คุณยายวัย 70 โร่แจ้งความหลังถูกแก๊งมิจฉาชีพ อ้างเป็นทหารและนายธนาคารมาหาซื้อที่ดิน จากนั้นพาขึ้นรถก่อนชักชวนซื้อลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 4 ล้าน แล้วหลอกกดเงิน 2.2 แสนบาท
วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. นางสุรีย์ เศษลือ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/89 หมู่ 5 หมู่บ้านสินพัฒนาธานี แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม.ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.พินิจ สมประดิษฐ์ สารวัตรเวร สน.ศาลาแดง ว่าถูกคนร้าย 2 คนหลอกให้ไปถอนเงินจำนวน 2.2 แสนบาท ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาพุทธมณฑลสาย 4 ก่อนหลบหนีไป
นางสุรีย์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าเวลา 09.00 น.หลังจากที่ไหว้พระเสร็จแล้ว ตนก็ออกมาเดินออกกำลังกายบริเวณสวนสาธารณะภายในหมู่บ้าน หลังจากออกกำลังกายได้สักพักก็ได้มานั่งพักผ่อน ระหว่างนั้นก็ได้มีชาย 2 คนแต่งกายดูภูมิฐานเดินเข้ามานั่งคุยด้วย คนแรกอ้างตัวเป็นนายทหาร ส่วนอีกคนก็อ้างตัวเป็นนายธนาคาร โดยทั้งคู่บอกว่ามาหาซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเจ้านายต้องการหาซื้อเก็บไว้ ซึ่งตนก็ตอบปฏิเสธไปว่า ไม่รู้ว่าใครจะขายที่บ้าง แต่ทั้งคู่ก็อ้างว่าได้มาดูที่ไว้แล้ว แต่ต้องการให้ตนไปช่วยติดต่อให้และจะแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้คนละครึ่ง ถ้าเกิดสามารถซื้อที่ดินได้ โดยขณะที่นั่งคุยชายทั้ง 2 คนจะผลัดกันจับมือตนอยู่ตลอดและก็ทำให้รู้สึกมึนงง
นางสุรีย์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่นั่งคุยกันอยู่สักพัก ชายทั้ง 2 คนก็พากันจูงมือตนไปขึ้นรถเก๋งสีขาว แต่ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน โดยมีชายอีก 1 คนเป็นคนขับรถให้นั่ง เมื่อตนขึ้นรถแล้วก็ขับรถพาตนวนอยู่ในหมู่บ้าน ระหว่างนั้นก็ได้ไปเจอชาย 1 คน ซึ่งเป็นคนใบ้เดินอยู่ข้างทาง ชายทั้ง 2 คนที่อ้างตัวเป็นนายทหารและนายธนาคารก็บอกว่าชายใบ้คนนั้นเป็นลูกน้องเก่าจึงให้จอดรถและลงไปทักทายอยู่สักพัก ก็พาชายที่เป็นใบ้ขึ้นมานั่งบนรถอีกคน โดยบอกว่าชายใบ้คนดังกล่าวถูกหวยรางวัลที่ 1 ได้รางวัลเป็นเงิน 4 ล้านบาท จึงได้ชวนตนเอาเงินมารวมกันเพื่อให้ชายใบ้ประมาณ 8 แสนบาท ส่วนเงินที่เหลือก็จะแบ่งให้ตน 2 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 1.2 ล้านบาท ก็จะนำไปแบ่งกัน 3 คน เมื่อพูดตกลงกันแล้วก็เอาพระมาลูบหัวลูบหน้า แสดงความดีใจที่จะมีโชคลาภได้เงิน จากนั้นก็ขับรถพาตนไปเอาสมุดบัญชีที่บ้าน
“จากนั้นก็ขับรถพาฉันไปเบิกเงินจำนวน 2.2 แสนบาท ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาพุทธมณฑลสาย 4 คงเหลือเงินในบัญชีประมาณ 2,348 บาท ซึ่งเมื่อได้เงินแล้วก็พาฉันขึ้นรถและขับมาส่งทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ริมถนนพุทธมณฑลสาย 4 โดยบอกกับฉันว่าจะไปกดเงินรวบรวมมาให้ชายใบ้แล้วจะกลับมารับ จากนั้นทั้งหมดก็ขับรถหายไป ปล่อยให้ฉันนั่งรออยู่ด้วยความมึนงง แต่เมื่อมีสติฉันก็ให้จักรยานยนต์รับจ้างขับพามาแจ้งความ” นางสุรีย์ กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.พินิจ กล่าวว่า หลังจากที่ผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความก็จะสอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน แล้วพาตัวผู้เสียหายไปขอตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดที่ธนาคารที่เกิดเหตุ ซึ่งกล้องก็สามารถบันทึกภาพคนร้ายที่พาขึ้นไปเบิกเงินไว้ได้ 1 คน ส่วนคนที่เหลือนั่งรออยู่ในรถ จึงไม่สามารถบันทึกภาพไว้ได้ จึงขอเทปกลับไปเป็นหลักฐาน เพื่อจะได้นำไปขออนุมัติออกหมายจับ ในการติดตามจับตัวมาดำเนินคดีต่อไป