xs
xsm
sm
md
lg

DSI ทลายแก๊ง “เสธ.แดงเล็ก” ปลอมบัตรเครดิต

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ดีเอสไอรวบแก๊ง “เสธ.แดงเล็ก” นายทหารนอกประจำการ ปลอมบัตรเครดิต พร้อมพวก 2 ราย ส่วนอีก 9 ราย ตร.กำลังเร่งตามจับ แก๊งนี้จะใช้วิธี “สแกมเมอร์-ไวด์แทปปิ้ง” แล้วนำข้อมูลใช้ทำบัตรเครดิตปลอม จากนั้นจะติดต่อเซ้งร้านค้าที่มีเครื่องอีดีซี หรือเครื่องบริการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต พุ่งเป้าไปที่เครื่องชำระเงินผ่านบัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ รูดบัตรปลอมเชิดเงินกว่า 30 ล้าน แฉซ้ำมี จนท.แบงก์ร่วมก๊วนถูกจับด้วย

วันนี้ (2 ก.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาในคดีร่วมกันทุจริตบัตรเครดิตว่า ดีเอสไอได้สืบสวนและรวบรวมหลักฐานในคดีนี้มาตั้งแต่ปี 2549 จนได้หลักฐานพบว่า ผู้ต้องหา 12 รายได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นขบวนการ โดยมีการแบ่งหน้าที่กันขโมยข้อมูลบัตรเครดิตของบุคคลจากต่างประเทศ ได้แก่ อเมริกา เกาหลี ไต้หวัน และอังกฤษ ด้วยวิธีการสแกมเมอร์ และไวด์แทปปิ้ง แล้วนำข้อมูลไปใช้ทำบัตรเครดิตปลอม จากนั้นคนร้ายจะไปติดต่อเซ้งกิจการร้านค้าที่มีเครื่องอีดีซี หรือเครื่องบริการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต โดยพุ่งเป้าไปที่เครื่องชำระเงินผ่านบัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด ซึ่งดีเอสไอได้รับแจ้งจากผู้แทนบริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ว่าการกระทำของผู้ต้องหาคดีนี้สร้างความเสียหายสูงสุดติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทย

พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาคดีนี้เมื่อได้เซ้งกิจการต่อจากเจ้าของร้านเดิมแล้ว กลุ่มคนร้ายจะขอให้เจ้าของร้านเดิมคงเปิดบัญชีของร้านเดิมต่อไประยะหนึ่ง และขอใช้เครื่องชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเดิมต่อไป รวมทั้งจะให้เจ้าของร้านเดิมลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเงินบนเช็คโดยไม่กรอกจำนวนเงินและวันที่ไว้ให้กลุ่มคนร้าย เมื่อกลุ่มคนร้ายได้เข้าไปดำเนินกิจการจะนำบัตรเครดิตปลอมมาใช้ชำระเงินผ่านเครื่องรูดบัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ วันละไม่เกิน 2 ครั้ง จำนวนเงินบัตรละไม่เกิน 300,000 บาท โดยกลุ่มคนร้ายจะใช้เวลา ในการทำธุรกรรมปลอม ไม่เกิน 15 วัน เมื่อได้รับเงินจากธนาคารเกือบ 30 ล้านบาท คนร้ายก็จะปิดกิจการแล้วนำเงินหลบหนี

“คดีนี้คนร้ายไปเซ้งกิจการร้านเชิดมั่นแอร์ ย่านมีนบุรี และยังใช้บัตรเครดิตปลอมรูดซื้ออัญมณีจากร้านค้าย่านคลองตัน เขตวัฒนา โดยพฤติการณ์การใช้บัตรเครดิตมีความผิดปกติ เช่น ใช้บัตรลูกค้าในประเทศสหรัฐฯ ซื้อแอร์ในเวลา 20.00 น. วงเงิน 39,000 บาท ต่อมาอีก 7 นาที ก็ใช้บัตรเดิมรูดซื้อแอร์อีก 35,000 บาท และยังมีการใช้บัตรเครดิตของชาวอังกฤษรูดซื้อสินค้าในราคา 96,000 บาท ต่อมาอีกไม่กี่นาทีก็ใช้บัตรเดิมรูดซื้อสินค้าอีก 95,000 บาท ซึ่งตามปกติธนาคารจะไม่อนุมัติการใช้บัตรในลักษณะต้องสงสัยดังกล่าว ดีเอสไอจึงสอบสวนขยายผลพบว่า มีเจ้าหน้าที่ธนาคารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด โดยมีเงินสดโอนเข้าบัญชี 100,000 บาท ดีเอสไอจึงได้ออกหมายจับเจ้าหน้าที่ธนาคารด้วย”พ.ต.อ.สุชาติ กล่าว

พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวอีกว่า ในการนำกำลังเข้าตรวจค้น ดีเอสไอจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน ประกอบด้วย นายสุรพล ป้องกา อายุ 44 ปี หรือเสธ.แดงเล็ก เป็นนายทหารนอกประจำการ น.ส.จินตนา แซ่โง้ว อายุ 46 ปี และนายวีระสิทธิ์ มุงอินทร์ อายุ 38 ปี ส่วนผู้ต้องหาอีก 9 คนยังหลบหนี ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการร่วมกันแจ้งข้อหา ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม มีโทษจำคุก 1-7 ปี ปรับ 20,000-140,000 บาท แต่คดีนี้เป็นการนำบัตรไปใช้ชำระค่าสินค้าแทนเงินสด ผู้ต้องหาจึงต้องรับโทษเพิ่มขึ้นอีกกึ่งหนึ่ง

พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวเตือนประชาชนผู้ใช้บัตรเอทีเอ็ม และบัตรเครดิต ให้ระวังอาจตกเป็นเหยื่อ โดยทุกครั้งที่ใช้บัตรเครดิตชำระค่าสินค้าหรือบริการ ให้ตรวจสอบอย่างละเอียด หากจำเป็นต้องนำบัตรไปกดเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มขอให้ระมัดระวังกลุ่มคนร้ายใช้เครื่องสแกมเมอร์มาครอบที่แป้นกด หรือช่องเสียบบัตรของตู้เอทีเอ็ม โดยขอให้เลือกใช้บริการตู้เอทีเอ็มที่มีกล้องวงจรปิดเท่านั้น
นายสุรพล ป้องกา อายุ 44 ปี หรือ เสธแดงเล็ก เป็นนายทหารนอกประจำการ (เสื้อแดง) ผู้ต้องหาแก๊งปลอมบัตรเครดิต
นายวีระสิทธิ์ มุงอินทร์ อายุ 38 ปี (เสื้อแถบเขียว ) ผู้ต้องหาใช้บัตรเครดิตปลอดรูดเงินธนาคารสูญกว่า 30 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น