เหตุเพลิงไหม้ยังคงเกิดขึ้นแบบรายวัน ล่าไหม้รถร่วมบริการปรับอากาศ ติดแก๊สเอ็นจีวี สาย 171 ที่จอดอยู่ในอู่ ก่อนลุกลามเผารถเมล์ที่จอดติดกันวอดรวม 7 คัน ตำรวจยังมึนรอพิสูจน์หลักฐานก่อนสรุปสาเหตุ
วันนี้ (6 ม.ค.) เมื่อเวลา 04.00 น. พ.ต.ท.ประจวบ ขันทอง พงส.(สบ 2) สน.แสมดำ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถปรับอากาศ ภายในอู่บริษัท สหขนส่งธนบุรี จำกัด เลขที่ 15/226 ซ.เทียนทะเล 20 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ หลังรับแจ้งรุดไปที่เกิดพร้อมด้วยรถดับเพลิงจำนวน 10 คัน
ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถเมล์ปรับอากาศ และเป็นท่าปล่อยรถเมล์ปรับอากาศ สาย 171 ที่วิ่งระหว่าง เคหะธนบุรี-หมู่บ้านนักกีฬา และรถเมล์ปรับอากาศ สาย 173 ที่วิ่งระหว่าง เคหะธนบุรี-มีนบุรี มีรถอยู่ประมาณ 50 คัน ที่บริเวณลานจอดในเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ โดยเพลิงได้ลุกไหม้ จากรถปรับอากาศ สาย 171 สีฟ้า-คาดเหลือง ที่วิ่งระหว่างเคหะธนบุรี-หมู่บ้านนักกีฬา เบอร์ข้างรถหมายเลขที่ 38 หมายเลขทะเบียน 12-6365 กรุงเทพฯ ที่จอดอยู่บริเวณทางเข้าโรงซ่อม จากนั้นลุกลามไปยังรถข้างเคียงอีก เนื่องจากภายในรถเป็นเบาะที่มีส่วนประกอบข้างผ้าใบและฟองน้ำ น้ำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี โดยมีเสียงถังก๊าซเอ็นจีวี ที่ติดอยู่ภายในตัวรถดังขึ้นเป็นระยะ
เจ้าหน้าที่ได้ใช้น้ำฉีดเลี้ยงที่บริเวณถังก๊าซตลอดเวลา ขณะที่พนักงานได้ช่วยกันนำรถที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงนำออกมาทางด้านนอก เนื่องจากกลัวว่าจะลุกลาม ซึ่งตลอดเวลา มีกลิ่นก๊าซเอ็นจีวีโชยออกมา ทางเจ้าหน้าที่ต้องกั้นไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปเนื่องจากเกรงกลัวว่าจะเกิดระเบิด เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ โดยเพลิงได้เผาผลาญรถไปทั้งหมดจำนวน 8 คัน โดยไหม้ทั้งคันจำนวน 7 คัน และไหม้เฉพาะห้องเครื่อง จำนวน 1 คัน สำหรับรถที่ไหม้จำนวน 5 คัน เป็นรถที่กำลังจะรอทำการซ่อมซึ่งจอดมาได้ 2 วันแล้ว ส่วนอีก 3 คันเป็นรถที่คนขับสายต่างๆ นำมาจอด ทิ้งไว้และจะนำไปวิ่งในตอนเช้า
จากการสอบสวน นายสมชาย อดออม อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 8 ต.โพธิ์ใหญ่ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด รปภ.ของที่อู่ดังกล่าวได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุขณะกำลังอยู่เฝ้ายามอยู่ที่หน้าบริษัทประมาณเวลา 03.00 น.เพื่อรอเวลา เปิดประตูหน้าให้กับพนักงานขับรถและกระเป๋ารถที่จะมารับรถในตอน 04.00 น. และได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นที่บริเวณทางเข้าโรงซ่อมจึงได้เดินไปดูก็พบกลุ่มควันและเปลวไฟออกมาจากห้องเครื่องจึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
พ.ต.ท.ประจวบ กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากระบบของรถที่กำลังจอดรอซ่อมอยู่เกิดการช๊อตภายในห้องเครื่อง ก่อนที่ติดไฟแล้วทำให้เกิดแรงดัน ทำให้รถพุ่งไปชนกับรถคันอื่นที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียง จากนั้นก็เกิดระเบิดขึ้นลุกลามไปยังรถข้างเคียง อย่างไรก็ตามคงต้องให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าทำการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่าเกิดจากสาเหตุใด