จำคุก 15 ปี หลานปืนโหด เจตนายิงลูกซองใส่ “ชินวัฒน์ หาบุญพาด” แกนนำแท็กซี่ นปช.ลุงตัวเองจนปางตาย สารภาพศาลปรานีลดเหลือ 7 ปี 6 เดือน
วันนี้ (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสายชล สีทัน อายุ 40 ปี เป็นจำเลยฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะฯ
คดีนี้โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.51 ว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ย.51 จำเลยได้มีอาวุธปืนพกลูกซองไทยประดิษฐ์ เบอร์ 20 ไม่มีเครื่องหมายทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับไว้ จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืนลูกซองจำนวน 9 นัด โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมาย จำเลยได้พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวติดตัวไปที่บริเวณบ้านเลขที่ 549/6 ซอยวิภาวดี 3 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาต และจำเลยได้ใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวยิงนายชินวัฒน์ หาบุญพาด นายกสมาคมพิทักษ์ผลประโยชน์ผู้ขับรถแท็กซี่ และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รุ่น 2 มีศักดิ์เป็นลุง จำนวน 1 นัด ถูกที่บริเวณลำตัวเป็นบาดแผลหลายแห่ง โดยเจตนาฆ่าผู้เสียหาย ซึ่งจำเลยได้ลงมือกระทำความผิดไปโดยตลอดแล้วแต่การกระทำของจำเลยยังไม่บรรลุผล เนื่องจากกระสุนปืนที่จำเลยยิงไปนั้นไม่ถูกอวัยวะสำคัญของผู้เสียหาย และแพทย์ได้ทำการรักษาได้ทันท่วงทีจึงทำให้ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย แต่เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส จำเลยให้การรับสารภาพทั้งในชั้นจับกุมและชั้นศาล
ศาลพิเคราะห์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว เห็นว่าโจทก์มี นายชินวัฒน์ ผู้เสียหาย เบิกความว่า ก่อนเกิดเหตุจำเลยนั่งดื่มเบียร์อยู่ที่หน้าบ้านพักที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นมีช่างมาซ่อมคอมพิวเตอร์ที่บ้านพัก โดยจำเลยไม่พอใจช่าง ด้วยความมึนเมาจึงได้ตะโกนด่า นายชินวัฒน์ ผู้เสียหายซึ่งนอนอยู่ในห้องพักบ้านเดียวกันได้ออกมาต่อว่าจำเลยไม่ให้ใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย และต่อว่าจำเลยว่าหากทำต่ออย่างนี้ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ พร้อมกับหยิบเงินให้จำเลย 1,000 บาท จำเลยเห็นดังนั้นจึงคว้าเงินมาขว้างทิ้ง แล้วตอบกลับไปว่า “ถ้ากูอยู่ไม่ได้ มึงก็อยู่ไม่ได้” ก่อนจะชักปืนยิงนายชินวัฒน์ 1 นัดที่หน้าอก อันเป็นอวัยวะสำคัญ ในระยะห่างเพียง 3 เมตร ก่อนหลบหนีไปทันที เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แต่การกระทำไม่บรรลุผล นายชินวัฒน์จึงไม่ตาย จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง
พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานเจตนาฆ่าผู้อื่น จำคุกเป็นเวลา 12 ปี ฐาน มีปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 ปี และฐานพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร จำคุก 1 ปี รวมโทษจำคุก 15 ปี คำสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาเห็นสมควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ทั้งสิ้น เป็นเวลา 7 ปี 6 เดือน