ตำรวจตั้งกรรมการร่วมกับปูนซิเมนต์ไทย ประสานข้อมูลเจาะวิธีการปลอม และโกงใบโอนหุ้น 67 ล้านบาท ขณะที่ตำรวจค่อนข้างมั่นใจ ผู้ร่วมมือกับผู้ต้องหา ต้องความสัมพันธ์ใกล้ชิด โดยเชื่อผู้ต้องหายังกบดานในไทย สั่งเฝ้า “จุดอ่อน” เตรียมรวบตัว หากผู้ต้องหาทนคิดถึงลูกน้อยที่กำลังอยู่ในวัยน่ารักน่าชังไม่ไหว
วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น.พ.ต.อ.วีระ จิรวีระ ผกก.สน.เตาปูน เรียก พ.ต.ท.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผกก.สส.สน.เตาปูน ทำหน้าที่หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.พิสิฐชัย สุนทรธนปรีดา พนักงานสอบสวน (สบ 3) เจ้าของคดี ร.ต.ท.หญิง วรัญญา เกิดเอี่ยม และ ร.ต.ท.นฤมิตร คำวอน พนักงานสอบสวนในคดี เข้าประชุมร่วมกับ นายวิสิทธิ์ อัครพรวินิจ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ ส่วนบริการกลาง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) จำกัด และคณะผู้แทนจากบริษัท เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีแลกเปลี่ยนข้อมูลและแบ่งงานกันทำ
หลังการประชุม พ.ต.ท.สมควร เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ได้ประชุมร่วมกัน และมีมติว่า ควรจะตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมาเพื่อประสานข้อมูลกันโดยในวันนี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ร่วมประชุม เพื่อดูและสรุปความคืบหน้าของคดี โดยตัวแทนของบริษัทได้นำข้อมูลอัปเดต เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบการติดต่อปฏิสัมพันธ์ กับลูกค้าของทางบริษัทของผู้ต้องหาคือนายประพันธิ์ ในขณะที่ทำงานอยู่ในฝ่ายทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท ระเบียบวิธีการการเก็บรักษาใบหุ้นว่ามีวิธีการอย่างไร
พ.ต.ท.สมควร กล่าวว่า ประเด็นเหล่านี้ พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปตั้งแต่เริ่มต้นคดีแล้ว ข้อมูลที่ได้ในวันนี้จึงเป็นการเพิ่มเติมในรายละเอียดที่ยังตกหล่นอยู่บ้าง ซึ่งหากพนักงานสอบสวนต้องการข้อมูลหลักฐานอะไรเพิ่มเติมก็จะแจ้งไปยังคณะกรรมการชุดนี้ เพื่อประสานข้อมูลกันตลอด ในส่วนของขั้นตอนต่อจากนี้ไป ตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีออกหมายเรียกไปยังเจ้าหน้าที่โบรกเกอร์ ของบริษัท เกียรตินาคิน ซึ่งผู้ต้องหาเป็นลูกค้าอยู่เพื่อให้เดินทางเข้าให้ปากคำ และประสานกับศูนย์คุ้มครองหลักทรัพย์ เพื่อขอเอกสารคำร้องขอแตกใบหุ้นที่ผู้ต้องหาได้ยื่นไว้เพื่อนำลายมือชื่อผู้เสียหายที่สลักหลังโอนใบหุ้นให้ผู้ต้องหามาตรวจสอบ และประสานขอข้อมูลจาก บริษัท อินน์ โฟร์เซฟ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เก็บรักษาใบจองหุ้นให้กับบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเก็บรักษาใบจองหุ้นที่หายไป เพื่อดูว่าคนร้ายใช้วิธีการอย่างไรในการขโมยใบจองหุ้นดังกล่าว
“โดยส่วนตัวคิดว่า น่าจะมีผู้ที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดของผู้ต้องหาอย่างแน่นอน เพราะเพียงลำพังผู้ต้องหาไม่น่าจะโอนขายหุ้นของคนอื่นโดยไม่ต้องมีเอกสารสารหลักฐานหรือคำยืนยันของเจ้าของหุ้นที่แม้จริงได้ โดยผู้ร่วมมือน่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ต้องหาไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแต่จะทำเพื่อหวังผลประโยชน์อย่างใดหรือไม่นั้นคงต้องสอบปากคำดูก่อน” รอง ผกก.สส.กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ปิยวัชร์ บุญยืน ผกก.สส.บก.น.2 กล่าวว่า จากข้อมูลการสืบสวนที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน รวบรวมได้พบความเคลื่อนไหวครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากผู้ต้องหาหลบหนีไปก็แวะหาน้องสาวใน จ.สระบุรี หลังจากนั้น ก็ขาดการติดต่อกับทุกๆฝ่าย เชื่อว่า ผู้ต้องหาน่าจะยังคงหลบซ่อนอยู่ใน กทม.หรือปริมณฑล เนื่องจากมีลูกอยู่ในวัยกำลังน่ารัก น่าจะมีความห่วงใย และน่าจะกลับมาเยี่ยมเยียนลูกสาวบ้าง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนคอยเฝ้าสังเกตการณ์โดยตลอด
ผกก.สส.บก.น.2 กลาาวต่อว่า อีกด้านหนึ่งได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ เพื่อหาข้อมูลกับบรรดาผู้ที่สนิทสนมคุ้นเคย ทั้งเพื่อน และหญิงสาว ที่ผู้เสียหายไปติดพันอยู่ ทั้งนี้คาดว่า ผู้ต้องหาน่าจะไปเปิดห้องเช่าตามอพาร์ตเมนต์แถวๆ ชานเมืองเพื่อหลบซ่อนตัว โดยทางตำรวจได้แบ่งกำลังลงสุ่มตรวจสอบตามจุดต่างๆ เพื่อหาเบาะแสของคนร้าย ส่วนอีกด้านก็ประสานกับธนาคารแห่งประเทศไทย และ ปปง.เพื่อขอตรวจสอบความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากของผู้ต้องหา ข้อมูลการใช้บัตรเครดิต ซึ่งคาดว่า น่าจะมีการใช้จ่ายในระหว่างหลบหนี เพื่อจะดูความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหา และพิกัดที่ผู้ต้องหาหลบซ่อนตัวด้วย
“ส่วนการเคลื่อนไหวเพื่อเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศ ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ สตม.เพื่อระงับหนังสือเดินทาง และพาสปอร์ตแล้ว การเดินทางผ่านด่านจึงไม่น่าจะทำได้ แต่เพื่อความไม่ประมาทได้ส่งรูปถ่าย และรายละเอียดรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้ช่วยตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย” พ.ต.อ.ปิยวัชร์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.ศส.บชน.กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบกับ สตม.แล้วก็ยังไม่พบรายละเอียดการหลบหนีออกนอกประเทศ แต่เพื่อความไม่ประมาทได้ตรวจเช็กตามตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันการหลบหนีทางด้านชายแดน ส่วนตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ ว่า ผู้ต้องหาติดต่อกับใครบ้างนั้น อยู่ระหว่างประสานกับฝ่ายสืบสวน กก.สืบสวน บก.น.2 และ สน.เตาปูน เพื่อแบ่งงานกันออกติดตามสืบสวนหาตัวผู้ต้องหามาดำเนินดคีต่อไป
ทายาทหุ้นปลอม ดูท่าทีปูนซิเมนต์รับผิดชอบก่อนแจงข้อมูลซ้ำ!
ตร.ถกเครียดล่าตัวมือปลอมหุ้นซิเมนต์ไทย ประสาน ตม.พบยังอยู่ในประเทศ
ตร.เร่งล่าตัวมือปลอมใบหุ้นซิเมนต์ไทย
