xs
xsm
sm
md
lg

รวบแก๊งต้มตุ๋นใจกล้า หลอกตำรวจวิ่งเต้นรายละ 5 หมื่น

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนารถ รอง ผบก.ป.แถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งต้มตุ๋นวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่งนายตำรวจ
กองปราบฯ รวบแก๊งต้มตุ๋นตำรวจ อ้างเป็นเพื่อนนายเวร ผบ.ตร.สามารถช่วยเหลือวิ่งเต้นแต่งตั้งโยกย้าย รายละ 4-5 หมื่น ตำรวจประทวนตกเป็นเหยื่อเพียบ สอบประวัติพบเคยหลอกค้าปืนมาก่อน

วันนี้ (22 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น.พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนารถ รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.อดินันท์ ชัยนันท์ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.สุทธิเวช บุญยรัตนกลิน สว.กก.1 บก.ป.ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายกิตติ กองมงคล อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 785/1/2551 ลงวันที่ 20 มิ.ย.2551 และ นางชนิตา กองมงคล อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ 785/2/2551 ลงวันที่ 20 มิ.ย.2551 2 สามีภรรยา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง พร้อมของกลางสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ จำนวนหลายเล่ม บัตรเอทีเอ็ม และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงผู้เสียหาย โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ภายในบ้านพักเลขที่ 150/78 หมู่1 ต.หางดง อ.หางดง จ.เชียงใหม่

พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ เนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบได้ว่า มีคนร้ายหลอกลวงเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยอ้างว่า สามารถช่วยเหลือในการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายรายละ 4-5 หมื่นบาท และมีผู้เสียหายกว่า 100 ราย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ออกสืบสวนแกะรอยคนร้ายกว่า 1 เดือน จนกระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน คือ คนร้าย หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่กองปราบปราม ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 จึงได้แกะรอยจนกระทราบว่าคนร้ายพักอาศัยอยู่จึงได้เข้าทำการจับได้เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น.วานนี้ (21 ก.พ.) ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ

จากการสอบสวน นายกิตติ ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ ตนมีอาชีพขับแท็กซี่อยู่ที่ดอนเมือง จนเมื่อประมาณปี 2550 และ 2551 ตนได้ดูหนังสือพิมพ์ที่เจ้าหน้าที่มีผลงานในการจับกุมคดีต่างๆ ประกอบกับตนมีเพื่อนเป็นตำรวจจึงขอเบอร์โทรศัพท์ตามโรงพัก เมื่อได้เบอร์โทรศัพท์มาก็จะโทร.ไปติดต่อสอบถามหาเหยื่อ โดยทุกครั้งจะอ้างตัวเป็นเพื่อนสนิทของ นว.ผบ.ตร.เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ ว่า สามารถช่วยเหลือในการแต่งตั้งโยกย้ายได้ จากนั้นก็จะทำเอกสารการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ลงชื่อ นว.ผบ.ตร.แล้วส่งแฟกซ์กลับไปให้เหยื่อดู จากนั้นก็จะให้เหยื่อโอนเงินให้เป็นค่าตอบแทนประมาณ 3-4 หมื่นบาท พร้อมทั้งส่งบันทึกสมัครใจขอรับการแต่งตั้ง หรือ กพ.7 มาที่ สนง.ผู้บังคับบัญชา แต่เอกสารถูกตีกลับ ก่อนจะหลบหนีไป

“ต่อมาเมื่อปี 2552 ตนก็ได้อ้างตัวเป็น นว.ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และนายตำรวจระดับ พ.ต.อ.ใน สนง.ผู้บังคับบัญชา เป็นผู้ที่ทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย จากนั้นก็จะโทรศัพท์ไปหาเหยื่อที่เลือกไว้ เหยื่อส่งเอกสารบันทึกสมัครใจ หรือ กพ.7 มาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นก็จะให้โอนเงินรายละ 45,000 บาท เป็นค่าแต่งตั้งโยกย้าย โดยจะให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีของ นางชนิตา หลังจากได้เงินก็จะหลบหนีไป โดยทำมาแล้วประมาณ 10 ราย ส่วนรายชื่อที่จดบันทึกไว้แต่ยังไม่ได้ดำเนินการมีอยู่ประมาณ 100 ราย และตนทำเพียงคนเดียว ภรรยาตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จนมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว” นายกิตติ กล่าว

ด้าน จ.ส.ต.สุภาพ บุญทด ผบ.หมู่ กก.ตชด.ที่ 22 จ.อุบลราชธานี หนึ่งในผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาโทร.เข้ามาที่สังกัดพร้อมกับถามหาตน แล้วบอกว่า ให้โทรศัพท์หา รองกิตติ พร้อมกับทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ เมื่อตนโทร.กลับไปก็ได้พูดคุย กับ รอง กิตติ อยู่ที่ สนง.ผบ.ตร.ก่อนจะคุยกันเรื่องแต่งตั้งโยกย้าย โดยจะต้องให้โอนเงินให้ก่อนถึงจะเดินเรื่องได้ ซึ่งตนต้องการย้ายกลับไปที่ สภ.เล่านกทา อ.เล่านกทา จ.ยโสธร แล้วให้ตนรอดูประกาศผลทางเว็บไซต์ ในวันที่ 29 ธ.ค.2551 หลังจากนั้น ตนจึงโอนเงินไปให้วันที่ 9 ธ.ค.2551 จำนวน 45,000 บาท ระหว่างนั้นจึงได้เปิดเว็บไซต์ดูก็พบว่ามีชื่อ รองกิตติ อยู่จริง จึงหลงเชื่ออย่างสนิทใจ จนกระทั่งวันประกาศผล ก็ไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ จึงเชื่อว่า น่าจะถูกหลอก ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 17 ก.พ.จนมาจับกุมผู้ต้องหาได้ดังกล่าว

พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาเพิ่มเติม พบว่า เมื่อประมาณปี 2550 ผู้ต้องหามีคดีเรื่องอาวุธปืน โดยผู้ต้องหาได้หลอกลวงเหยื่อ ว่า สามารถหาอาวุธปืนได้ในราคาถูก เมื่อเหยื่อหลงเชื่อจึงโอนเงินให้จนครบจำนวน แต่กลับไม่ได้อาวุธปืนตามที่ได้ตกลงกันไว้ แล้วทางผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.บางเขน จนมีการออกหมายจับดังกล่าว ส่วนกรณีหลอกลวงแต่งตั้งโยกย้ายนั้นตรวจสอบแล้ว พบว่า มีนายตำรวจชั้นประทวนตกเป็นเหยื่อหลายราย หากว่ามีผู้เสียหายรายใดถูกผู้ต้องหาหลอกลวงให้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ได้ เพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมผู้ที่อาจจะอยู่ร่วมในขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายกิตติ กองมงคล อายุ 41 ปี ผู้ต้องหา
นางชนิตา กองมงคล อายุ 32 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น