“เมียทนายสมชาย” ไม่เสียใจผลตรวจดีเอ็นเอชิ้นส่วนกระดูกไม่ใช่ทนายสมชาย เพราะไม่เคยคาดหวัง ชี้รัฐควรมีมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยพยานให้เข้มงวด เพื่อพยานที่เห็นเหตุการณ์จะได้กล้าออกมาให้ความร่วมมือ เชื่อ “พีระพันธุ์” จริงใจกล้าทำงานตามนโยบายที่ประกาศไว้
วันนี้ (17 ก.พ.) นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยานายสมชาย นีละไพจิตร ประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม ที่สงสัยถูกเจ้าหน้าที่อุ้มฆ่าเสียชีวิตเมื่อ 4 ปีก่อน เปิดเผยหลังทราบผลตรวจดีเอ็นเอชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ที่พบบริเวณพื้นที่ จ.ราชบุรี ว่าไม่ใช่ทนายสมชายว่า จริงแล้วตนก็ไม่ได้คาดหวังเท่าไหร่ว่าผลตรวจดีเอ็นเอจะตรงกับสามีที่เสียชีวิต เนื่องจากการตรวจหาดีเอ็นเอจากพื้นที่ต่างๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จึงขอให้ รมว.ยุติธรรมให้ความสำคัญกับหลักฐานอื่นด้วย ซึ่งก็ยังมีพยานที่เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่มีใครกล้ามาเป็นพยาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ยังมีอำนาจ มีตำแหน่งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งหากจะให้พยานที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาให้ปากคำก็ต้องมีมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยให้เขาด้วย
นอกจากนี้ นางอังคณา กล่าวว่า คดีนายตำรวจซ้อมทรมานอดีตผู้ต้องขัง 5 รายในคดีปล้นปืนค่ายกองพันพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง ที่สามีเข้าไปเป็นทนายให้และทำหนังสือร้องเรียน จนเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตนั้น ขณะนี้สำนวนอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ซึ่งตนก็รอดูอยู่ แต่ยังไม่เห็นมีการพิจารณาออกมา ทั้งนี้ หาก ป.ป.ช.พิจารณาชี้มูลออกมาไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็จะส่งผลดีทำให้พยานกล้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนมากขึ้น
นางอังคณา กล่าวอีกว่า สำหรับผลตรวจดีเอ็นเอที่ระบุว่าเป็นศพนิรนามรายอื่นนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็คงจะพิสูจน์ต่อไปว่าเป็นศพของผู้ใด มาเสียชีวิตได้อย่างไร ส่วนกรณีของทนายสมชายนั้นก็คงต้องรอดูการทำงานของดีเอสไอ และกระทรวงยุติธรรมต่อไป ส่วนตัวคิดว่ารมว.ยุติธรรมคนนี้มีความตั้งใจจริง และเมื่อมีนโยบายแล้วก็ต้องกล้าทำด้วย
เมื่อถามว่าบริเวณจุดที่ดีเอสไอ และรมว.ยุติธรรมเดินทางไปตรวจสอบนั้น ใช่จุดทำลายศพทนายสมชายเหมือนกับข้อมูลของคุณอังคณาหรือไม่ นางอังคณากล่าวว่า ไม่ทราบเนื่องจากปกติทางอธิบดีดีเอสไอและคณะทำงานก็ไม่ค่อยแจ้งความคืบหน้าคดีให้ทราบอยู่แล้ว จึงไม่มีข้อมูลเพียงพอและไม่สามารถบอกได้ อย่างกรณีการลงพื้นที่ของ รมว.ยุติธรรมและดีเอสไอครั้งล่าสุดก็ทราบข่าวจากสื่อมวลชนจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมทนายความ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา นางอังคณาได้เข้าพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดีดังกล่าว ซึ่งทั้งสองยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมและดำเนินคดีจนถึงที่สุดกับทุกคนที่พาดพิงไปถึง
วันนี้ (17 ก.พ.) นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยานายสมชาย นีละไพจิตร ประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม ที่สงสัยถูกเจ้าหน้าที่อุ้มฆ่าเสียชีวิตเมื่อ 4 ปีก่อน เปิดเผยหลังทราบผลตรวจดีเอ็นเอชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ที่พบบริเวณพื้นที่ จ.ราชบุรี ว่าไม่ใช่ทนายสมชายว่า จริงแล้วตนก็ไม่ได้คาดหวังเท่าไหร่ว่าผลตรวจดีเอ็นเอจะตรงกับสามีที่เสียชีวิต เนื่องจากการตรวจหาดีเอ็นเอจากพื้นที่ต่างๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จึงขอให้ รมว.ยุติธรรมให้ความสำคัญกับหลักฐานอื่นด้วย ซึ่งก็ยังมีพยานที่เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่มีใครกล้ามาเป็นพยาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ยังมีอำนาจ มีตำแหน่งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งหากจะให้พยานที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาให้ปากคำก็ต้องมีมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยให้เขาด้วย
นอกจากนี้ นางอังคณา กล่าวว่า คดีนายตำรวจซ้อมทรมานอดีตผู้ต้องขัง 5 รายในคดีปล้นปืนค่ายกองพันพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง ที่สามีเข้าไปเป็นทนายให้และทำหนังสือร้องเรียน จนเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตนั้น ขณะนี้สำนวนอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ซึ่งตนก็รอดูอยู่ แต่ยังไม่เห็นมีการพิจารณาออกมา ทั้งนี้ หาก ป.ป.ช.พิจารณาชี้มูลออกมาไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็จะส่งผลดีทำให้พยานกล้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนมากขึ้น
นางอังคณา กล่าวอีกว่า สำหรับผลตรวจดีเอ็นเอที่ระบุว่าเป็นศพนิรนามรายอื่นนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็คงจะพิสูจน์ต่อไปว่าเป็นศพของผู้ใด มาเสียชีวิตได้อย่างไร ส่วนกรณีของทนายสมชายนั้นก็คงต้องรอดูการทำงานของดีเอสไอ และกระทรวงยุติธรรมต่อไป ส่วนตัวคิดว่ารมว.ยุติธรรมคนนี้มีความตั้งใจจริง และเมื่อมีนโยบายแล้วก็ต้องกล้าทำด้วย
เมื่อถามว่าบริเวณจุดที่ดีเอสไอ และรมว.ยุติธรรมเดินทางไปตรวจสอบนั้น ใช่จุดทำลายศพทนายสมชายเหมือนกับข้อมูลของคุณอังคณาหรือไม่ นางอังคณากล่าวว่า ไม่ทราบเนื่องจากปกติทางอธิบดีดีเอสไอและคณะทำงานก็ไม่ค่อยแจ้งความคืบหน้าคดีให้ทราบอยู่แล้ว จึงไม่มีข้อมูลเพียงพอและไม่สามารถบอกได้ อย่างกรณีการลงพื้นที่ของ รมว.ยุติธรรมและดีเอสไอครั้งล่าสุดก็ทราบข่าวจากสื่อมวลชนจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมทนายความ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา นางอังคณาได้เข้าพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดีดังกล่าว ซึ่งทั้งสองยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมและดำเนินคดีจนถึงที่สุดกับทุกคนที่พาดพิงไปถึง