“พิชิฏ ชื่นบาน” อดีตทนายความทักษิณ-พจมาน และ “ศุภศรี ศรีสวัสดิ์” เสมียนทนาย เข้าชี้แจง กก.สอบมรรยาท สภาทนายความ คดีถุงขนม 2 ล้าน ด้าน “ธนา ตันศิริ” ส่งตัวแทนมาชี้แจงพร้อมขอไต่สวนพยานอีก 2 ปาก เริ่มไต่สวนพยาน 18 มี.ค.นี้
วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่สภาทนายความ ถนนราชดำเนิน นายพิชิฏ ชื่นบาน อดีตทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ พร้อมด้วย น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนายความ อดีตผู้ต้องโทษคดีละเมิดอำนาจศาลกรณีนำถุงขนมใส่เงินสด 2 ล้านบาท มอบให้เจ้าหน้าที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เข้าพบคณะกรรมการสอบสวนมรรยาทสภาทนายความ ซึ่งมี นายมนตรี ยิ่งยง เป็นประธานกรรมการสอบสวนฯ เพื่อให้ถ้อยคำชี้แจงกรณีตกเป็นผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดมรรยาทสภาทนายความ โดย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ภายหลัง นายมนตรี ประธานกรรมการสอบสวน เปิดเผยว่า ในวันนี้ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองแจ้งความประสงค์จะนำพยานบุคคลให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบสวนฯ จำนวน 8 ปาก ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนนัดไต่สวนพยานดังกล่าวในวันที่ 18 มีนาคม เวลา 13.30 น.ส่วน นายธนา ตันศิริ ผู้ประสานงานคดี พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน ซึ่งตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วยนั้น วันนี้ไม่ได้เดินทางเข้าชี้แจง แต่มอบอำนาจให้ผู้แทนมาร่วมการไต่สวน โดยแจ้งว่าจะขอนำพยานบุคคลเข้าไต่สวน 2 ปาก ซึ่งเบื้องต้นคณะกรรมการสอบสวนได้กำหนดช่วงเวลาไต่สวนพยานของ นายธนา ไว้ประมาณต้นเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ดี ในการสอบสวน คณะกรรมการจะพิจารณาพยานหลักฐานทุกชิ้น ทั้งของฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาและส่วนที่เกี่ยวข้องกับคดีละเมิดอำนาจศาล รวมทั้งคดีสินบนที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ให้ครบถ้วน
ด้าน นายวินิจ กระทอง หนึ่งในคณะกรรมการสอบสวนฯ กล่าวว่า ในการสอบสวนของสภาทนายความ ที่จะพิจารณาว่าผู้ถูกกล่าวกระทำผิดมรรยาทสภาทนายความหรือไม่ จะต้องถูกพิจารณาโทษร้ายแรงเพียงใด จะต้องได้ความว่าผู้ถูกกล่าวร่วมรู้เห็นการกระทำผิด คือ เมื่อรู้ว่าลูกความจะกระทำผิดแล้วไม่ทักทวงขัดขวาง อย่างนี้ก็ถือว่ามีส่วนร่วมกระทำผิด ซึ่งการพิจารณาโทษเป็นไปตามข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ.2529 และ พ.ร.บ.สภาทนายความ พ.ศ.2528 ส่วนนายธนา ผู้ถูกกล่าวหา จะเข้าให้ถ้อยคำด้วยตนเองต่อคณะกรรมการสอบสวนฯ หรือไม่ ถือเป็นเรื่องของผู้ถกกล่าวหาเอง ซึ่งคณะกรรมการให้โอกาสทุกคนอย่างเป็นธรรมอยู่แล้ว
ขณะที่ นายพิชิฏ กล่าวว่า ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบสวนฯ เพราะเกรงว่าจะทำผิดข้อตกลงกับคณะกรรมการ
เมื่อถามว่า หลังจากพ้นโทษแล้ว ยังทำงานในทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ และ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยโทรศัพท์มาพูดคุยด้วยหรือไม่ นายพิชิฏ ปฏิเสธที่ตอบคำถาม โดยกล่าวว่า ขออนุญาตไม่คุยเรื่องนี้ โดยตนเพิ่งไปบวชมาเพื่อไปหาความสงบหลังเข้าเรือนจำมา และตอนนี้ตกงาน
“ผมยังมั่นใจว่าสภาทนายความซึ่งเป็นองค์กรวิชาชีพที่มีความอิสระจะให้ความเป็นธรรมกับผมที่มีวิชาชีพเดียวกัน ผมพร้อมจะให้ความร่วมมือ ซึ่งวันนี้มาสภาทนายความก็เหมือนมาบ้านผม ส่วนหลังจากนี้จะทำอะไรนั้น เมื่อผมเป็นนักกฎหมายก็ยังต้องเป็นต่อไป ซึ่งผมยังเป็นที่ปรึกษากฎหมายได้” นายพิชิฏ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การเดินทางเข้าพบคณะกรรมการสอบสวน วันนี้นายพิชิฏ เดินทางมาพร้อมกับทีมที่ปรึกษา อาทิ นายเอนก คำชุ่ม นายสมหมาย กู้ทรัพย์ ซึ่งเป็นทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรก็ดี ก่อนที่นายพิชิฏและทีมทนายความที่ปรึกษาจะเข้าพบคณะกรรมการสอบสวนนั้น ปรากฏว่านายพิชิฏ ได้พบกับนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ บริเวณประตูทางเข้าอาคารสภาทนายความ ซึ่งทั้งสองได้เข้าสวมกอดทักทายกันโดยต่างมีสีหน้ายิ้มแย้ม
วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่สภาทนายความ ถนนราชดำเนิน นายพิชิฏ ชื่นบาน อดีตทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ พร้อมด้วย น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนายความ อดีตผู้ต้องโทษคดีละเมิดอำนาจศาลกรณีนำถุงขนมใส่เงินสด 2 ล้านบาท มอบให้เจ้าหน้าที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เข้าพบคณะกรรมการสอบสวนมรรยาทสภาทนายความ ซึ่งมี นายมนตรี ยิ่งยง เป็นประธานกรรมการสอบสวนฯ เพื่อให้ถ้อยคำชี้แจงกรณีตกเป็นผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดมรรยาทสภาทนายความ โดย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ภายหลัง นายมนตรี ประธานกรรมการสอบสวน เปิดเผยว่า ในวันนี้ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองแจ้งความประสงค์จะนำพยานบุคคลให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบสวนฯ จำนวน 8 ปาก ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนนัดไต่สวนพยานดังกล่าวในวันที่ 18 มีนาคม เวลา 13.30 น.ส่วน นายธนา ตันศิริ ผู้ประสานงานคดี พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน ซึ่งตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วยนั้น วันนี้ไม่ได้เดินทางเข้าชี้แจง แต่มอบอำนาจให้ผู้แทนมาร่วมการไต่สวน โดยแจ้งว่าจะขอนำพยานบุคคลเข้าไต่สวน 2 ปาก ซึ่งเบื้องต้นคณะกรรมการสอบสวนได้กำหนดช่วงเวลาไต่สวนพยานของ นายธนา ไว้ประมาณต้นเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ดี ในการสอบสวน คณะกรรมการจะพิจารณาพยานหลักฐานทุกชิ้น ทั้งของฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาและส่วนที่เกี่ยวข้องกับคดีละเมิดอำนาจศาล รวมทั้งคดีสินบนที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ให้ครบถ้วน
ด้าน นายวินิจ กระทอง หนึ่งในคณะกรรมการสอบสวนฯ กล่าวว่า ในการสอบสวนของสภาทนายความ ที่จะพิจารณาว่าผู้ถูกกล่าวกระทำผิดมรรยาทสภาทนายความหรือไม่ จะต้องถูกพิจารณาโทษร้ายแรงเพียงใด จะต้องได้ความว่าผู้ถูกกล่าวร่วมรู้เห็นการกระทำผิด คือ เมื่อรู้ว่าลูกความจะกระทำผิดแล้วไม่ทักทวงขัดขวาง อย่างนี้ก็ถือว่ามีส่วนร่วมกระทำผิด ซึ่งการพิจารณาโทษเป็นไปตามข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ.2529 และ พ.ร.บ.สภาทนายความ พ.ศ.2528 ส่วนนายธนา ผู้ถูกกล่าวหา จะเข้าให้ถ้อยคำด้วยตนเองต่อคณะกรรมการสอบสวนฯ หรือไม่ ถือเป็นเรื่องของผู้ถกกล่าวหาเอง ซึ่งคณะกรรมการให้โอกาสทุกคนอย่างเป็นธรรมอยู่แล้ว
ขณะที่ นายพิชิฏ กล่าวว่า ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบสวนฯ เพราะเกรงว่าจะทำผิดข้อตกลงกับคณะกรรมการ
เมื่อถามว่า หลังจากพ้นโทษแล้ว ยังทำงานในทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ และ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยโทรศัพท์มาพูดคุยด้วยหรือไม่ นายพิชิฏ ปฏิเสธที่ตอบคำถาม โดยกล่าวว่า ขออนุญาตไม่คุยเรื่องนี้ โดยตนเพิ่งไปบวชมาเพื่อไปหาความสงบหลังเข้าเรือนจำมา และตอนนี้ตกงาน
“ผมยังมั่นใจว่าสภาทนายความซึ่งเป็นองค์กรวิชาชีพที่มีความอิสระจะให้ความเป็นธรรมกับผมที่มีวิชาชีพเดียวกัน ผมพร้อมจะให้ความร่วมมือ ซึ่งวันนี้มาสภาทนายความก็เหมือนมาบ้านผม ส่วนหลังจากนี้จะทำอะไรนั้น เมื่อผมเป็นนักกฎหมายก็ยังต้องเป็นต่อไป ซึ่งผมยังเป็นที่ปรึกษากฎหมายได้” นายพิชิฏ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การเดินทางเข้าพบคณะกรรมการสอบสวน วันนี้นายพิชิฏ เดินทางมาพร้อมกับทีมที่ปรึกษา อาทิ นายเอนก คำชุ่ม นายสมหมาย กู้ทรัพย์ ซึ่งเป็นทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรก็ดี ก่อนที่นายพิชิฏและทีมทนายความที่ปรึกษาจะเข้าพบคณะกรรมการสอบสวนนั้น ปรากฏว่านายพิชิฏ ได้พบกับนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ บริเวณประตูทางเข้าอาคารสภาทนายความ ซึ่งทั้งสองได้เข้าสวมกอดทักทายกันโดยต่างมีสีหน้ายิ้มแย้ม