ศูนย์สืบสวน บช.น.รวบยกแก๊งทีมสังหาร “เสี่ยวี” หลังแกะรอยมากว่า 1 เดือน พบปมสั่งฆ่า “หนี้สินพนันฟุตบอลออนไลน์” กว่า 100 ล้านบาท พร้อมปูพรมเร่งตามจับ “เฮียถ่อ” ผู้จ้างวานฆ่าเต็มที่
วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ศูนย์สืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา พล.ต.ต.ดำริห์ โชติเศรษฐ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.ศูนย์สืบสวน บช.น. ร่วมกันแถลงผลจับกุมแก๊งคนร้ายก่อเหตุฆ่า นายวีรพงษ์ การกิจโอฬาร หรือ เสี่ยวี หรือ เสี่ยฮุยขอนแก่น เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถเรือนพระยาฟิตเนสซาวน่า ซ.โยธินพัฒนา แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา
โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 5 ราย ประกอบด้วย นายสิทธิชัย ยรรยงเวโรจน์ หรือ เครา 2.นายอาทิตย์ ตระกูลชูวงษ์ หรือ เต๋า 3.นายเรวัช อยู่มุด หรือ กิ๊ก 4.นายนิกร เทิ้มทิพย์ หรือ ตัวเล็ก 5.นายวิบูลย์ ทับสกุล หรือ บูลย์ พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ หมายเลขทะเบียน พห 4016 กทม.จำนวน 1 คัน, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 3 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อฮัทช์ 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง, อาวุธปืนออโตเมติกยี่ห้อวอลเธอร์ ขนาด .38 มม. พร้อมกระสุนขนาดเดียวกัน 6 นัด อาวุธปืนออโตเมติกยี่ห้ออูซี่ขนาด 9 มม.พร้อมกระสุน 13 นัด
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีสะเทือนขวัญ พฤติการณ์เป็นระบบการจ้างวานฆ่า ซึ่งจากการสอบสวนคาดว่าคดีนี้เกิดจากการขัดแย้งเรื่องหนี้สินการพนันฟุตบอล ระหว่างนายวีรพงษ์ ผู้ตาย กับนายสามารถ กาจกำจรเดช หรือ ถ่อ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับผู้จ้างวานฆ่านายวีรพงษ์โดยขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี หลังจากเกิดคดีดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานข้อมูลจากคนใกล้ชิดผู้ตาย สถานที่ต่างๆ และสะกดรอยผู้ต้องสงสัยอย่างต่อเนื่องนานกว่า 1 เดือน
“ตลอดจนความสำคัญทางเทคโนโลยี และได้การข่าวจากสายลับ จนทำให้ได้พยานหลักฐานยืนยันว่านายสามารถเป็นผู้ใช้จ้างวาน เนื่องจากมีปัญหาหนี้สินการแทงพนันฟุตบอลผ่านเว็บไซต์ โดยนายสามารถกล่าวหาผู้ตายว่าเป็นฝ่ายโกงทำให้ต้องสูญเงินไปกว่า 100 ล้านบาท จึงได้จ้างวานให้นายสิทธิชัยซึ่งเป็นเพื่อนกับนายสามารถไปฆ่านายวีรพงษ์” พล.ต.ท.สุชาติ กล่าว
ผบช.น.กล่าวอีกว่า หลังจากนายสิทธิชัยรับงานจากนายสามารถก็ได้ติดต่อนายอาทิตย์ ซึ่งเป็นผู้วางตะปูเรือใบรถผู้ตายและติดต่อนายเรวัชเป็นผู้ชี้เป้า ก่อนจะติดต่อนายวิบูลย์ซึ่งเป็นมือปืน โดยนายวิบูลย์ได้ติดต่อนายนิกรมาเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ได้พยานหลักฐานข้อมูลทั้งหมด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.อ.ปรีชา ได้ติดตามเชิญตัวนายสิทธิชัย นายอาทิตย์ และนายเรวัช จากย่านเปี่ยมรักคอนโดมิเนียม ซ.เทิดไทย 33 แขวงบุคโล เขตธนบุรี มาสอบสวน เมื่อวันที่ 21 มกราคม ช่วงเวลา 21.00-23.00 น.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปเชิญตัวนายวิบูลย์ ซึ่งเป็นมือปืน ที่หน้าธนาคารนครหลวงไทย สาขาปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาสอบสวน พร้อมด้วยอาวุธปืนยี่ห้ออูซี่ ขนาด 9 มม. แต่นายวิบูลย์ยังคงให้การปฏิเสธ จากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 1 ชุดไปยึดรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ ทะเบียน พห-4016 กทม.จากบ้านเลขที่ 11/388-390 ซ.เอกชัย 94 แขวงและเขตบางบอน กทม.ซึ่งเป็นรถที่นายสิทธิชัยใช้ในการก่อเหตุเป็นพาหนะนำนายอาทิตย์กับนายเรวัชไปวางตะปูเรือใบรถของนายวีรพงศ์ และทำการชี้เป้าให้กับนายวิบูลย์ มือปืน
ผบช.น.กล่าวต่อว่า ข้อมูลที่มีในขณะนี้ทราบว่าผู้ตายทำธุรกิจเกี่ยวกับการพนันหลายอย่าง เช่น การพนันฟุตบอล ซึ่งเป็นเจ้าของโต๊ะรายใหญ่ของประเทศ อีกทั้งยังมีโต๊ะพนันบอลอยู่ในต่างประเทศอีกด้วย เบื้องต้นผู้ตายมีข้อมูลว่าเชื่อมโยงกับ "เครือข่ายอาบูบาก้า" ซึ่งเป็นเครือข่ายก่อการร้ายข้ามชาติ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ผู้ตายเสียชีวิตนั้นเพราะนายสามารถติดหนี้พนันผู้ตายอยู่หลักร้อยล้านบาทและนายสามารถก็อ้างว่าผู้ตายโกง เนื่องจากเสียเงินไปกับการพนันฟุตบอลทางเว็บไซต์จำนวนมาก แต่ต่อมาเว็บไซต์ที่นายสามารถแทงพนันบอลกับผู้ตายได้ยุบตัวไป จึงได้ทำให้นายสามารถเข้าใจว่าถูกโกง ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของต่างประเทศที่จดทะเบียนไว้ เท่าที่ทราบก็มีอยู่เช่น สโรแบ็ค และไอบีซี ซึ่งไอบีซีอยู่แถวประเทศมาเลเซีย สำหรับการพนันดังกล่าวจะเชื่อมโยงกับนักการเมืองหรือไม่นั้นต้องตรวจสอบและขยายผลอีกครั้ง
จากการสอบสวนขยายผลได้ความว่า แก๊งดังกล่าวได้วางแผนฆ่าผู้ตายตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2551 โดยนายสามารถได้เรียกนายสิทธิชัยไปพบเพื่อจ้างนายสิทธิชัยฆ่านายวีรพงศ์ในราคา 2 ล้านบาท ต่อมานายสิทธิชัยได้นำนายอาทิตย์และนายเรวัชไปดูตัวนายวีรพงศ์ที่วัดกลางเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อนจะให้นายอาทิตย์ไปซื้อเสื้อวินจักรยานยนต์ให้นายนิกรสวมใส่ ส่วนนายสิทธิชัยได้เตรียมตะปูเรือใบ จากนั้นได้นัดหมายให้นายวิบูลย์มาดูตัวนายวีรพงศ์ ที่สนามม้านางเลิ้งชั้นราคา 100 บาท
ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ 1 อาทิตย์ ทั้งหมดได้นัดกันเพื่อมาฆ่านายวีรพงษ์ที่สนามม้านางเลิ้ง แต่ในวันดังกล่าวนายวีรพงษ์ไม่ได้เข้ามาที่สนามม้า แผนการจึงล้มเหลว กระทั่งวันเกิดเหตุ 14 ธันวาคม 2551 คนร้ายทั้งหมดได้ไปดูตัวผู้ตายที่สนามม้าปทุมวัน ก่อนจะกลับไปวางแผนที่ห้องพัก ต่อมาได้ใช้รถยนต์เบนซ์นำนายอาทิตย์และนายเรวัชไปที่เรือนพระยา โดยให้นายเรวัชเป็นคนชี้เป้า ส่วนสายอาทิตย์เป็นผู้วางเรือใบรถยนต์ผู้ตาย ก่อนจะนัดหมายนายวิบูลย์ กับนายนิกร ที่รออยู่ใกล้ๆ ให้เตรียมพร้อม
กระทั้งนายวีรพงษ์ ออกมาขึ้นรถพบว่ายางรถยนต์ถูกตะปูเรือใบ และระหว่างที่นายวีรพงษ์ รอเปลี่ยนยางรถยนต์อยู่นั้น นายนิกร ได้ขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีนายวิบูลย์ซ้อนท้าย จากนั้นได้ยิงผู้ตายแล้วหลบหนีเข้าไปท้ายซอยโยธินพัฒนา ขณะที่นายสิทธิชัย นายอาทิตย์และนายเรวัช ขึ้นรถยนต์เบนซ์คันเดิมกลับไปที่ห้องพักที่เปี่ยมรักคอนโดมิเนียม แขวงบุคคโล เขตธนบุรี โดยนายสิทธิชัยได้แบ่งค่าจ้างที่รับมาจากนายสามารถ ให้นายวิบูลย์ มือปืน 8 แสนบาท ให้นายนิกร คนขับจักรยานยนต์ 3 แสนบาท ให้นายอาทิตย์ และนายเรวัช คนละ 1.5 แสนบาท ส่วนนายสิทธิชัยได้เงินไป 8 แสนบาท
ขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้งหมดว่าฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนผู้จ้างวาน เจ้าหน้าที่จะนำตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม สำหรับนายวิบูลย์ซึ่งเป็นมือปืนเคยถูกออกหมายจับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2551 ในข้อหาร่วมกันฆ่านายสาโรจน์ หรือ เสี่ยโต สีเหลืองสวัสดิ์ ในพื้นที่ สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินคดี
ส่วนนายนิกรณ์เคยถูกออกหมายจับเมื่อเดือนเมษายน 2546 ในข้อหามีและใช้อาวุธปืนในพื้นที่ สน.บางพลัด และข้อหาทำให้เสียทรัพย์ โดยใช้อาวุธิปืนยิงบ้านนายสุรกาญน์ เกิดผล ซ.จรัญสนิทวงศ์ 65 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงผลการจับกุมแล้ว เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ จุดเกิดเหตุ โดยจุดแรกคือเรือนพระยาฟิตเนสซาวน่าซึ่งเป็นจุดที่มือปืนลั่นไกสังหารผู้ตาย จากนั้นไปยังสนามม้านางเลิ้งและไปทำแผนยังสนามม้าปทุมวัน ก่อนจะไปทำแผนจุดที่ 4 บริเวณเดอะมอล์ท่าพระซึ่งเป็นจุดแบ่งเงินค่าจ้าง และจุดสุดท้ายคือที่วัดกลางเกร็ด ซึ่งเป็นสถานที่ชี้เป้าครั้งแรก โดยจะนำทั้งหมดไปฝากขังยังศาลอาญารัชดา ในวันที่ 31 ม.ค. เวลาประมาณ 12.00 น.