เปิดเบื้องหลังทลาย “เซ็กซ์ทัวร์” ตร.ลงทุนคลุกวงใน!

ปฏิบัติการทลายปาร์ตี้เซ็กซ์ทัวร์ เมื่อเวลา 23.30 น.ของวันที่ 4 ก.พ.52 ภายในโรงแรมอลิซาเบธ ย่านสะพานควาย หลังจากมีการสืบทราบว่า บนชั้น 11 ห้องเลขที่ 1101 ได้ถูกใช้เป็นห้องที่ชายชาวต่างชาติจำนวนมากพากันมาแสวงหาความสุขในเรื่องของ “เซ็กซ์” ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นอย่างมาก แต่สวรรค์ของคนกลุ่มนี้ก็เป็นอันต้องล่มสลาย เมื่อเจ้าหน้าที่จากกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่กองบังคับปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็กเยาวชนและสตรี มาสืบทราบเสียก่อน

เมื่อถึงเวลาดีเดย์ที่จะเข้าไปเปิดโปงขบวนการบ่อนทำลายชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่รอช้าพากันเข้าไปภายในห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่แสดงตัวว่าเป็นตำรวจ ทำให้นักท่องเที่ยวและหญิงขายบริการต่างพากันตกใจวิ่งหาเสื้อผ้าใส่ปิดเรือนร่างแทบไม่ทัน พร้อมกับหามุมหลบกล้องของนักข่าวที่ติดตามตำรวจชุดจับกุมไปด้วย ภาพที่พบในกลางดึกวันนั้น นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบางคนกำลังมีเพศสัมพันธ์กับหญิงไทย บางคนนั่งดื่มเหล้า เบียร์ เมื่อเดินสำรวจก็พบถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วตกอยู่เกลื่อนห้อง ยาไวอะกร้าใช้สำหรับปลุกเซ็กซ์ เพราะนักเที่ยวแต่ละคนล้วนอายุไม่ใช่น้อยๆ

พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง ผกก.1 บก.ทท. และพ.ต.อ.ปัญญา ปิ่นสุข ผกก.อก.บก.ปดส. พร้อมชุดจับกุม ได้วางแผนการเข้าจับกุมครั้งนี้เป็นอย่างดี ตั้งแต่การให้สายล่อซื้อ เข้าไปสังเกตการณ์ในงาน การทำสำนวนขออนุมัติหมายจับจากศาล จนกระทั่งเข้าทำการจับกุม ตัวการใหญ่ที่เป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาร่วมปาร์ตี้เซ็กซ์ทัวร์ก็อยู่ในงานคืนนั้นด้วย นั่นก็คือ นายคริสเตียน อาเธอร์ ริชชาร์ด อายุ 54 ปี สัญชาติอังกฤษ มีบ้านพักอยู่ที่บ้านเลขที่ 60/242 ถนนหมู่บ้านสหโชค ซอย 4 แขวงบึงคำพร้อย เขตลำลูกกา จ.ปทุมธานี อาศัยอยู่ในประเทศไทยมานานนับ 10 ปี โดยมีภรรยาเป็นคนไทยร่วมขบวนการด้วย ชื่อนางดวงจันทร์ หรือดวง ริชชาร์ด หรือลม สระน้อย ภรรยาคนนี้เองที่เป็นคนโพสต์ข้อความโฆษณาลงในเว็บไซต์ www.bangkok.craigslist.co.th ชักชวนให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาซื้อบริการทางเพศในประเทศไทย ซึ่งจะมีหญิงสาวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติคอยให้บริการ สนนราคารายละ 3,000 บาท

พ.ต.อ.อาชยน บอกถึงเบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้ว่า ได้ติดตามเว็บดังกล่าวมาระยะหนึ่งแล้ว จนรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นเรื่องจริง และมีทิศทางที่ทำมานานแล้ว จึงรวบรวมข้อมูลหลักฐานไปขออนุมัติหมายศาล เพื่อเข้าทำการตรวจค้นจับกุมทันทีที่มีการจัดปาร์ตี้เซ็กซ์ทัวร์ แต่ศาลก็ไม่อนุมัติเนื่องจากหลักฐานยังไม่รัดกุมมากพอ จึงได้ใช้สายที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอาสาสมัครนักท่องเที่ยวโทรศัพท์เข้าไปติดต่อสอบถามว่า ข้อมูลในเว็บจริงหรือไม่ และสอบถามรายละเอียดการสมัครเข้าร่วมปาร์ตี้เซ็กซ์ทัวร์ จากนั้นสายก็จะลองเข้าไปใช้บริการ

พ.ต.อ.อาชยน เล่าต่อว่า พอสืบสวนมาอีกระยะหนึ่งก็ชัดเจน เพราะใช้ทั้งสาย ทั้งตำรวจนอกเครื่องแบบไปสังเกตดูที่บริเวณล็อบบี้ของโรงแรม และใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีคือกล้องรูเข็ม การอัดเสียง เว็บ และโทรศัพท์ จนกระทั่งรวบรวมเป็นรายงานการสืบสวน ก็ขออนุมัติขอหมายจับต่อศาลทันที โดยไม่ขอหมายค้น เมื่อศาลอนุมัติแล้วก็รอเวลาอย่างเดียวคือเวลาดีเดย์ คืนที่เข้าจับกุม สายเราเข้าไปหนหนึ่งแล้ว และก็รายงานมาว่ามีอย่างนี้จริง มีฝรั่งเยอะไม่ต่ำกว่า 20 -25 คน เราก็เลยตั้งธงว่าจะเข้าในเวลาที่ดูแล้วเหมาะสมที่สุด และวันเวลาที่เราดีเดย์จะต้องเป็นความลับ เราส่งตำรวจบางส่วนขึ้นไปเปิดห้องใกล้เคียงกับห้องที่เขาจัดปาร์ตี้ เมื่อถึงเวลานัดหมายก็จะพยายามให้สายออกมาเปิดประตู เมื่อเข้าไปก็พบสภาพนักท่องเที่ยวอย่างที่คาดไว้

“เราทำงานกันด้วยความรอบคอบที่สุด เงินล่อซื้อเราได้นำไปถ่ายเอกสารและลงบันทึกประจำวันเอาไว้ด้วย เมื่อไปล่อซื้อและทำการจับกุม เราก็ตรวจพบเงินล่อซื้อในตัวของนายคริสเตียน แต่การเข้าจับกุมในคืนนั้น ไม่เจอตัวภรรยาของนายคริสเตียน พอรุ่งขึ้นอีกวันก็ไปค้นที่บ้าน โดยที่มีทั้งหมายจับและหมายค้น ปรากฏว่าภรรยาได้ปีนรั้วหลบไปอีกฝากหนึ่ง แต่ก็สามารถจับกุมตัวมาได้ จากการตรวจค้นภายในบ้านก็พบของกลางจำนวนมากทั้งซีดีลามก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เอาไว้สำหรับจัดปาร์ตี้เซ็กซ์ทัวร์ ยาปลุกเซ็กซ์ อวัยวะเพศชายเทียม ทำให้ดิ้นไม่หลุด ต้องยอมจำนนต่อหลักฐาน เราทำทุกอย่างโปร่งใสและตรงไปตรงมา ไม่มีการข้ามขั้นตอน” พ.ต.อ.อาชยน บอก

จากการสอบปากคำนายคริสเตียน รับสารภาพว่า ยึดอาชีพนี้มาเป็นเวลา 3-4 ปีแล้ว ไม่มีอาชีพอื่นมาก่อน ทำมาไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง ส่วนสถานที่ก็มีทั้งในกรุงเทพฯและพัทยา สำหรับโรงแรมอลิซาเบธจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีการจัดปาร์ตี้เซ็กส์ทัวร์มาแล้ว ถึง 42 ครั้ง โดยที่เจ้าของโรงแรมไม่ระแคะระคายมาก่อนเลย เรื่องนี้เจ้าของโรงแรมน่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วย เพราะในบุ๊คจองของโรงแรมที่ผู้ต้องหากับภรรยามาจองจะลงชื่อไว้ว่า “พี่ดวง” แสดงให้เห็นว่ารู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี แต่จะอาจจะรู้เห็นในลักษณะของการจัดงานเลี้ยง หรืองานปาร์ตี้ธรรมดา ส่วนเงินที่เก็บค่าหัวคนละ 3,000 บาท นายคริสเตียนก็เอาไปจ่ายค่าโรงแรม ที่เหลือก็กอบโกยเข้ากระเป๋า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสอบปากคำเจ้าของโรงแรมอย่างละเอียดว่ามีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่

“เราใช้เวลาในการตามเรื่องนี้อยู่ถึง 2 เดือน ตั้งแต่ทราบข้อมูล ถ้าครั้งใดมีคนร่วมกิจกรรมน้อย เขาก็จะไม่จัด ทำให้เราพลาดการจับกุมมาระยะหนึ่ง ส่วนหญิงบริการที่เขาใช้ เรากำลังสืบประวัติอยู่ เท่าที่สืบสวนขยายผลเบื้องต้นเขาพาไปต่างประเทศหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นที่มาเลเซีย คาซักสถาน เป็นลักษณะที่ว่า น่าจะนำผู้หญิงออกไปข้างนอกเพื่อค้าบริการทางเพศแล้วกลับมา ทำตัวเป็นเหมือนกับเอเย่นต์ ซึ่งตรงนี้อาจจะมีผู้หญิงหลายๆคนที่ไม่ได้โดนจับในวันนั้น แต่อาจจะมีเครือข่ายอยู่ หญิงบริการที่เขาพามาจะเป็นเด็กที่เขาเลี้ยงเอาไว้ที่บ้าน ให้ค่าใช้จ่ายเล็กน้อย”

นายตำรวจผู้นี้บอกอีกว่า แก๊งนี้ถือว่าไม่ได้มีความชำนาญสักเท่าไหร่ แต่จะอาศัยประสบการณ์จากการที่ทำอาชีพนี้มาเป็นเวลานาน ทั้งการติดต่อกับแขก การโฆษณาลงเว็บไซต์ การติดต่อกับแขก ซึ่งจะมีอาจจะมีขาประจำกับขาจร นักท่องเว็บไซต์ก็ต่างพากันเข้ามาดูโฆษณาที่ลงชักชวน สิ่งที่น่ากลัวคือ 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นกลุ่มคนหน้าใหม่เข้ามาเปิดเว็บดู เห็นปุ๊บก็มา เขามาแล้วเขาไปยอมเสียเงินก็เป็นเป้าหมายอย่างหนึ่งมาเที่ยวแล้วก็ไปบอกกล่าวกัน ไม่ว่าจะปิดเว็บไหนไป ถ้าหากมีการเปิดเว็บขึ้นมา ในลักษณะที่ใช้ชื่อใกล้เคียงกันหรือมีอะไรที่ลิงค์กันได้กับเว็บที่มันเป็นออกมาในแนวสีเทาๆ เขาก็สามารถที่จะเปิดขึ้นได้อีก แต่การจะปิดรอบนี้ต้องใช้เวลา ซึ่งเรื่องการควบคุมดูแลเว็บไซต์ก็ได้ประสานกับกระทรวงไอซีทีไปแล้ว

“สิ่งที่ทำให้ 2 สามีภรรยาคู่นี้เล็ดลอดสายตาตำรวจไปได้ สาเหตุหลักคงจะเป็นเพราะไม่ค่อยจะมีใครสนใจชาวต่างชาติ นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังไม่ชอบสุงสิงกับเพื่อนบ้านคนไหน และมีช่องทางในการติดต่อลูกค้าอย่างนิ่งๆมาตลอด เขามาจากแดนไกลไม่ค่อยมีใครสนใจ อีกทั้งใช้รถส่วนตัวขนอุปกรณ์มาในการจัดงานแต่ละครั้ง เตรียมผ้าขนหนูมาเอง เตรียมเหล้าเบียร์มาเอง ทำให้ไม่มีใครคาดคิดว่า 2 สามีภรรยาคู่นี้จะเป็นเสมือน “โจรปล้นชาติ” ที่ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทยอย่างมาก” พ.ต.อ.อาชยน กล่าว

พ.ต.อ.อาชยน กล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เคยถูกดำเนินคดีในลักษณะนี้มาก่อนหรือไม่ แต่ว่าวิธีการขยายผลต่อจากตรงนี้ก็คือ กลุ่มเครือข่ายที่เขาติดต่อพูดคุยกันอยู่ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เขายอมรับว่าเคยคุยกับคนจัดหลายๆ คนที่จัดในลักษณะนี้อยู่เหมือนกัน เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้วก็ต้องตามต่อ จะมีเว็บบางเว็บยังมีอยู่แต่ก็คิดว่า เมื่อข่าวออกมาแล้ว หวังว่าผู้ต้องหาหรือใครที่ทำอยู่หรือคิดจะทำก็ต้องคิดหนัก เพราะเราตามต่ออย่างแน่นอน ส่วนการป้องกันที่ทำได้หลังจากนี้ก็คือ อาศัยความร่วมมือจากสังคม ทางตำรวจท่องเที่ยวก็มีเครือข่ายอาสาสมัครที่เป็นผู้ประกอบการอยู่จำนวนมาก หากพบสิ่งผิดปกติที่คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลักษณะนี้สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่ call center 1155 ตลอดเวลา