“จงรัก” ระบุศพฝรั่งลอยน้ำใต้สะพานพระราม 8 เป็นคนเดียวกันกับหัวห้อยราวสะพาน ชี้เป็น “นายเกียตา จิโอวานี (Jaeta Jiovani)” ชาวอิตาลี ผูกคอฆ่าตัวตาย เนื่องจากแผลที่คอขาดเป็นขอบไม่เรียบถลอก โดยรอบแนวบาดแผลรอบคอด้านหลังสูงกว่าด้านหน้า ลักษณะเป็นแนวรอยถูกแขวนคอไม่ได้ถูกตัดคอด้วยของแข็งมีคม วอนอย่าตื่นตระหนกเป็นฆาตกรรมโหดเหี้ยม แต่ถ้า ปชช.มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นเบาะแสการฆาตกรรมแจ้งพนักงานสืบสวนได้ทันที
วันนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้ประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวน สน.บวรมงคล บก.น.7 ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ตำรวจท่องเที่ยว เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีพบศีรษะชายชาวต่างชาติแขวนบนสะพานพระราม 8
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า จากเหตุที่เกิดขึ้นไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์จึงทำให้มีการคาดเดาว่าเป็นการฆ่าตัวตาย หรือฆาตกรรม แต่จากการรวบรวมพยานหลักฐานในขณะนี้ จากการยืนยันของแพทย์โรงพยาบาลศิริราช ที่ได้ตรวจพิสูจน์จากส่วนศีรษะและร่างกายของผู้ตายแล้วมีความเห็นว่าเป็นบุคคลเดียวกัน และเป็นการฆ่าตัวตาย โดยแผลที่คอขาดเป็นขอบไม่เรียบและถลอก โดยรอบแนวบาดแผลรอบคอด้านหลังสูงกว่าด้านหน้า ลักษณะเป็นแนวรอยจากการถูกแขวนคอ ไม่ได้ถูกตัดคอด้วยของแข็งมีคม เพราะหากถูกของแข็งมีคม แผลจะต้องเป็นขอบเรียบ รวมทั้งตามร่างกายไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายอื่น อีกทั้งจากการตรวจสอบการตกกระจายของเลือดบนสะพานพระราม 8 พบว่าเป็นเลือดที่พุ่งมาจากหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ ซึ่งเกิดจาการขาดจากกระดูกสันหลังจากการกระโดดสะพานแล้วกระตุกแขวนคอ
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า จากหลักฐานทางการแพทย์ที่ปรากฏก็น่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย ไม่ใช่อาชญากรข้ามชาติ เพราะที่ผ่านมาขีดความสามารถของคนร้ายข้ามชาติในเรื่องอาชญากรรมในประเทศไทยยังไม่รุนแรงถึงขนาดนี้ ดังนั้น ขออย่าให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกว่าเป็นการฆาตกรรมโหดเหี้ยม แต่อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นการฆาตกรรมสามารถแจ้งพนักงานสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมได้ โดยพนักงานสอบสวนจะใช้เวลาสอบพยานหลักฐานภายใน 30 วัน หากไม่พบหลักฐานอื่นที่บ่งชี้ว่าเป็นการฆาตกรรมก็จะสรุปสำนวนว่าเป็นการฆ่าตัวตายส่งให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต่อไป
สำหรับความคืบหน้าในการสืบหาตัวผู้ตาย พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า จากการตรวจสอบเสื้อผ้าผู้ตายพบว่าใช้ยี่ห้อพูม่า ซึ่งผลิตในประเทศอิตาลี รวมทั้งถุงที่ติดอยู่กับศพผู้ตายก็มีข้อความที่แสดงว่านำมาจากโรงแรมในประเทศอิตาลี คาดว่าผู้ตายน่าจะเป็นชาวอิตาลี จึงทำการตรวจสอบชาวอิตาลีที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยช่วงนี้พบว่าผู้ที่มีรูปพรรณสัณฐานใกล้เคียงกับผู้ตาย คือ นายเกียตา จิโอวานี (Jaeta Jiovani) ชาวอิตาลี อายุ 49 ปี ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา และเข้าพักในโรงแรมเร็กซ์โฮเต็ล ย่านสุขุมวิท โดยหายตัวไปในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ซึ่งเพิ่งได้รับข้อมูลส่วนจะเกี่ยวข้องหรือไม่ต้องรอผลการสืบสวนพยานหลักฐานต่อไป
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) มีชายชาวต่างชาติซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับผู้เสียชีวิตที่พบศีรษะแขวนกับเชือกที่สะพานพระราม 8 เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่าน โดยเอกสารที่กรอกผ่าน สตม. ระบุว่าชายดังกล่าวชื่อ Mr.Geata Jiovanni เกิดวันที่ 8 ธ.ค. 2502 อายุ 50 ปี สัญชาติอิตาลี เคยเดินทางเขาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2549 หลังจากนั้นได้เดินทางเข้าออกประเทศไทยจำนวน 7ครั้ง และเดินทางเข้าประเทศไทยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ก.พ. โดยสายการบินไทยเที่ยวบิน TG 040 สิงค์โปร์-สุวรรณภูมิ ซึ่งรายละเอียดระบุว่าทำงานเป็นช่างเทคนิคที่ประเทศฝรั่งเศส วัตถุประสงค์ที่เดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยวในวันหยุด และเข้าพักในโรงแรมแร็กซ์โฮเต็ล ถ.สุขุมวิท และยังระบุในเอกสารว่าจะเดินทางต่อไปยังประเทศดูไบ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สาเหตุที่ตรวจสอบผู้เดินทางชาวอิตาลี เนื่องจากเสื้อผู้ตายยี่ห้อพูม่าผลิดจากประเทศอิตาลี ถุงที่อยู่กับศีรษะศพมีข้อความว่า “Torta Vestovo” ได้ตรวจสอบพบว่าเป็นชื่อโรงแรมในประเทศอิตาลี และการตรวจสอบชาวอิตาลีในภาพของกล้องวงจรปิดของ สตม. และเปรียบศีรษะที่พบบุคคลผู้นี้มีความใกล้เคียงกับศพมากที่สุด
ฝรั่งหัวขาด! ส่อเค้าทิ้งดิ่งฆ่าตัวตายอย่างสมบูรณ์
ขนหัวลุก! ศพหัวขาดลอยโผล่ตรงจุดห้อยหัวกลางสะพาน!
ตร.เผยหัวฝรั่งถูกบั่นฉับเดียวขาด-แพร่ภาพใบหน้าหาเบาะแสทั่วกรุง
“สุเทพ” สั่งเร่งคดีฆ่าตัดหัวฝรั่ง เน้นกลุ่มอิทธิพลทั้งในและต่างประเทศ
สยองกลางกรุง! พบหัวชาวต่างชาติห้อยติดกลางสะพานพระราม 8
วันนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้ประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวน สน.บวรมงคล บก.น.7 ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ตำรวจท่องเที่ยว เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีพบศีรษะชายชาวต่างชาติแขวนบนสะพานพระราม 8
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า จากเหตุที่เกิดขึ้นไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์จึงทำให้มีการคาดเดาว่าเป็นการฆ่าตัวตาย หรือฆาตกรรม แต่จากการรวบรวมพยานหลักฐานในขณะนี้ จากการยืนยันของแพทย์โรงพยาบาลศิริราช ที่ได้ตรวจพิสูจน์จากส่วนศีรษะและร่างกายของผู้ตายแล้วมีความเห็นว่าเป็นบุคคลเดียวกัน และเป็นการฆ่าตัวตาย โดยแผลที่คอขาดเป็นขอบไม่เรียบและถลอก โดยรอบแนวบาดแผลรอบคอด้านหลังสูงกว่าด้านหน้า ลักษณะเป็นแนวรอยจากการถูกแขวนคอ ไม่ได้ถูกตัดคอด้วยของแข็งมีคม เพราะหากถูกของแข็งมีคม แผลจะต้องเป็นขอบเรียบ รวมทั้งตามร่างกายไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายอื่น อีกทั้งจากการตรวจสอบการตกกระจายของเลือดบนสะพานพระราม 8 พบว่าเป็นเลือดที่พุ่งมาจากหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ ซึ่งเกิดจาการขาดจากกระดูกสันหลังจากการกระโดดสะพานแล้วกระตุกแขวนคอ
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า จากหลักฐานทางการแพทย์ที่ปรากฏก็น่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย ไม่ใช่อาชญากรข้ามชาติ เพราะที่ผ่านมาขีดความสามารถของคนร้ายข้ามชาติในเรื่องอาชญากรรมในประเทศไทยยังไม่รุนแรงถึงขนาดนี้ ดังนั้น ขออย่าให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกว่าเป็นการฆาตกรรมโหดเหี้ยม แต่อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นการฆาตกรรมสามารถแจ้งพนักงานสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมได้ โดยพนักงานสอบสวนจะใช้เวลาสอบพยานหลักฐานภายใน 30 วัน หากไม่พบหลักฐานอื่นที่บ่งชี้ว่าเป็นการฆาตกรรมก็จะสรุปสำนวนว่าเป็นการฆ่าตัวตายส่งให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต่อไป
สำหรับความคืบหน้าในการสืบหาตัวผู้ตาย พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า จากการตรวจสอบเสื้อผ้าผู้ตายพบว่าใช้ยี่ห้อพูม่า ซึ่งผลิตในประเทศอิตาลี รวมทั้งถุงที่ติดอยู่กับศพผู้ตายก็มีข้อความที่แสดงว่านำมาจากโรงแรมในประเทศอิตาลี คาดว่าผู้ตายน่าจะเป็นชาวอิตาลี จึงทำการตรวจสอบชาวอิตาลีที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยช่วงนี้พบว่าผู้ที่มีรูปพรรณสัณฐานใกล้เคียงกับผู้ตาย คือ นายเกียตา จิโอวานี (Jaeta Jiovani) ชาวอิตาลี อายุ 49 ปี ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา และเข้าพักในโรงแรมเร็กซ์โฮเต็ล ย่านสุขุมวิท โดยหายตัวไปในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ซึ่งเพิ่งได้รับข้อมูลส่วนจะเกี่ยวข้องหรือไม่ต้องรอผลการสืบสวนพยานหลักฐานต่อไป
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) มีชายชาวต่างชาติซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับผู้เสียชีวิตที่พบศีรษะแขวนกับเชือกที่สะพานพระราม 8 เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่าน โดยเอกสารที่กรอกผ่าน สตม. ระบุว่าชายดังกล่าวชื่อ Mr.Geata Jiovanni เกิดวันที่ 8 ธ.ค. 2502 อายุ 50 ปี สัญชาติอิตาลี เคยเดินทางเขาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2549 หลังจากนั้นได้เดินทางเข้าออกประเทศไทยจำนวน 7ครั้ง และเดินทางเข้าประเทศไทยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ก.พ. โดยสายการบินไทยเที่ยวบิน TG 040 สิงค์โปร์-สุวรรณภูมิ ซึ่งรายละเอียดระบุว่าทำงานเป็นช่างเทคนิคที่ประเทศฝรั่งเศส วัตถุประสงค์ที่เดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยวในวันหยุด และเข้าพักในโรงแรมแร็กซ์โฮเต็ล ถ.สุขุมวิท และยังระบุในเอกสารว่าจะเดินทางต่อไปยังประเทศดูไบ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สาเหตุที่ตรวจสอบผู้เดินทางชาวอิตาลี เนื่องจากเสื้อผู้ตายยี่ห้อพูม่าผลิดจากประเทศอิตาลี ถุงที่อยู่กับศีรษะศพมีข้อความว่า “Torta Vestovo” ได้ตรวจสอบพบว่าเป็นชื่อโรงแรมในประเทศอิตาลี และการตรวจสอบชาวอิตาลีในภาพของกล้องวงจรปิดของ สตม. และเปรียบศีรษะที่พบบุคคลผู้นี้มีความใกล้เคียงกับศพมากที่สุด
ฝรั่งหัวขาด! ส่อเค้าทิ้งดิ่งฆ่าตัวตายอย่างสมบูรณ์
ขนหัวลุก! ศพหัวขาดลอยโผล่ตรงจุดห้อยหัวกลางสะพาน!
ตร.เผยหัวฝรั่งถูกบั่นฉับเดียวขาด-แพร่ภาพใบหน้าหาเบาะแสทั่วกรุง
“สุเทพ” สั่งเร่งคดีฆ่าตัดหัวฝรั่ง เน้นกลุ่มอิทธิพลทั้งในและต่างประเทศ
สยองกลางกรุง! พบหัวชาวต่างชาติห้อยติดกลางสะพานพระราม 8
