รวบหนุ่มวิศวะโรคจิต แอบถ่ายใต้กระโปรงสาว ขณะกำลังจะเดินขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส จตุจักร โชคดีมีพนักงานมาแจ้งให้รู้ ก่อนที่จะร้องให้เจ้าหน้าที่ รปภ.ตามจับตัวได้ พบคลิปแอบถ่าย 27 คลิปในวันเดียว แถมในเมมโมรี่อีก 100กว่าคลิป หนุ่มโรคจิตรับสารภาพ พร้อมยอมจ่ายค่าเสียหายจำนวน 10,000 บาท ด้านผู้เสียหาย เผย กฎหมายทำอะไรพวกนี้ไม่ได้ แต่ต้องการประจานให้คนพวกนี้อับอาย
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ร.ต.ต.กฤษต์ แสนชัยมณเฑียร พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางซื่อ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส จตุจักร ว่า สามารถจับกุมตัวคนร้ายแอบถ่ายใต้กระโปรงไว้ ภายในสถานีรถไฟฟ้าดังกล่าวเอาไว้ได้ 1 ราย ให้ช่วยมารับตัวไปดำเนินคดีด้วย จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.บางซื่อ เดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟฟ้า กำลังควบคุมตัวคนร้ายไว้ ทราบชื่อคือ นายพิพัฒน์ ภักดีวงศ์เทพ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 301/30 ซอยรามคำแหง 68 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่นเอ็น 70 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง โดยมี น.ส.ดี (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ผู้เสียหายยืนชี้ตัวยืนยันให้จับกุม เจ้าหน้าที่จึงเชิญทั้งหมดมาสอบปากคำที่ สน.บางซื่อ
เมื่อมาถึงโรงพัก เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าว ก็พบว่าตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงที่ถูกจับกุมผู้ต้องหาได้แอบถ่ายใต้กระโปรงไว้ทั้งหมด 27 ครั้ง จำนวน 27 คลิป นอกจากนี้ จากการตรวจสอบในเมมโมรี่การ์ด ก็พบอีกทั้งหมด 107 คลิป ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.2551 จนถึงปัจจุบัน
จากการสอบสวน น.ส.ดี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังเดินจะขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงานย่านสาธร แต่ระหว่างที่ตนเดินไปซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์ ก็มีพนักงานมาแจ้งให้ตนทราบว่า มีคนแอบถ่ายใต้กระโปรงตน ขณะที่ตนกำลังเดินขึ้นบันไดเลื่อน เพื่อมาขึ้นรถไฟฟ้า ตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้จับกุมตัวดังกล่าว
“อยากพูดถึงเรื่องข้อกฎหมายที่ทำอะไรไม่ได้เลย จึงอยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ ว่า หากไม่เจอเองไม่รู้ ดิฉันรู้สึกไม่ดี จึงอยากเตือนให้ผู้หญิงทุกคนระมัดระวังตัว และต้องการประจานให้คนประเภทนี้อับอาย” น.ส.ดี กล่าว
จากการสอบสวน นายพิพัฒน์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเรียนจบคณะวิศวกรรมโยธา มาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เมื่อ 5 ปี ที่แล้ว จากนั้นก็ได้ทำงานเป็นวิศวะโยธา อยู่ที่บริษัทรับเหมาแห่งหนึ่งใน กทม.หลังจากนั้น ก็ได้ย้ายไปทำงานที่ จ.นราธิวาส โดยตลอดเวลาจะต้องไป-กลับกรุงเทพฯ จ.นราธิวาส อยู่ตลอด ส่วนคลิปทั้งหมดตนถ่ายเอาไว้จริง เพราะต้องการเก็บไว้ดูส่วนตัวเท่านั้น ไม่ได้เผยแพร่แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่กลุ่มผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถามถึงสาเหตุที่กระทำแบบนี้ ทางนายพิพัฒน์ถึงกับร้องไห้ ยกมือไหว้ขอร้องไม่อยากให้บันทึกภาพ กลัวว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล
ด้าน ร.ต.ต.กฤษต์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ให้ผู้ต้องหาตกลงกับผู้เสียหาย โดยทางผู้เสียหายเรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท ซึ่งทางผู้ต้องหาก็ยินยอมชดใช้แต่โดยดี ในส่วนของคดีได้แจ้งข้อหากระทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนอับอายและเสียหาย มีโทษจำคุก 1 เดือน หรือปรับ 1,000 บาท