เศร้า! “ดาบชิต” จอมแฉส่วยทางหลวงสิ้นลมแล้ว

สิ้นชื่อ “ดาบชิต” อดีตตำรวจจอมแฉส่วยทางด่วนสิ้นลมแล้ว หลังถูกคนร้ายลอบยิงในไร่ไผ่รวก ลูกชายเชื่อบิดาถูกลอบสังหารแน่ เตรียมนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ จ.สมุทรสงคราม ตร.พบประเด็นขัดแย้งกับผู้มีผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมาย ลงพื้นที่พบจุดซุ่มยิงที่เชื่อว่าคนร้าย ใช้เป็นพิกัดในการลงมือ ด้านกรรมการสิทธิฯ รับสอบคดีดาบชิตทันที

ความคืบหน้า ด.ต.ชิต ทองชิต อดีตตำรวจทางหลวงนอกราชการ ที่ออกมาเปิดโปงเรื่องส่วยทางหลวง และขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งถูกยิงได้รับบาดสาหัส เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2552 ที่ จ.ราชบุรี หลังจากญาติได้ขอย้าย ด.ต.ชิตไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ กทม. เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2552 ที่ผ่านมา และเมื่อเวลา 14.40 น.ของวันนี้ (19 ม.ค.2552) ด.ต.ชิตได้สิ้นลมอย่างสงบ โดยแพทย์จะนำศพไปผ่าพิสูจน์วิถีกระสุนที่ถูกยิงและกระสุนที่ยังอยู่ในสมอง ก่อนที่จะมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่วัดป้อมแก้ว จ.สมุทรสงคราม

ส่วนเรื่องของคดีในวันนี้ เจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัดราชบุรี ได้นำเครื่องตรวจหาวัตถุไปตรวจหาปลอกกระสุนที่คาดว่าคนร้ายน่าจะสลัดปลอกไว้ในที่เกิดเหตุ ภายในไร่ไม้ไผ่รวก หมู่ที่ 7 บ้านห้วยศาลา ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบร่องรอยของสถานที่ที่อาจจะเป็นจุดที่ใช้ซุ่มยิงดาบชิต ในระยะเพียง 35 เมตร ซึ่งสามารถหวังผลได้ โดยในที่เกิดเหตุมีรอยเท้าเหยียบย่ำก่อนจะยิงโดยใช้ปืนยาวพาดกับกิ่งไม้เป็นต้นข่อยที่ขึ้นแซมกับต้นไม้ไผ่รวก เป้าหมายในลักษณะตรงกับกระสุนที่เข้าบริเวณศีรษะพอดี

นอกจากนี้ยังพบกิ่งไม้ที่มีรอยหักเพื่อเล็งปืน พื้นที่ที่ย่ำหญ้าจนหญ้าตายลักษณะเตรียมการมานั่งรออยู่นานหลายชั่วโมง มีหญ้าคาขึ้นปกคลุม และมีทางเดินเป็นทางเข้ามาจุดที่นั่งซุ่มยิงซึ่งเด่นชัดมาก ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปตรวจสอบและลองยิงปืน 6 นัดให้เกิดเสียงดังให้พยานที่เป็นลูกจ้างฟังดูว่าตรงกับเสียงปืนที่ได้ยินหรือไม่ รวมทั้งทดลองใช้ปืนลูกกรดยิงเป้าในบริเวณที่ดาบชิตยืนก่อนที่จะเสียชีวิต ซึ่งก็เป็นเป้าหมายเดียวกัน และกระสุนก็เข้าในจุดเดียวกันกับที่ดาบชิตโดน

นายกฤษฎา ทองชิต ลูกชายดาบชิต กล่าวว่า จากวิถีกระสุนที่จุดซุ่มยิงนั้นเชื่อได้ว่าไม่ใช่เรื่องของการเข้ามาล่าสัตว์แล้ว เนื่องจากพบจุดซุ่มยิงเพื่อหวังสังหารอย่างเด่นชัด ส่วนคนร้ายนั้นน่าจะเป็นคนที่ชำนาญการใช้อาวุธและเส้นทางเข้าออกเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ยังพบประเด็นความขัดแย้งเรื่องที่ดาบตำรวจชิตไม่ย้อมอ่อนข้อให้กับผู้มีผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมาย จึงเชื่อว่าอาจจะเป็นชนวนให้เหตุถูกลอบสังหารครั้งนี้ โดยพนักงานสอบสวนพยายามรวบรวมสำนวนการสอบสวน และสถานที่เกิดเหตุถึงประเด็นทั้งหมดว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่

ทางด้าน นายประเทือง ปรัชญพฤทธิ์ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบภาคประชาชน (ป.ป.ช.ภาคประชาชน) ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เพื่อให้ตรวจสอบคดีลอบสังหาร ด.ต.ชิต ทองชิต อดีตตำรวจทางหลวงนอกราชการ ซึ่งถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2552

คดีดังกล่าวสร้างความสะเทือนขวัญแก่บุคลากรในเครือข่ายภาคประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจาก ด.ต.ชิต เป็นอดีตตำรวจชั้นผู้น้อยที่เปิดโปงการทุจริตประพฤติมิชอบในวงการตำรวจ จนถูกกดดันให้ลาออกจากราชการ ในกรณีตรวจสอบและเปิดโปง “ขบวนการส่วยทางหลวง” อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ด.ต.ชิต ได้มาเข้าร่วมกับเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) และ กรรมการ ป.ป.ช.ภาคประชาชน ดังนั้น จึงอยากให้กรรมาธิการฯเร่งตรวจสอบมูลเหตุและดำเนินคดีให้มีความเที่ยงธรรมด้วย

นายสมชาย กล่าวว่า ทางกรรมาธิการฯ จะดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ ตามอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภา โดยจะใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างเร็วที่สุด เพราะคดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมา ด.ต.ชิต ก็ได้มีการยื่นเรื่อง เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิและการทุจริต ในวงราชการ ให้กับคณะกรรมาธิการฯ ตรวจสอบมาโดยตลอดเช่นเดียวกัน

สำหรับ ด.ต.ชิต ทองชิต หรือฉายา “เซอร์ปิโก้ เมืองเพชร” เป็นอดีตข้าราชการตำรวจทางหลวงที่ออกมาเปิดโปงเรื่องตำรวจทางหลวงเรียกรับส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก และเปิดโปงเรื่องข้าราชการทุจริตคอร์รัปชัน จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่ว และเคยร้องเรียนเรื่องของเอเย่นต์ค้ายาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่ของ อ.ปากท่อ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ และลาออกจากอาชีพตำรวจมาประกอบธุรกิจส่วนตัวเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา