ลูกชาย-ลูกสาวรับศพ “ดาบชิต” ยังติดใจประเด็นเปิดโปงส่วยทางหลวง-ยาเสพติด เป็นปมเชื่อมโยงพ่อถูกลอบสังหาร ลั่นกดดันตำรวจไม่เผาศพหากจับคนร้ายไม่ได้ ยิ่งถ้าปล่อยให้เรื่องเงียบจะร้องเรียนตามขั้นตอน
วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นายกฤษฎา ทองชิด อายุ 33 ปี อาชีพทนายความ ลูกชาย พร้อมด้วย นางอุบลวัลย์ ทองชิด บุตรสาว ของ ดาบตำรวจชิต ทองชิต อดีตตำรวจทางหลวง ที่ออกมาเปิดโปงเรื่องส่วยทางหลวงจนถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมญาติ เดินทางมารับศพบิดา ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ด้วยอาการเศร้าโศก
นายกฤษฎา กล่าวว่า ผลการชันสูตรศพ กับที่ตนได้เดินทางไปดูที่เกิดเหตุพบว่าตรงกัน ระยะการยิงประมาณ 35 เมตร จากจุดที่ยิงกับจุดที่บิดายืนอยู่ซึ่งเป็นระยะหวังผล คนร้ายมีการไปดักซุ่มรออยู่ก่อนบิดาจะเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ และคาดว่า จะเป็นคนมีฝีมือมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืน มีความประสงค์ให้บิดาเสียชีวิตด้วยกระสุนนัดเดียว
นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นการสังหารนั้นยังไม่แน่ชัด แต่คาดว่า น่าจะเกี่ยวโยงกับกรณีที่บิดาไปร้องเรียนเรื่องส่วยทางหลวง และยาเสพติด นอกจากนั้น ยังมีเรื่องที่บิดาชอบไปช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนซึ่งอาจไปขัดแย้งกับคนอื่น ซึ่งตอนนี้ตำรวจเองก็ยังไม่สรุปว่ามาจากสาเหตุอะไร ตอนนี้ตนเองและครอบรัวได้ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ทำงานหาตัวคนร้ายไปก่อน ซึ่งตอนนี้ตำรวจในพื้นที่ก็กระตือรือร้นในการทำงานแต่หากเวลาล่วงเลยแล้วจับคนร้ายไม่ได้ หรือเรื่องเงียบหายไปก็จะดำเนินการร้องเรียนไปตามที่ต่างๆ ตามขั้นตอน อาจจะไปร้องกองปราบปราบให้ช่วยเหลือ
นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า จะนำศพบิดาไปบำเพ็ญกุศล ไว้ที่วัดป้อมแก้ว อำเภออัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งจะเก็บศพไว้ประมาณ 7 วัน แต่มีชาวบ้านจะมาร่วมเป็นเจ้าภาพจำนวนมากก็คงต้องขยายเวลาไป หรือไม่ก็จะเก็บศพไว้จนกว่าจะตำรวจจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ถึงจะฌาปณกิจศพ
ด้าน พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ เสาวคนธ์ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยผลการชันสูตรศพ ดาบตำรวจ ชิต ผู้ตายถูกยิงจากระยะไกล กระสุนถูกบริเวณกะโหลกศีรษะด้านหลัง ทะลุด้านหน้าซ้าย มีเศษตะกั่วติดอยู่ภายใน บริเวณหน้าผากด้านในกะโหลกแตก รูกระสุนมีขนาดความกว้าง 0.5 ซม.ตรวจสอบไม่พบรูกระสุนบริเวณกะโหลก จึงคาดว่าอาจถูกตัดออกไปแล้ว ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต เกิดจากสมองบวม และสมองตายจนทำให้เสียชีวิต
เศร้า! “ดาบชิต” จอมแฉส่วยทางหลวงสิ้นลมแล้ว
วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นายกฤษฎา ทองชิด อายุ 33 ปี อาชีพทนายความ ลูกชาย พร้อมด้วย นางอุบลวัลย์ ทองชิด บุตรสาว ของ ดาบตำรวจชิต ทองชิต อดีตตำรวจทางหลวง ที่ออกมาเปิดโปงเรื่องส่วยทางหลวงจนถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมญาติ เดินทางมารับศพบิดา ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ด้วยอาการเศร้าโศก
นายกฤษฎา กล่าวว่า ผลการชันสูตรศพ กับที่ตนได้เดินทางไปดูที่เกิดเหตุพบว่าตรงกัน ระยะการยิงประมาณ 35 เมตร จากจุดที่ยิงกับจุดที่บิดายืนอยู่ซึ่งเป็นระยะหวังผล คนร้ายมีการไปดักซุ่มรออยู่ก่อนบิดาจะเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ และคาดว่า จะเป็นคนมีฝีมือมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืน มีความประสงค์ให้บิดาเสียชีวิตด้วยกระสุนนัดเดียว
นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นการสังหารนั้นยังไม่แน่ชัด แต่คาดว่า น่าจะเกี่ยวโยงกับกรณีที่บิดาไปร้องเรียนเรื่องส่วยทางหลวง และยาเสพติด นอกจากนั้น ยังมีเรื่องที่บิดาชอบไปช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนซึ่งอาจไปขัดแย้งกับคนอื่น ซึ่งตอนนี้ตำรวจเองก็ยังไม่สรุปว่ามาจากสาเหตุอะไร ตอนนี้ตนเองและครอบรัวได้ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ทำงานหาตัวคนร้ายไปก่อน ซึ่งตอนนี้ตำรวจในพื้นที่ก็กระตือรือร้นในการทำงานแต่หากเวลาล่วงเลยแล้วจับคนร้ายไม่ได้ หรือเรื่องเงียบหายไปก็จะดำเนินการร้องเรียนไปตามที่ต่างๆ ตามขั้นตอน อาจจะไปร้องกองปราบปราบให้ช่วยเหลือ
นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า จะนำศพบิดาไปบำเพ็ญกุศล ไว้ที่วัดป้อมแก้ว อำเภออัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งจะเก็บศพไว้ประมาณ 7 วัน แต่มีชาวบ้านจะมาร่วมเป็นเจ้าภาพจำนวนมากก็คงต้องขยายเวลาไป หรือไม่ก็จะเก็บศพไว้จนกว่าจะตำรวจจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ถึงจะฌาปณกิจศพ
ด้าน พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ เสาวคนธ์ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยผลการชันสูตรศพ ดาบตำรวจ ชิต ผู้ตายถูกยิงจากระยะไกล กระสุนถูกบริเวณกะโหลกศีรษะด้านหลัง ทะลุด้านหน้าซ้าย มีเศษตะกั่วติดอยู่ภายใน บริเวณหน้าผากด้านในกะโหลกแตก รูกระสุนมีขนาดความกว้าง 0.5 ซม.ตรวจสอบไม่พบรูกระสุนบริเวณกะโหลก จึงคาดว่าอาจถูกตัดออกไปแล้ว ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต เกิดจากสมองบวม และสมองตายจนทำให้เสียชีวิต
เศร้า! “ดาบชิต” จอมแฉส่วยทางหลวงสิ้นลมแล้ว
