เมื่อประตูสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดรับ “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” กลับเข้าห้องทำงาน แบบมีอำนาจเต็มอีกครั้ง หลายคนต่างฟันธงตรงกันว่าเป็นเพราะเส้นสายของพี่ชายที่ชื่อ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ได้นั่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาล “อภิสิทธิ์ 1” หรืออาจพูดอีกอย่างว่า “วงษ์สุวรรณ” กลับมาผงาดอีกครั้ง ก็ไม่ผิด....
วันนี้ 23 ธันวาคม 2551 คือวันที่ 2 แห่งการปฎิบัติหน้าที่ ของ พล.ต.อ.พัชรวาท หลังจากไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี รวม 24 วัน (28 พ.ย.-21 ธ.ค.51)
หากนับรวมวัน เวลา แห่งการปฎิบัติหน้าที่ผู้นำทัพสีกากีของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ นับจากได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2551 ให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอย่างเต็มตัว รวมเบ็ดเสร็จกว่า 6 เดือน
ดังนั้น วันนี้คำถามที่ตามมาสำหรับ “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” ผบ.ตร.ท่านนี้ คือ เขาได้สร้างผลงานอะไรให้ปรากฎต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มากน้อยแค่ไหน เขาได้วางแนวนโยบายไว้อย่างไร และเขาได้ทำตามที่พูดไว้หรือไม่
โดยหลักฐาน ถอดรหัสคำพูดของ “พล.ต.อ.พัชวาท” ครั้งมอบนโยบาย หลังรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ สรุปได้ดังนี้....
1.ตำรวจจะต้องร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติงานอย่างเสียสละ เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติ และประชาชนอย่างแท้จริง หากตำรวจนายใดออกนอกลู่นอกทาง ทำให้ประชาชนเดือดร้อนต้องถูกลงโทษเฉียบขาดทุกกรณี
จากคำพูดประโยคนี้...ถือว่าเป็นคำพูดที่เลื่อนลอย และไม่มีการปฎิบัติจริง เนื่องจากห้วงเวลาแห่งการปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง ผบ.ตร.ตำรวจในสายบังคับบัญชาของท่าน ได้ทำงานสนองรัฐบาล นอมินี อย่างชัดเจน ตำรวจที่ออกนอกลู่นอกทาง ไม่มีการลงโทษ ปล่อยให้เป็นทาสรับใช้นักการเมืองอย่างออกนอกหน้า จึงทำให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ยังเป็นตำรวจคนเดิมๆที่มีบุคลิกไม่หวือหวา ทำงานในลักษณะเงียบๆ ช้าๆ และไม่มีผลงานอะไรโดดเด่นให้จดจำได้มากนัก!
2.ผมทำงานช้า แต่ชัวร์ ถึงจะช้า แต่รอบคอบ ถูกต้อง เมื่อส่งลงไปปฏิบัติก็ไม่ค่อยมีข้อผิดพลาด พร้อมยืนยันว่า จะบริหารงานด้วยความสุจริต ยุติธรรม เพื่อประโยชน์ของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ โดยภารกิจแรกภายหลังรับตำแหน่ง คือการดูแลกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักชุมนุมยืดเยื้อขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช โดย พล.ต.อ.พัชรวาท ยืนยันว่า จะเน้นเจรจาอย่างเดียวเท่านั้น ทำให้ ณ วันนั้น ประชาชนวางใจได้ว่า จะไม่มีเหตุการณ์สลายม็อบให้ได้รับความสูญเสียเกิดขึ้นแน่นอน
ทำให้สัญญาข้อนี้...พล.ต.อ.พัชรวาท ได้พูดมัดตัวเองไว้อย่างชัดแจ้ง เนื่องจากการปฎิบัติงานในห้วงที่ผ่านมา สวนทางการอย่างสิ้นเชิง โดยเห็นได้จาก ภารกิจระดับชาติ สลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ทำให้มีผู้เสียชีวิต และ บาดเจ็บจำนวนมาก ถือเป็นการปฎิบัติที่ผิดพลาด จนถึงขั้น ถูกส่ง ป.ป.ช.สอบสวนเพื่อชี้มูลความผิด ฐานฆ่า และพยายามฆ่า
4.นโยบายการกระจายอำนาจลงไปยังผู้บัญชาการตามภาค ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2547 ย้ำว่าในยุคของผม จะพยายามกระจายอำนาจแต่ละส่วนตามที่กฎหมายกำหนดไว้ เพื่อให้ตำรวจระดับผู้บัญชาการมีอำนาจในการสั่งการ และแต่งตั้งโยกย้าย ไม่รวมอำนาจเบ็ดเสร็จไว้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเหมือนที่ผ่านมา
ไม่เพียงแค่นั้น พล.ต.อ.พัชรวาท ยังได้วาดฝันไว้ว่า ในอนาคตสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะทำหน้าที่แค่กำกับมาตรฐานในการป้องกันปราบปรามงานกิจการพิเศษ งานบริหาร งานกฎหมาย หลังออกมาตรฐานเหล่านี้ได้ ก็ส่งลงไปเป็นนโยบาย จากนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะมีหน้าที่ควบคุมตรวจสอบว่าเป็นไปตามนโยบายดังกล่าวหรือไม่
นโยบายส่วนนี้...6 เดือน แห่งการทำหน้าที่ นโยบายพัฒนาองค์กรตำรวจ เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตำรวจยังอยู่ในวังวลแบบเดิมๆการโยกย้ายแต่งตั้ง ยังถูกฝ่ายการเมืองแทรกแซง เด็กนายต่างได้ดิบได้ดีกันถ้วนหน้า
แม้ว่าโนยบายข้อนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท จะพูดไว้ว่า “ตำรวจไม่ใช่กองทัพ ตำรวจมีหน้าที่ดูแลประชาชนในทุกจุด ฉะนั้น ตำรวจระดับบนมีหน้าที่กำหนดมาตรฐานอย่างเดียวในทุกด้าน จึงไม่จำเป็นต้องมีตำรวจระดับบนมาก แต่ท้ายสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่มีอนาคตที่ดีขึ้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังคงเป็น รัฐตำรวจเช่นเดิม...”
5.งานนโยบาย ด้านสวัสดิการที่ถือเป็นขวัญและกำลังใจของตำรวจทั้งประเทศ พล.ต.อ.พัชรวาท ให้คำมั่นว่าจะเสนอให้ปรับสวัสดิการตำรวจเพิ่มตามสภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสถานที่พักที่ตอนนี้มีประมาณ 57 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งน้อยกว่ามาตรฐาน ดังนั้น จำเป็นที่จะต้องเพิ่มเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของตำรวจ โดยเริ่มทำจากโรงพักเป็นอันดับแรก
นโยบายเรื่องนี้...ความจริงทั้งหมดจะปรากฎ หากไปสอบถามความเป็นอยู่ของ ตำรวจระดับล่าง ว่าเขามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นหรือไม่...ส่วน พล.ต.อ.พัชรวาท ก็น่าจะรู้ตัวดีว่า ท่านทำตามที่พูดไว้หรือไม่
6.เรื่องปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.อ.พัชรวาท ยืนยันว่า จะต้องทำสำนวนแต่ละคดีให้ถูกต้อง พร้อมกับมีแนวคิดแก้ปัญหาด้วยการจัดตั้งเป็นส่วนราชการขึ้นเพื่อให้ทำการเบิกจ่ายงบประมาณได้เอง ยกระดับเหมือนภาค เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นก็จะยุบ
ส่วนปัจจุบัน สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้ ดีขึ้น หรือเหมือนเดิม คำตอบเห็นได้เด่นชัด อยู่ที่เหตุร้ายรายวัน...
7.นโยบาย เกี่ยวกับ สถานบริการ พล.ต.อ.พัชรวาท ย้ำว่า ต้องเปิด ปิด ตรงเวลา รวมทั้งสั่งกวดขันเรื่องบ่อนการพนัน แต่ความจริงประเทศไทยวันนี้ บ่อนการพนันยังคงมีอยู่ทั่วทุกหัวเมือง ตำรวจมีผลประโยชน์ สถานบริการ ยังเปิดเกินเวลา คดีอาชญากรรม เกิดขึ้นรายวัน นี่คือ บทพิสูจน์ ที่ท่านต้องยอมรับความจริง...
8.ปิดท้ายที่ นโยบายเรื่องการจราจร ที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ให้เน้นเรื่องอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน การซุ่มจับรถที่กระทำผิด ไม่ให้กระทำ จะจับกุมต้องมีความชัดเจนในข้อหา
“ทีมตำรวจจะต้องร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติงานอย่างเสียสละ เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส เป็นธรรม และต้องสามารถตรวจสอบได้ หากตำรวจนายใดออกนอกลู่นอกทาง ทำให้ประชาชนเดือดร้อนก็ต้องถูกลงโทษเฉียบขาดทุกกรณี”
นโยบายเรื่องนี้ จราจรเหมืองหลวงดีขึ้นหรือไม่ ตำรวจยังตั้งด่านผี คอยดักจับ หาเงินเลี้ยงชีพแบบรายวันหรือไม่ ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ย่อมรู้ดี...