"ผมทำงานมากว่า 30 ปี ในสายสอบสวน ผมไม่เคยถูกกล่าวหาว่าไม่เป็นกลาง เพราะฉะนั้นใครที่คิดว่าผมไม่เป็นกลางไม่เป็นธรรม คิดผิด คิดใหม่ได้" วลีประโยคนี้ ถือเป็นวลีเด็ดของพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. ผู้ซึ่งจะถูกป.ป.ช.ชี้มูลว่าผิดหรือไม่ ในเวลาอันใกล้นี้ ต่อกรณีเหตุการณ์การสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 พล.ต.ต.อำนวย เพิ่งพูดประโยคนี้ไปเมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) ภายหลังเรียกประชุมพนักงานสอบสวนโรงพักต่างๆ ที่มีพื้นที่เกี่ยวกับการชุมนุม โดยเน้นย้ำให้ดำเนินคดีในส่วนต่างๆ และหากติดขัดส่วนใด ก็จะรีบดำเนินการ เพื่อตอบคำถามสังคมให้ได้ว่า ทุกคดีมีการดำเนินการและต่อเนื่องจริงจังไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็แล้วแต่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย....
เพิ่งรู้เหมือนกันว่า ตลอด 30 กว่าปีที่ผ่านมา พล.ต.ต.อำนวย เป็นกลางมาโดยตลอด แต่ความเป็นกลางของพล.ต.ต.อำนวยนั้น ชาติบ้านเมืองจะเสียหาย หรือประชาชนจะได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจหรือไม่นั้น ไม่อาจทราบได้กระนั้นหรือ ขอถามสักนิด หากตำรวจรู้อยู่แก่ใจ จะด้วยหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล หรือพยานวัตถุ หรือไร้พยานก็ตามว่า ระหว่างผู้มีอำนาจ กับชาวนานั้น ผู้มีอำนาจหลอกลวง และฉ้อโกงชาวนา พล.ต.ต.อำนวย จะยังอยู่เป็นกลางอีกหรือไม่ เรื่องอย่างนี้ มันหมดยุคหมดสมัยแล้ว ที่ตำรวจจะอยู่เป็นกลาง แต่ตำรวจจะต้องอยู่ข้างความถูกต้องเป็นสำคัญ อย่าหาว่าสอนคนระดับนายพลเลย....
"ผมขอยืนยันว่าตั้งแต่เป็นตำรวจมา และยังเป็นอาจารย์ได้สั่งสอนพนักงานสอบสวนว่าให้กระบวนการยุติธรรมเป็นธรรมและเป็นกลาง มีหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐานและค้นหาความจริงเบื้องต้นเพื่นำเสนอตามกระบวนการยุติธรรมอย่าไปลำเอียง อย่าไปเข้าข้างใดข้างหนึ่ง เราเป็นต้นธารแห่งความยุติธรรม และผมก็ยืนอยู่จุดนี้มาโดยตลอด และดำเนินการกับทุกฝ่ายไม่มีการเลือกปฏิบัติ เพราะบ้านเมืองมีขื่อมีแป ไม่อยากให้กฎหมายเป็นเพียงกระดาษเปื้อนน้ำหมึกไม่ได้"พล.ต.ต.อำนวยว่าไว้
เคยบอกกล่าวกันไปแล้วครั้งหนึ่งว่า หากเมื่อพินิจพิจารณาและย้อนดูอดีตที่ผ่านมา พล.ต.ต.อำนวย คงไม่ได้หายไปไหน เพราะเมื่อครั้งที่รัฐบาลชุดก่อนเสวยอำนาจอยู่ พล.ต.ต.อำนวยก็วนเวียนรับใช้อยู่ภายใต้อำนาจเก่ามิรู้ลืม เริ่มจากเมื่อครั้งเป็นผกก.สส.บก.น. 7 ดูแลพื้นที่"บ้านจันทร์ส่องหล้า" จากนั้นก็ขึ้นเป็นรองผบก.น.7 ดูแลบ้าน"นายหญิง"อยู่ที่เดิม ครั้นติดยศพล.ต.ต.เป็นผู้การ ก็ถูกดึงไปเป็นผบก.สิงห์บุรี ซึ่งน้อยคนจะรู้ว่า ที่สิงห์บุรีแห่งนี้ คือ บ้านแม่ยายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง ต่อมาก็กลับเข้านครบาลเป็นผบก.น.7 เต็มตัว จากนั้นก็ขึ้นชั้นเรื่อยๆเป็นผบก.น.2,น.3 และน.1 ตามลำดับ ก่อนจะขึ้นเป็นรองผบช.น. จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ 7 ตุลาเลือด!
ไม่รู้ว่า พล.ต.ต.อำนวย อึดอัดอะไรมา จู่ๆ ก็มาอ้างความเป็นกลาง แถมบอกเสียด้วยว่า ใครที่คิดผิด คิดใหม่ได้ บอกให้ตรงๆก็ได้ว่า เราเองที่คิดผิด คิดว่า นายตำรวจระดับนายพันนายพล จะยืนอยู่เคียงข้างความถูกต้อง แต่กับเหตุการณ์ 7 ตุลาเลือด จึงทำให้รู้ว่า ตลอด 30 ปีที่ผ่านมาของพล.ต.ต.อำนวย เป็นเช่นไร ไม่จำเป็นต้องอธิบายขยายความ (ความจริงพล.ต.ต.อำนวย น่าจะไปเป็นทีมงานของพล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. ก็น่าจะฮาไม่น้อย)....
ไปกันที่กรมสอบสวนคดีพิเศษบ้าง ที่กรมนี้ มักมีอะไรพิเศษๆเสมอ ตั้งแต่ตั้งเป็นกรมขึ้นมา เพราะเมื่อครั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ขึ้นมาเป็นรมว.ยุติธรรม ก็เกิดข่าวเล่า ข่าวลือ ข่าวปล่อยเป็นประจำว่า จะมีการปลด"พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง" อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ออกมาเป็นระยะๆ ล่าสุด ก็ออกมาปล่อยข่าวว่า นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของรมว. จะได้ไปนั่งเก้าอี้อธิบดีแทนพ.ต.อ.ทวี จนรมว.ต้องออกมาแก้ข่าวปฏิเสธ
เรื่องแบบนี้ บอกให้ก็ได้ว่า อันบรรดา"วิชามาร"นั้น ไม่มีใครเกินตำรวจ หากไม่เชื่อลองไปเลียบเคียงถามรองอธิบดีที่เป็นอดีตตำรวจดูได้ รมว.ที่มาจากสายผู้พิพากษานั้น ไม่ทันเรื่องแบบนี้ของตำรวจเขาหรอก แต่จะบอกวิธีให้ สั้นๆ เข้าใจง่าย "ปลดเลยซิครับ" ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย รับรองสยบข่าวลือได้ชะงัก!
ข่าวตำรวจตบเซลล์สาว พ.ต.ท.สุทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.ชลบุรี ออกมายอมรับว่า เป็นทัมงานชุดปราบปรามยาเสพติด ที่ติดตามคนร้ายอยู่ แต่เกิดเหตุเข้าใจผิดกันขึ้น เรื่องจึงบานปลาย และพร้อมยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้ อีกทั้งยังยอมขอโทษผู้เสียหายด้วย แต่แหม เรื่องแบบนี้ เป็นสุภาพบุรุษตำรวจได้อย่างไร ตบหน้าหญิงสาว และถึงแม้ หากหญิงสาวคนอื่น เป็นผู้ต้องหาจริง ก็ต้องตบหน้าผู้หญิงด้วยหรือ....
เพิ่งรู้เหมือนกันว่า ตลอด 30 กว่าปีที่ผ่านมา พล.ต.ต.อำนวย เป็นกลางมาโดยตลอด แต่ความเป็นกลางของพล.ต.ต.อำนวยนั้น ชาติบ้านเมืองจะเสียหาย หรือประชาชนจะได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจหรือไม่นั้น ไม่อาจทราบได้กระนั้นหรือ ขอถามสักนิด หากตำรวจรู้อยู่แก่ใจ จะด้วยหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล หรือพยานวัตถุ หรือไร้พยานก็ตามว่า ระหว่างผู้มีอำนาจ กับชาวนานั้น ผู้มีอำนาจหลอกลวง และฉ้อโกงชาวนา พล.ต.ต.อำนวย จะยังอยู่เป็นกลางอีกหรือไม่ เรื่องอย่างนี้ มันหมดยุคหมดสมัยแล้ว ที่ตำรวจจะอยู่เป็นกลาง แต่ตำรวจจะต้องอยู่ข้างความถูกต้องเป็นสำคัญ อย่าหาว่าสอนคนระดับนายพลเลย....
"ผมขอยืนยันว่าตั้งแต่เป็นตำรวจมา และยังเป็นอาจารย์ได้สั่งสอนพนักงานสอบสวนว่าให้กระบวนการยุติธรรมเป็นธรรมและเป็นกลาง มีหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐานและค้นหาความจริงเบื้องต้นเพื่นำเสนอตามกระบวนการยุติธรรมอย่าไปลำเอียง อย่าไปเข้าข้างใดข้างหนึ่ง เราเป็นต้นธารแห่งความยุติธรรม และผมก็ยืนอยู่จุดนี้มาโดยตลอด และดำเนินการกับทุกฝ่ายไม่มีการเลือกปฏิบัติ เพราะบ้านเมืองมีขื่อมีแป ไม่อยากให้กฎหมายเป็นเพียงกระดาษเปื้อนน้ำหมึกไม่ได้"พล.ต.ต.อำนวยว่าไว้
เคยบอกกล่าวกันไปแล้วครั้งหนึ่งว่า หากเมื่อพินิจพิจารณาและย้อนดูอดีตที่ผ่านมา พล.ต.ต.อำนวย คงไม่ได้หายไปไหน เพราะเมื่อครั้งที่รัฐบาลชุดก่อนเสวยอำนาจอยู่ พล.ต.ต.อำนวยก็วนเวียนรับใช้อยู่ภายใต้อำนาจเก่ามิรู้ลืม เริ่มจากเมื่อครั้งเป็นผกก.สส.บก.น. 7 ดูแลพื้นที่"บ้านจันทร์ส่องหล้า" จากนั้นก็ขึ้นเป็นรองผบก.น.7 ดูแลบ้าน"นายหญิง"อยู่ที่เดิม ครั้นติดยศพล.ต.ต.เป็นผู้การ ก็ถูกดึงไปเป็นผบก.สิงห์บุรี ซึ่งน้อยคนจะรู้ว่า ที่สิงห์บุรีแห่งนี้ คือ บ้านแม่ยายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง ต่อมาก็กลับเข้านครบาลเป็นผบก.น.7 เต็มตัว จากนั้นก็ขึ้นชั้นเรื่อยๆเป็นผบก.น.2,น.3 และน.1 ตามลำดับ ก่อนจะขึ้นเป็นรองผบช.น. จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ 7 ตุลาเลือด!
ไม่รู้ว่า พล.ต.ต.อำนวย อึดอัดอะไรมา จู่ๆ ก็มาอ้างความเป็นกลาง แถมบอกเสียด้วยว่า ใครที่คิดผิด คิดใหม่ได้ บอกให้ตรงๆก็ได้ว่า เราเองที่คิดผิด คิดว่า นายตำรวจระดับนายพันนายพล จะยืนอยู่เคียงข้างความถูกต้อง แต่กับเหตุการณ์ 7 ตุลาเลือด จึงทำให้รู้ว่า ตลอด 30 ปีที่ผ่านมาของพล.ต.ต.อำนวย เป็นเช่นไร ไม่จำเป็นต้องอธิบายขยายความ (ความจริงพล.ต.ต.อำนวย น่าจะไปเป็นทีมงานของพล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. ก็น่าจะฮาไม่น้อย)....
ไปกันที่กรมสอบสวนคดีพิเศษบ้าง ที่กรมนี้ มักมีอะไรพิเศษๆเสมอ ตั้งแต่ตั้งเป็นกรมขึ้นมา เพราะเมื่อครั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ขึ้นมาเป็นรมว.ยุติธรรม ก็เกิดข่าวเล่า ข่าวลือ ข่าวปล่อยเป็นประจำว่า จะมีการปลด"พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง" อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ออกมาเป็นระยะๆ ล่าสุด ก็ออกมาปล่อยข่าวว่า นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของรมว. จะได้ไปนั่งเก้าอี้อธิบดีแทนพ.ต.อ.ทวี จนรมว.ต้องออกมาแก้ข่าวปฏิเสธ
เรื่องแบบนี้ บอกให้ก็ได้ว่า อันบรรดา"วิชามาร"นั้น ไม่มีใครเกินตำรวจ หากไม่เชื่อลองไปเลียบเคียงถามรองอธิบดีที่เป็นอดีตตำรวจดูได้ รมว.ที่มาจากสายผู้พิพากษานั้น ไม่ทันเรื่องแบบนี้ของตำรวจเขาหรอก แต่จะบอกวิธีให้ สั้นๆ เข้าใจง่าย "ปลดเลยซิครับ" ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย รับรองสยบข่าวลือได้ชะงัก!
ข่าวตำรวจตบเซลล์สาว พ.ต.ท.สุทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.ชลบุรี ออกมายอมรับว่า เป็นทัมงานชุดปราบปรามยาเสพติด ที่ติดตามคนร้ายอยู่ แต่เกิดเหตุเข้าใจผิดกันขึ้น เรื่องจึงบานปลาย และพร้อมยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้ อีกทั้งยังยอมขอโทษผู้เสียหายด้วย แต่แหม เรื่องแบบนี้ เป็นสุภาพบุรุษตำรวจได้อย่างไร ตบหน้าหญิงสาว และถึงแม้ หากหญิงสาวคนอื่น เป็นผู้ต้องหาจริง ก็ต้องตบหน้าผู้หญิงด้วยหรือ....
