ม็อบเสื้อแดงสนามหลวงถ่อย ประกาศลั่น สนามหลวงเป็นของคนเสื้อแดง ไล่ “สมาน” “พระมหาบุญถึง” พ้นพื้นที่ เจ้าตัวเชื่ออาจจะเข้าใจผิดคิดว่าอยู่ฝ่ายม็อบเสื้อเหลือง เหตุเคยไปร่วมกับธรรมยาตราทวงคืนเขาพระวิหาร
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่ สน.ชนะสงคราม เมื่อเวลา 14.00 น. นายสมาน ศรีงาม เลขาธิการทั่วไปขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ พร้อมด้วย พระมหาบุญถึง ชุตินธโร เจ้าอาวาสวัดตะล่อม แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กทม.เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.เจรวัตร จรจบ ร้อยเวร สน.ชนะสงคราม เข้าดำเนินคดีต่อกลุ่มคนเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวง ว่าร่วมกันรุมทำร้ายร่างกาย และข่มขู่
นายสมาน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ระหว่างที่ พระมหาบุญถึง ได้สนทนาธรรม ในเต็นท์ที่ 38-39 ที่ท้องสนามหลวง ฝั่งหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในงานสัปดาห์พระพุทธศาสนา ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-9 ก.พ.ช่วงเย็นมีกลุ่มคนเสื้อแดงที่อยู่ที่ท้องสนามหลวงได้เดินเข้ามาที่เต็นท์ และข่มขู่ให้รื้อย้ายเต็นท์ออกไป โดยอ้างว่าสนามหลวงเป็นของคนเสื้อแดง หากไม่ย้ายออกจะเผาเต็นท์ โดยการเอาไฟแช็กมาจุดขู่ด้วย ถัดมาในช่วงค่ำก็มีการโยนระเบิดควันเข้ามาข่มขู่อีก
กระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น.ได้เริ่มมีกลุ่มคนเสื้อแดงเพิ่มมากขึ้น ประมาณ 200 คน โดยส่วนหนึ่งเป็นชายฉกรรจ์ประมาณ 10 คนได้เข้ามาพยายามทำร้ายตน ซึ่งสนทนาธรรมอยู่ในเต็นท์ของพระมหาบุญถึง ได้เข้ามาทำร้าย โดยหนึ่งในชายฉกรรจ์ได้ชกเข้าที่ใบหน้าของตนจนล้มลง และพยายามที่จะตามเข้ามาซ้ำ แต่เมื่อตนพยุงร่างขึ้นมาได้จึงรีบวิ่งออกไปเรียกรถแท็กซี่เพื่อหนีออกมา กระทั่งวันนี้จึงได้เดินทางพร้อมพระมหาบุญถึงเพื่อเข้าแจ้งความ
ส่วนสาเหตุที่กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าทำร้ายและข่มขู่ครั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะตนเคยร่วมกับกลุ่มธรรมยาตราทวงคืนเขาพระวิหาร และกลุ่มคนเสื้อแดงน่าจะเข้าใจว่ากลุ่มตนเป็นกลุ่มเสื้อเหลือง เป็นพวกเดียวกับสันติอโศกจึงเกิดความไม่พอใจ
ด้าน ร.ต.ท.เจรวัตร กล่าวว่า เบื้องต้นจะได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะดำเนินการสอบสวนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หากพบว่ามีผู้ใดกระทำความผิดก็จะประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่ากลุ่มม็อบเสื้อแดงที่ไปก่อกวนเต็นท์ 38-39 นั้น มาจากจากเต็นท์ของศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาที่ตั้งอยู่ตรงข้ามพระแม่ธรณีบีบมวยผม โดยมีพระมหาโช ทัสสนีโย นำปราศรัยด่าทอรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและสำนักสันติอโศกมาตั้งแต่ช่วงกลางวัน โดยพระมหาโชได้กล่าวหาว่านายสมาน คือพวกเดียวกับพันธมิตรฯ และหาว่านายสมานรับจ้างทหารที่เข้าข้างพันธมิตรฯ เป็นเงินหลายล้านบาทเพื่อทวงคืนเขาพระวิหาร ทั้งที่ข้อเท็จจริงคือคนละกลุ่มกัน โดยก่อนที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะไปทำร้ายนายสมานนั้น มีการปลุกระดมกันเป็นเวลาไม่ต่ำว่า 1 ชั่วโมง จนได้อารมณ์เต็มที่
พยานที่เห็นในเหตุการณ์เล่าว่า ขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ที่ได้รับแจ้งมา พร้อมเจ้าหน้าที่เทศกิจมาดูเหตุการณ์ แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ห้ามปรามม็อบดังกล่าวเลย ยังคงปล่อยให้ม็อบดังกล่าวล้อมเต็นท์ของสถาบันธรรมะประชาธิปไตและขู่ว่าจะเผาเต็นท์ให้ได้ จนนายสมานหนีออกไป