นายกสมาคมตำรวจรู้ว่าจะมีตำรวจนำรายชื่อเสนอถอนถอน ป.ป.ช.ส่งให้วันนี้ อ้างก่อนดำเนินการต้องได้รับมติจากการสัมมนาวิชาการประกอบ ยินดีเป็นตัวแทนจัดการให้ ย้ำรวมพลตำรวจร่วมฟังอภิปรายครั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ระบายความรู้สึกกับเหตุการณ์ 7 ตุลาเลือด
วันนี้ (19 ม.ค.) เวลา 09.00 น.ที่สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดี ได้มีการจัดสัมมนาวิชาการ เรื่อง “องค์กรตามรัฐธรรมนูญกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ” โดย พล.ต.อ.วิสุทธิ์ กิตติวัฒน์ นายกสมาคมตำรวจ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ซึ่งก่อนการอภิปรายของวิทยากรต่างๆ สมาคมตำรวจได้เปิดซีดีตำรวจภาคประชาชน ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้จัดทำขึ้นให้ตำรวจที่เข้าร่วมลงทะเบียนฟังสัมมนาจาก กต.ตร. กองบังคับการตำรวจนครบาล นายตำรวจระดับล่างยศตั้งแต่นายสิบจนถึงนายพล ประมาณ 1,000 นาย ที่นั่งเต็มจนล้นห้องประชุมออกมานั่งฟังข้างนอกบางส่วนได้รับชม จากนั้นได้เปิดสกู๊ปที่ช่อง 9 ได้จัดทำขึ้นสมัยเกิดเหตุการณ์สลายการชุมชุม เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 ให้นายตำรวจทั้งหมดได้ชมก่อนที่จะเริ่มสัมมนา
อย่างไรก็ตาม ผู้ร่วมดำเนินการสัมมนาครั้งนี้ได้แก่ พล.ต.อ.สุพาสน์ จีระพันธุ อดีตนายกสมาคมตำรวจ และอดีต ก.ตร. ดร.พนา ทองมีอาคม คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ ม.หัวเฉียว นายพนม ปรีย์เจริญ ประธานกรรรมการบริหาร บริษัท เมเนเจอร์ไลฟ์ จำกัด พล.ต.อ.สุวรรณ สุวรรณเวโช อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และอดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. และมี พล.ต.อ.วิสุทธิ์ เป็นพิธีกรดำเนินการ ซึ่งการสัมมนาครั้งนี้จะจบลงในเวลา 12.00 น.
ทั้งนี้ ก่อนการเริ่มสัมมนา พล.ต.อ.วิสุทธิ์ เปิดเผยว่า การสัมมนาครั้งนี้สืบเนื่องจากวันที่ 7 ต.ค. 51 ทำให้ตำรวจตกเป็นจำเลยสังคม เป็นแพะทางการเมือง จนตำรวจเสียขวัญกำลังใจในการทำงาน แม้ขณะนี้ประชาชนจะเริ่มเข้าใจตำรวจมากขึ้น แต่การตรวจสอบการทำงานของตำรวจยังคงมีอยู่ ซึ่งทางสมาคมตำรวจได้ติดตามข่าวมาตลอด จึงอยากทราบความรู้สึกของตำรวจทั้งหมด และในวันนี้จึงได้เปิดโอกาสให้นายตำรวจทุกคนได้แสดงความรู้สึก
ส่วนกรณีข่าวการจัดสัมมนาเพื่อที่จะมีการล่ารายชื่อถอดถอนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้ง 9 คนนั้น พล.ต.อ.วิสุทธิ์ ยอมรับว่า รู้ว่ามีตำรวจบางคนจัดทำรายชื่อมาให้ในวันนี้ แต่ตนยังไม่เห็น และยังไม่ได้รับรายชื่อดังกล่าว ซึ่งก่อนจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ต้องฟังมติจากการจัดสัมมนาครั้งนี้ประกอบด้วย ซึ่งหากมีการดำเนินการคนที่นำไปดำเนินการต้องเป็นจุดเป้าหมายที่หลายฝ่ายมอง ซึ่งส่วนตัวมองว่าถ้าทำให้วงการตำรวจดีขึ้นตนก็ยินดีเป็นตัวแทนดำเนินการ ซึ่งเชื่อว่าการจัดงานจะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างตำรวจกับป.ป.ช. เนื่องจากทุกคนมีเหตุผลของตัวเองคงไม่มีการกระทบกระทั่งกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อการสัมมนาได้เริ่มไปประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประชาชน และกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ ได้ทยอยลงลายมือชื่อ ณ จุดลงทะเบียน พร้อมกับยื่นสำเนาบัตรประชาชน ให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่อยู่บริเวณหน้างานด้านหน้าห้องประชุมสมาคมตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตีตารางกระดาษเอ 4 เป็นช่อง ๆ เพื่อให้ลงชื่อตามลำดับ และได้เก็บรวบรวมสำเนาบัตรประชาชนไว้ ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะนำรายชื่อและเอกสารสำเนาบัตรประชาชนไปให้ใครดำเนินการต่อ ก็ได้รับการปฏิเสธว่าไม่ทราบ และเจ้าหน้าที่บางคนก็ตอบแบบส่ง ๆ เพื่อไม่ให้ถูกถามซ้ำ โดยอ้างว่าจะนำไปให้คนนั้น คนนี้ ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวไปตามต่อกับบุคคลที่ถูกอ้างชื่อก็ได้รับการปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องด้วย
อย่างไรก็ตาม การสัมมนาครั้งนี้ มีนายตำรวจยศนายพล เช่น พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองผบ.ตร. พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง เข้าร่วมสัมมนาด้วย
ทั้งนี้ ก่อนการสัมมนาจะจบลงเพียง 20 นาที โดยการสัมมนาครั้งนี้มีกำหนดการแล้วเสร็จในเวลา 12.30 น. ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปฏิบัติการพิเศษจำนวน 500 นาย นำโดยพล.ต.ต.ศรีวรา รังสิพราหมณกูล ผบก.ตปพ. ได้มาตั้งแถวบริเวณด้านหน้าห้องประชุม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดทยอยลงรายชื่อ ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าลงรายชื่อเพื่อถอดถอน ป.ป.ช. หรือไม่ พล.ต.ต.ศรีวรา กล่าวว่า ตำรวจมาลงรายชื่อเข้าร่วมสัมมนาเฉย ๆ แต่ถ้าจะมีตำรวจคนไหนต้องการลงรายชื่อถอดถอนก็เป็นสิทธิทำได้ ซึ่งที่ผ่านมามีตำรวจกว่า 2,000 นายในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ไม่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ วันที่ 7 ตุลาคม 2551 ได้แสดงความคิดเห็นว่าตำรวจไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ถือเป็นสิทธิที่จะแสดงเจตจำนงค์ลงรายมือชื่อถอดถอน ป.ป.ช. ได้ ซึ่งในเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับผู้บังคับบัญชา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกต แม้ว่าจะใกล้เวลาปิดการสัมมนาแล้ว ยังมีตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำซองสีน้ำตาลขนาดใหญ่ซึ่งคาดว่าบรรจุรายชื่อตำรวจที่ลงชื่อถอดถอน ป.ป.ช. มายื่นให้เจ้าหน้าที่ประจำหน้างานที่ตั้งโต๊ะไว้ว่าเป็นจุดลงทะเบียนเข้าร่วมสัมมนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจะลงทะเบียนเข้าร่วมสัมมนาก็น่าจะทำตั้งแต่ก่อนการเข้าร่วมงานช่วงเช้า แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงทยอยมาลงลายมือชื่อเรื่อย ๆ และบอกว่ามาลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟังสัมมนาทั้งที่การสัมมนาจะจบลงแล้ว
โฆษก ตร.โบ้ย “นวย เชิญยิ้ม” ตอบถอด 9 ป.ป.ช.ชัดเจนกว่า!
“สุชาติ” แบ่งรับแบ่งสู้ล่าชื่อตำรวจถอดถอน 9 อรหันต์ ป.ป.ช.!
ตำรวจกลัวคุก! จัดฉากสัมมนาล่าชื่อถอดถอน 9 ป.ป.ช.
“โฆษก ตร.” ระบุไม่ได้กดดันรัฐบาล ปล่อยองค์กรตำรวจถกเรื่องหน้าที่
ศาลรู้ทัน ไม่รับฟ้อง “อำนวย” กล่าวหา 9 ป.ป.ช.!
แฉเล่ห์"อำนวย"ล่าชื่อตำรวจพวกแม้วถอด ป.ป.ช.ขวางสอบ7ตุลาเลือด
แฉเล่ห์ฉ้อฉล “อำนวย” ส่งคนแสร้งฟ้องศาล สกัด ป.ป.ช.เชือดคดี 7 ตุลาเลือด