191 รวบสาวแสบร่วมกับหนุ่มตากาล็อกขโมยบัตรเครดิตนักท่องเที่ยวกดเงินและรูดซื้อสินค้ายี่ห้อดัง ตำรวจเตรียมดำเนินคดีร้านค้าที่ร่วมมือกับคนร้ายให้เปลี่ยนจากสินค้าเป็นเงินสดแทน
วานนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 22.30 น. พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผกก.1 บก.ตปพ. ร.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส สว.งานสายตรวจ 2 กก.1 บก.ตปพ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 กก.1 บก.ตปพ. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นางกุลณฐา มั่นธรรม อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่12 ต.บางคุ้ง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ผู้ต้องหาใช้บัตรเครดิตของผู้อื่นโดยมิชอบ พร้อมของกลางจำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด จำนวน 1 ใบ เงินสด จำนวน 214,000 บาท สลิปรายการใช้บัตรเครดิต สลิปรายการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม เครื่องคิดเลข 1 เครื่อง สมุดรายการบันทึกการรูดบัตรเครดิตร้านค้าต่างๆ และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง อีก 1 เครื่อง
พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 กก.1 บก.ตปพ.สืบทราบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ใช้บัตรเครดิตของผู้อื่นที่ได้ขโมยมานำไปรูดบัตรซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยผู้ต้องหาจะนำบัตรเครดิตไปรูดซื้อสินค้าตามร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนม และร้านขายอัญมณี โดยจะมีการตกลงกับเจ้าของร้านว่าไม่เอาสินค้า แต่จะเปลี่ยนเป็นเงินสดแทน จากนั้นก็จะเสนอเงินสดเป็นเงิน 25 เปอร์เซ็นต์ของวงเงินที่ได้ใช้ผ่านบัตรให้กับเจ้าของร้าน เมื่อมีการตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย ผู้ต้องหาจะมารับเงินกับเจ้าของร้านในวันถัดไปหลังจากที่ได้ใช้บัตรซื้อสินค้าแล้ว
พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการวางแผนจับกุมผู้ต้องหาโดยร่วมมือกับทางร้านค้าและธนาคารเจ้าของบัตรเครดิต ซึ่งต่อมาผู้ต้องหาได้นัดกับร้านค้าที่ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ว่าจะมารับเงินที่ได้ทำการรูดบัตรเครดิตไปแล้ว เป็นเงิน 207,700 บาท โดยนัดหมายกันที่ร้านแมคโดนัลด์ เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปที่ร้านซุ่มสังเกตการณ์ที่ร้านดังกล่าว เมื่อผู้ต้องหาเดินไปพูดคุยกับเจ้าของร้านและรับเงินสดตามที่ได้นัดหมายไว้ แล้วเดินออกไปที่ลานจอดรถเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุมได้พร้อมของกลางดังกล่าว
“กลุ่มผู้ต้องหามีการทำกันเป็นขบวนการ โดยจะมีผู้ที่ทำหน้าที่ตระเวนลักทรัพย์โดยการกรีดกระเป๋าของนักท่องเที่ยว แล้วจะเอาบัตรเครดิตมารูดเพื่อเอาเงินสดในบัตร ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาจะเลือกก่อเหตุกับนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากขั้นตอนในการอายัดบัตรเครดิตของผู้เสียหายมีความล่าช้ามาก ทำให้ผู้ต้องหานำบัตรไปใช้ก่อเหตุได้อย่างสบาย” พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ กล่าว
จากการสอบสวน นางกุลณฐาให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยประกอบอาชีพเป็นเซลส์ขายปุ๋ยอยู่ที่จังหวัดลพบุรี แต่รายได้ไม่ค่อยดีจึงรับงานนี้ โดยทำมาแล้ว 2-3 ครั้ง ปกติตนจะนำบัตรเครดิตมาจากนายบง ซึ่งเป็นชาวฟิลิปินส์ โดยนายบงจะตระเวนขโมยบัตรเครดิตจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เมื่อได้บัตรมาแล้วก็จะนำมาให้ตนนำบัตรไปรูด หลังจากได้เงินสดมาก็จะนำเงินมาแบ่งกัน โดยตนจะได้ส่วนแบ่ง 30 เปอร์เซ็นต์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เตรียมดำเนินคดีต่อร้านค้าที่ร่วมมือกับกลุ่มผู้ต้องหาด้วย ซึ่งขณะนี้มีรายชื่อหมดแล้ว
