เอเอฟพี - เผยแผนการตั้งแชร์ลูกโซ่วงเงินมโหฬารของ เบอร์นาร์ด แมดอฟฟ์ อดีตประธานตลาดหลักทรัพย์แนสแดคและโบรกเกอร์ชื่อดังของนิวยอร์ก สามารถตุ๋นเงินพวกนักลงทุนหลายรายที่ได้ชื่อว่าฉลาดล้ำลึกที่สุดของโลก อีกทั้งกำลังทำให้เกิดคำถามว่าเหตุใดทางการจึงไม่ระแคะระคายเรื่องราวการโกงครั้งประวัติศาสตร์นี้มาก่อนหน้านี้
กำลังปรากฏหลักฐานออกมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่า การฉ้อฉลที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ของแมดอฟฟ์นี้ สามารถกวาดต้อนเหยื่อที่เป็นนักลงทุนชั้นนำตั้งแต่ญี่ปุ่นถึงยุโรปจรดสหรัฐฯ และดูเหมือนว่าเหยื่อทั้งหมดไม่ทันรู้ตัวเลยว่าถูกหลอกจนกระทั่งโบรกเกอร์เฒ่าถูกจับกุมเมื่อวันพฤหัสฯ (11)
อัยการสหรัฐฯ กล่าวหาว่า แมดอฟฟ์ ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวอลล์สตรีทมาเป็นสิบๆ ปี และถือเป็นเสาหลักเสาหนึ่งของชุมชนการเงินสหรัฐฯ ได้สารภาพว่าขาดทุนอย่างน้อย 50,000 ล้านดอลลาร์จากแชร์ลูกโซ่
หนังสือพิมพ์หลายฉบับในสหรัฐฯ ให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการที่ แมดอฟฟ์ วัย 70 ปี ใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงที่ไร้รอยด่างพร้อยของตนเอง และการเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนระดับเอ็กซ์คลูซีฟของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงธนาคารขนาดใหญ่ กองทุนเฮดจ์ฟันด์ และนักลงทุนระดับมหาเศรษฐี
ขณะที่ คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (เอสอีซี) ก็กล่าวหาว่า แมดอฟฟ์ให้ผลตอบแทนสูงอย่างต่อเนื่อง โดยการแอบใช้เงินต้นจากนักลงทุนใหม่ไปจ่ายให้นักลงทุนเก่า ซึ่งตราบเท่าที่ยังหาเหยื่อรายใหม่ได้ กลไกแชร์ลูกโซ่นี้ก็จะทำงานอย่างราบรื่น
กระทั่งเมื่อลูกค้าจำนวนหนึ่งมาขอไถ่ถอนเงินต้นคืน เหมือนที่ทำกับเฮดจ์ฟันด์ทั่วโลก แต่กลับพบว่ากองทุนของแมดอฟฟ์มีแต่ความว่างเปล่า
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า นักลงทุนที่ขาดทุนมีอาทิ ธนาคารบีเอ็นพี ปาริบาส์จากฝรั่งเศส, โนมูระ โฮลดิ้งส์ของญี่ปุ่น และ นิว ไพรเวท แบงก์ในซูริก
ด้านหนังสือพิมพ์สเปน รายงานว่า กองทุนที่บริหารโดยซานตานแดร์ ซึ่งเป็นแบงก์ระดับนำของประเทศ เข้าไปเกี่ยวข้องกับแชร์ลูกโซ่ของแมดอฟฟ์ และนักลงทุนสเปนอาจขาดทุนถึง 3,000 ล้านดอลลาร์
เลอ ตองป์ส ในเจนีวา รายงานว่า นายธนาคารสวิสมีสิทธิ์ขาดทุนถึง 5,000 ล้านดอลลาร์
นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า ยูเนียน บองแคร์ พรีเว (ยูบีพี) สถาบันบริหารสินทรัพย์ที่เชี่ยวชาญด้านเฮดจ์ฟันด์ อาจขาดทุน 1,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ยูบีพีเองปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นกับข่าวนี้ แต่ก็บอกว่า 90% ของบริษัทบริหารกองทุนในเจนีวาล้วนลงทุนในผลิตภัณฑ์ของแมดอฟฟ์
ส่วนนักลงทุนระดับท็อปในสหรัฐฯ ที่ตกเป็นเหยื่อของแมดอฟฟ์ มีอาทิ นอร์แมน เบรแมน อดีตเจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอล ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์
วอลล์สตรีท เจอร์นัล สำทับว่า มีแนวโน้มว่า เฮดจ์ฟันด์จะถูกหางเลขจากเรื่องนี้อย่างจัง เนื่องจากแมดอฟฟ์เคยจัดการเงินให้บริษัทมากมายที่ระดมทุนให้แก่กองทุนประเภทนี้
“ฉันหมดตัวแล้ว” แซนดรา แมนซ์กี ประธานแม็กแซม แคปิตอล แมเนจเมนท์ บอกกับหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว โดยระบุว่าขาดทุนถึง 280 ล้านดอลลาร์
นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า บริษัทที่ปรึกษาเฮดจ์ฟันด์ แฟร์ฟิลด์ กรีนิช กรุ๊ป ลงทุนกับแมดอฟฟ์ถึง 7,500 ล้านดอลลาร์
ขณะที่เจ้าหน้าที่สอบสวนของรัฐบาลกลางเข้าตรวจสอบบัญชีกิจการของแมดอฟฟ์ที่ใช้ชื่อว่า เบอร์นาร์ด แอล.แมดอฟฟ์ อินเวสต์เมนท์ ซิเคียวริตีส์ แต่ทว่านิวยอร์กไทมส์ก็ชี้ว่า ทางการปล่อยปละละเลยมาแรมปีกับสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นกรณีฉ้อฉลที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวอลล์สตรีท
นิวยอร์กไทมส์ บอกว่า ทั้งๆ ที่แมดอฟฟ์ให้ผลตอบแทนแก่ผู้มาลงทุนกับเขาในอัตราสูงอย่างน่าอัศจรรย์และต่อเนื่อง ตลอดจนข้อเท็จจริงที่ว่า บริษัทบัญชีที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันเลย คือผู้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้สอบบัญชีให้บริษัทของเขา แต่ดูเหมือนตอนที่เรื่องนี้แดงออกมานั้น เอสอีซีกลับดูจะอยู่ในอาการเซอร์ไพรซ์ระดับไม่เคยระแคะระคายอะไรเลย
“นอกจากนั้น แม้มีสัญญาณเตือนอื่นๆ แต่พวกเฮดจ์ฟันด์ยังคงแนะนำกองทุนของแมดอฟฟ์ให้แก่กองทุนและนักลงทุนอื่นๆ ซึ่งในจำนวนนี้มีโนมูระรวมอยู่ด้วย” นิวยอร์กไทมส์ร่ายยาว
การล่มสลายของแชร์ลูกโซ่ของแมดอฟฟ์ “ได้ถาโถมเข้าใส่มหาเศรษฐีชื่อดังของอเมริกันบางคน รวมถึงคนมากมายที่ลงทุนโดยหวังเก็บไว้ใช้ในยามปลดเกษียณ แต่ตอนนี้กลับต้องมาหมดเนื้อหมดตัว” นิวยอร์กไทมส์รายงานโดยอ้างคำพูดของทนายความของเหยื่อรายหนึ่งของแมดอฟฟ์