xs
xsm
sm
md
lg

“พีระพันธุ์” ตั้ง “นาม ยิ้มแย้ม” ช่วยงานต้านทุจริต-ขนทีมเสริมทัพเต็มที่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

รมว.ยุติธรรมคนใหม่ เสนอให้ “นาม ยิ้มแย้ม” เป็น 1 ในคณะทำงานด้านอำนวยความยุติธรรมต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ยกยอเป็นคนมีคุณธรรมในการใช้กฎหมาย ตั้ง “วันชัย สอนศิริ” เป็นที่ปรึกษาเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมาย ย้ำ งานนี้ไม่มีผลประโยชน์ต่างตอบแทนตามที่เป็นข่าว พร้อมหนุน “ดีเอสไอ” สอบคดีบุกรุกที่ดินภูเก็ต-พังงา เล็งดึงกองทัพร่วมปราบปรามคดีหมิ่นเบื้องสูง

วันนี้ (9 ม.ค.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าตนจะทยอยตั้งคณะทำงานและที่ปรึกษาเข้ามาช่วยงานในกระทรวงยุติธรรมประมาณ 7-8 ด้าน เพื่อช่วยเสริมการทำงานในกระทรวงยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยจะเสนอให้ นายนาม ยิ้มแย้ม เป็น 1 ในคณะทำงานด้านการอำนวยความยุติธรรมต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพราะเห็นว่า นายนาม เป็นคนที่มีคุณธรรมในการใช้กฎหมาย และพร้อมต่อสู้กับอำนาจ หรืออิทธิพลนอกกฎหมาย นอกจากนี้จะตั้งนายวันชัย สอนสิริ ทนายความที่มีบทบาทในการให้ความรู้ด้านกฎหมายกับประชาชนมาเป็นที่ปรึกษาในการเผยแพร่ให้ความรู้เรื่องกฎหมายแก่ประชาชนและขยายเครือข่ายยุติธรรมชุมชน เพื่อวางระบบให้ประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบและป้องกันไม่ให้มีการกลั่นแกล้ง หรือการใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรมภายในชุมชนของตนเอง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การแต่งตั้งคณะทำงานไม่ใช่เรื่องของการต่างตอบแทนตามที่ได้เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ และขอให้รอดูรายชื่อคณะทำงานทุกชุดในสัปดาห์หน้าแล้วจึงค่อยวิจารณ์

นอกจากนี้ นายพีระพันธุ์ ยังเปิดเผยถึงการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและพังงา ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ว่า ดีเอสไอเห็นว่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีคดีร้องเรียนเรื่องบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนและพื้นที่ชายฝั่งทะเลเป็นจำนวนมาก โดยการสืบสวนเบื้องต้น พบว่า มีนายทุนและเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกันบุกรุกและปลอมเอกสารสิทธิ์ ทำให้สภาพปัญหามีความรุนแรงมากกว่าพื้นที่อื่น นอกจากนี้ยังมีชาวต่างชาติเข้ามาร่วมกระทำผิดด้วย ดีเอสไอจึงต้องการดำเนินคดีกับการบุกรุกที่ดินสาธารณะในพื้นที่ภูเก็ตให้เป็นคดีตัวอย่าง ก่อนจะขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ

นายพีระพันธุ์ กล่าวถึงนโยบายในการดำเนินคดีกับผู้ที่มีพฤติกรรมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างเด็ดขาด ว่า หน่วยงานที่มีอำนาจโดยตรงในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ คือกองทัพ แต่กองทัพไม่มีอำนาจสอบสวนจับกุม ดังนั้น รัฐบาลจะเน้นบูรณาการกฎหมายและประสานให้ทุกหน่วยงานร่วมกันตรวจสอบการกระทำอันส่อไปในทางที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพทั้งที่มีการเผยแพร่ทางเว็บไซต์และโดยคำพูด ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงไอซีที ไม่เพียงพอก็จะประสานให้ทหารซึ่งมีกำลังพลเพียงพอเข้ามาร่วมตรวจสอบและเฝ้าระวังการกระทำความผิดผ่านเว็บไซต์ โดยการใช้กำลังทหารเข้ามาเสริมจะทำให้รัฐไม่มีภาระจ้างบุคลากรเพิ่ม ในส่วนของการดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกระทรวงยุติธรรมจะเข้าไปเร่งรัดคดีภายในกรอบกฎหมาย โดยมองว่าหากตำรวจทำคดีล่าช้าอาจถูกมองด้วยความเข้าใจผิดได้
นายนาม ยิ้มแย้ม
นายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น