แจ้ง “เจ๊ปิ๊ก” ช่วยหนูน้อยถูกบังคับขอทาน เซ่นกามให้เพื่อนพ่อ!

มูลนิธิปวีณา เข้าไปช่วยเหลือ ด.ญ.วัย 11 ขวบ กับน้องๆ ที่ถูกเพื่อนบ้านกล่าวหาว่า ถูกพ่อแม่บังคับให้ไปขอทาน และให้หนูน้อยวัย 11 ขวบ สังเวยกามให้เพื่อนพ่อ แรกเงิน 200 บาท นำไปก๊งเหล้าเคล้ากัญชา ขณะที่ 2 ผัวเมียปฏิเสธข้อกล่าวหา “เจ๊ปิ๊ก” ก็ยังไม่กล้าตัดสินใจ แต่ขอตัวเด็กไปให้บ้านราชวิถีเลี้ยงดูก่อน โดยที่ตำรวจจะพาหนูน้อยไปตรวจหาร่องรอยการถูกข่มขืน จากนั้นจึงจะแจ้งข้อกล่าวหากับพ่อแม่

วันนี้ (13 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในชุมชนทุ่งหมาหลง ซอยอ่อนนุช 30 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.ว่ามีพ่อแม่ครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่ในชุมชนได้บังคับขู่เข็ญให้ลูกออกไปขอทานและบังคับให้ร่วมประเวณี ก่อนที่จะประสานนายอำนาจ หน่อสกุลไท ผู้อำนวยศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต 4 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับชุมชนดังกล่าวปลูกติดกันประมาณ 5-6 หลังคาเรือนโดยบ้านที่ได้รับแจ้งนั้นเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกด้วยไม้มีสภาพทรุดโทรมมีลักษณะเป็นเพลิงหมาแหงนหลังคามุงด้วยสังกะสี ฝาบ้านเป็นไม้ ส่วนสภาพภายในที่พักนั้นรกรุงรัง มีของวางเกะกะแทบไม่มีที่นอน ส่วนห้องน้ำนั้นใช้ผ้าใบกั้น ไม่มีน้ำและไฟฟ้าใช้ต้องใช้เทียนไขเพื่อให้ความสว่าง และพื้นที่ดังกล่าวกำลังจะถูกไล่ที่ในอีก 2-3 วันนี้

นางสาวสมรัก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ชาวบ้านในละแวกดังกล่าว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อาศัยในชุมชนดังกล่าวและได้เห็นครอบครอบนี้พ่อแม่ชอบบังคับขู่เข็ญให้ลูกออกไปขอทานหากวันไหนลูกขอทานไม่ได้เงินกลับมาก็มักจะถูกทำร้ายทุบตีจนบางครั้งเด็กถึงกับได้รับบาดเจ็บเลือดตกยางออกก็มี นอกจากนี้ ผู้เป็นพ่อแม่ยังบังคับให้ลูกสาวคนโตอายุเพียง 11 ขวบให้ร่วมหลับนอนกับกลุ่มเพื่อนของพ่อที่มานั่งดื่มเหล้าที่บ้านเป็นประจำ โดยแต่ละครั้งก็เหมือนกับว่าพ่อแม่รู้เห็นเป็นใจด้วย เพราะในระหว่างที่ปล่อยให้ลูกสาวอยู่ตามลำพังกับเพื่อนของพ่อนั้น พ่อแม่ของเด็กก็จะออกไปนอกบ้าน และหลังจากที่ร่วมหลับนอนเสร็จแล้วเด็กก็จะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 200 บาท เพื่อนำไปให้กับพ่อแม่เด็กนำไปซื้อเหล้ากินทุกวัน

5461เท่าที่ทราบพ่อแม่เด็กจะไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง โดยพ่อเด็กจะติดเหล้าและติดกัญชาด้วย และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาฉันได้สังเกตุเห็นน้องเดินออกมาจากบ้านในสภาพกางเกงหลุดลงมาอยู่ที่ขาและเดินลักษณะขาถ่างจึงเรียกมาสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กก็ได้เล่าความจริงให้ฟังมาว่าได้ถูกเพื่อนของพ่อข่มขืนกระทำชำเรา โดยเพื่อนของพ่อจะให้เงินไปซื้อขนมเป็นค่าตอบแทน เรื่องนี้ฉันคิดว่าพ่อกับแม่เด็กก็น่าจะรู้เห็นเป็นใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และสิ่งที่เด็กกับเด็กนั้นมันเป็นสิ่งที่ย่ำแย่กับจิตใจของเด็กมากจึงได้ตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งให้กับมูลนิธิปวีณาได้ทราบเพื่อมาให้การช่วยเหลือ” นส.สมรัก กล่าว

ขณะเดียวกัน มาดาของ ด.ญ.เก๋ (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ยอมเปิดเผยว่า มีลูกทั้งหมด 6 คน ลูกเกิดกับสามีคนแรก 2 คน ส่วนสามีคนปัจจุบันนั้นมีลูกด้วยกัน 4 คน น้องเก๋ อายุ 11 ขวบ น้องไก่ (นามสมมติ) อายุ 4 ขวบ น้องแก้ว (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบและคนสุดท้องอายุ 4 เดือน โดยลูกที่เกิดกับสามีคนใหม่นั้น ได้เลี้ยงดูเองโดยเลี้ยงตามอัตภาพที่เป็นอยู่เพราะทั้งตนและสามีไม่มีงานเป็นหลักแหล่งฐานะของครอบครัวก็ยากจน

“ฉันขอปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าไปบังคับขู่เข็ญให้ลูกออกไปขอทานและบังคับให้ลูกสาวคนโตให้ร่วมเพศกับเพื่อนของสามีนั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างไร ความจริงแล้วน่าจะเป็นการเข้าใจผิดของเพื่อนบ้านมากกว่า เพราะที่แท้จริงแล้วลูกสาวของฉันก็อาจจะแค่ขึ้นไปนวดให้กับเพื่อนของสามีที่มาเล่นที่บ้านเท่านั้นไม่ได้ล่วงเกินทางเพศอะไรทั้งสิ้น” มารดา ด.ญ.เก๋ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นางปวีณากำลังพูดคุยกับมารดา ด.ญ.เก๋ถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นนั้น นายสิทธิ์ อายุ 37 ปี บิดาของเด็กทั้ง 4 คนได้เข้ามาพูดปฎิเสธกับผู้สื่อข่าวและนางปวีณาว่า เรื่องที่เพื่อนบ้านกล่าวหาว่า บังคับให้ลูกร่วมประเวณีกับเพื่อนตนนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม นางปวีณาก็ได้พูดคุยกับนายสิทธิ์ และมารดา ด.ญ.เก๋เพื่อขอนำเด็กไปให้การช่วยเหลือเลี้ยงดูในสถานรับเลี้ยงเด็กบ้านราชวิถีเนื่องจากทราบว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวอยู่นั้นกำลังจะโดนไล่ที่ในอีกไม่กี่วันนี้และเกรงว่าเด็กทั้ง 4 คนจะไร้ที่อยู่รวมไปถึงเรื่องที่เพื่อนบ้านกล่าวหาว่าเด็กถูกบังคับให้ร่วมประเวณีด้วย จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเด็กทั้ง 4 คนพร้อมด้วยพ่อแม่เด็กไปยังสน.พระโขนงเพื่อลงบันทึกประจำวันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นางปวีณา กล่าวว่า มีพลเมืองดีโทรศัพท์แจ้งมามูลนิธิฯ ว่ามีเด็กโดนพ่อแม่บังคับให้ไปขอทานและขโมยของเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายซื้อเหล้ากินและที่สำคัญก็คือพ่อติดยาบังคับให้ลูกคนสาวโตร่วมหลับนอนกับเพื่อนที่ไปดื่มเหล้าที่บ้าน เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าสลดมากเพราะเด็กยังอยู่ในวัยเรียนแต่ไม่มีโอกาสเรียนหนังสือจึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้การช่วยเหลือและขอขอบคุณประชาชนพลเมืองดีที่พบเห็นเรื่องดังกล่าวและแจ้งข้อมูลมายังมูลนิธิฯ

“สำหรับเด็กนั้นจะส่งไปบ้านพักเด็กราชวิถีเพื่อทำการบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจ ความเป็นอยู่ของเด็กให้ดีขึ้น อีกทั้งให้การศึกษากับเด็กทุกคน นอกจากนี้ก็ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับเรื่องที่เกิดขึ้นหากว่ามีกาการตรวจสอบพบร่องรอยเด็กถูกข่มขืนพ่อแม่เด็กก็จะถูกดำเนินคดี” นางปวีณา กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.ปัญญาศักดิ์ ปริญญานุสรณ์ รองผกก.สส.สน.พระโขนง กล่าวว่า เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วโดยขั้นตอนต่อไปก็เตรียมส่งเด็กไปทำการตรวจร่างกายเพื่อหาร่องรอยการข่มขืนที่โรงพยาบาลตำรวจ หากพบว่าเด็กมีร่องรอยการร่วมเพศทางพนักงานสอบสวนก็จะทำการสอบสวนรายละเอียดข้อเท็จจริงกับพ่อแม่และเพื่อนบ้านผู้เกี่ยวข้องว่าเป็นอย่างไร พ่อแม่ได้มีการบังคับข่มขู่จริงหรือไม่หากพบว่าผิดตามที่ถูกแจ้งตำรวจก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาเป็นธุระจัดหาเพื่อค้าประเวณี มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ