รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง กำหนดแผนรักษาความปลอดภัย-จราจร ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จัด ตร.5 พัน ระดมดูแลเข้ม โดยเฉพาะผู้นำประเทศจัด ตร.ประกบ 4 นาย จนสิ้นสุดการประชุม พร้อมตั้งจุดสกัดรอบพื้นที่หากเกิดมีกลุ่มผู้ประท้วง
วันที่ 23 ก.พ. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง ได้กำหนดแผนรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจรการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน และการประชุมที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน หรือการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 14 ที่จะมีการจัดประชุมที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 26 ก.พ.-1 มี.ค.นี้
โดยการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยในครั้งนี้จะใช้ตำรวจจากหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบด้วย ตำรวจสันติบาล หน่วยปฏิบัติพิเศษพลร่มค่ายนเรศวร (นเรศวร 261) เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลตำรวจ และตำรวจกองบัญชาการภูธรภาค 7 ทั้งสิ้นจำนวน 5,000 นาย โดยมีแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ในด้านรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ แบ่งเป็นระดับผู้นำประเทศ จะมีทีม รปภ.ซึ่งเป็นตำรวจสันติบาลชุดเดียวกับที่เคยมีประสบการณ์ ในการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ เอเปก มาก่อน โดยผู้นำ 1 คน จะมีตำรวจดูแลความปลอดภัย 4 คน และระดับรัฐมนตรี คู่สมรสผู้นำประเทศ รวมทั้งเลขาธิการอาเซียน 1 คน จะมีตำรวจดูแลความปลอดภัย 1 คน ตลอดตั้งแต่เดินทางถึงประเทศไทย จนเดินทางกลับ รวมทั้งกรณีกำหนดแยกการประชุม
สำหรับการดูแลความปลอดภัยด้านสถานที่ จะมีการจัดกำลังดูแลในพื้นที่จัดประชุมโรงแรมดุสิตธานีหัวหิน และโรงแรม 7 แห่งที่ผู้นำประเทศ และผู้ติดตามเข้าพักจะมีกำลังตำรวจสันติบาลดูแลภายใน และตำรวจ บช.ภ.7 ดูแลภายนอกโรงแรมละ 100 นาย รวมทั้งการดูแลอำนวยความสะดวกการจราจร สำหรับคณะผู้นำที่จะลงเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ และเดินทางทางรถยนต์ตลอดเส้นทางที่จะไปยังสถานที่ประชุมใน อ.หัวหิน หรือคณะผู้นำที่จะเดินทางด้วยเครื่องบินมาลงที่สนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน ก็จะมีการเตรียมอำนวยความสะดวกด้านการตรวจคนเข้าเมืองโดยจัดเจ้าหน้าที่จาก สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองดูแล
ด้านการรักษาความปลอดภัยด้านอื่นๆ เช่น กรณีเกิดเหตุชุมนุมประท้วง ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือโดยมีการวางกำลังตั้งจุดสกัดรอบพื้นที่ในการประชุม จำนวน 5 จุด โดยใช้กำลังตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมให้ห้ามเข้าโดยเด็ดขาด เพราะนอกจากจะเป็นพื้นที่การประชุมสุดยอดผู้นำแล้ว ยังเป็นพื้นที่เขตพระราชฐาน แต่หากมีการปลอมตัวเล็ดลอดด่านสกัดเพื่อมารวมตัวชุมนุมในพื้นที่ ก็จะมีการจัดเตรียมแผนแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยจัดพื้นที่พิเศษสำหรับยื่นเรื่องร้องเรียน หากเหตุการณ์ยกระดับความรุนแรงก็ได้มีการเตรียมกำลังหน่วยปฏิบัติพิเศษพลร่มค่ายนเรศวรจำนวน 8 กองร้อย รับมือสถานการณ์ทุกระดับตามแบบแผนการปฏิบัติในการควบคุมฝูงชน ซึ่งได้มีการซักซ้อมตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา และพร้อมประสานขอกำลังสนับสนุนจากหน่วยทหารในพื้นที่
ด้านการข่าวมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการสืบสวนด้านการข่าวที่กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ค่ายพระราม 6) เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ข่าวและรายงานเพื่อประเมินสถานการณ์ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเป็นศูนย์สั่งการทั้งหมด
