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่กลางซอยรามอินทรา 39 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.

พ.ต.ท.ภูดิท กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้เสพยาบ้ารายย่อยในพื้นที่ได้และทำการสืบสวนขยายผลจนกระทั่งทราบว่า มีกลุ่มผู้ค้ายาบ้าจากฝั่งลาวนำยาบ้ามาจำหน่ายที่บริเวณซอยรามอินทรา 39 และละแวกใกล้เคียง โดยมีนายต๋อยเป็นเอเยนต์ ต่อมาได้สืบสวนทราบว่านายต๋อยจะนำยาบ้าล๊อตใหญ่มาส่งให้กับลูกค้าที่บริเวณ เพชร พลอย อพาร์ทเม้น กลางซอยรามอินทรา 39 โดยใช้รถเก๋งโตโยต้าวีออส จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งนายต๋อยลงมาจากรถยนต์คันดังกล่าวพร้อมกับหิ้วถุงพลาสติกมาด้วย จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและจับกุม ซึ่งจากการตรวจค้นพบยาบ้า 8,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษที่ใช้บรรจุกล่องนมยูเอชที ไทย-เดนมาร์ค และยังพบยาบ้าอีก 2,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ที่ใต้ฝากระโปรงท้ายรถยนต์ จึงยึดเอาไว้เป็นของกลาง

จากการสอบสวน นายพิชัยให้การรับสารภาพว่าก่อนหน้านี้ตนประกอบอาชีพขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ที่อ้อมใหญ่ แต่ขาดทุน จึงเดินทางไปค้าขายที่ฝั่งลาวก็ขาดทุนอีกและมีหนี้สินจำนวนมาก ต่อมาได้รู้จักนายแก้ว ซึ่งนายแก้วเป็นคนชักชวนให้ตนส่งยาบ้า จึงตกลงเพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้ ทุกครั้งจะมีคนจากฝั่งลาวนำยาบ้ามาทิ้งเอาไว้ให้บริเวณริมถนนที่จังหวัดมุกดาหาร ตนจะขับรถคันดังกล่าวซึ่งเป็นของลูกสาวไปรับยามาส่งที่กรุงเทพฯ จนกระทั่งมาถูกจับกุมในครั้งนี้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

อีกราย พ.ต.ท.ภูดิท แถลงข่าวผลการจับกุมนายเอกภพ หรือบอย ฉ่ำเฉื่อย อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 7019/2546 ลงวันที่ 29 กันยายน 2546 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และหมายจับศาลอาญาที่ 3632/2550 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2550 ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับอันตรายสาหัสโดยจับกุมได้ที่ริมคลองชุมชนสะแกจุก

พ.ต.ท.ภูดิท กล่าว่า ผู้ต้องหาเป็นบุตรชายของนายทหารไม่ทราบ ยศตำแหน่ง สังกัด ปตอ.ได้ร่วมกับเพื่ออีก 1 คน ชื่อนายอภิเดช บุญเทศนา ซึ่งถูกจับกุมตัวไปก่อนแล้ว ก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกาย นายปโยธร จันทร์ดี จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 ก.ย.2546 ที่หลังโรงหนังสะพานใหม่ ต่อมายังได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกเมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา จากนั้นได้หลบหนีไปอยู่ทางภาคใต้ก่อนจะขึ้นมาที่กรุงเทพฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.2 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.บางเขนได้ร่วมกันสืบจนทราบเบาะแสของผู้ต้องหาจนกระทั่งจับกุมตัวได้ วันนี้เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงได้แจ้งข้อหาตามหมายจับข้างต้นก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป