“พันธมิตรฯ” มอบหมายทนายความ ฟ้องกลับ “แก๊งหมอเหวง” ฐานแจ้งความอันเป็นเท็จ กล่าวหาพันธมิตรฯ ก่อการร้าย ทนายยันการชุมนุมไม่ใช่ก่อการร้าย พร้อมเตรียมฟ้องกลับอีกคดีในสัปดาห์หน้า เตือนตำรวจยุติดำเนินคดี
วันนี้ (11 ธ.ค.) เวลา 11.30 น. ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ถ.รัชดาภิเษก นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับพวกรวม 12 คน ประกอบด้วย แกนนำพันธมิตร ฯ , นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร ฯ , นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตร ฯ และแกนนำพันธมิตร ฯ รุ่น 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นพ. เหวง โตจิราการ ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย , นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ ประธานที่ปรึกษาสมาพันธ์ประชาธิปไตย , นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ , นายประสิทธิ์ ค่ายนกวงศ์ , นายเมธาพันธ์ โพธีธีรโรจน์ , นางทรงชัย วิมลภัตรานนท์ และนางสุนันทา ธรรมธีระ เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ร้องทุกข์กล่าวโทษข้อความอันเป็นเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 และ 173
ฟ้องโจทก์สรุปว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. จำเลยที่ 1-3 ซึ่งรับมอบอำนาจจากจำเลยที่ 2-7 ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้สอบสวนดำเนินคดีกับโจทก์ทั้ง 12 คน ข้อหากระทำการใดก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อระบบขนส่งสาธารณะ ระบบโทรคมนาคม หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะ ซึ่งกระทำนั้นมุ่งหมายเพื่อขู่เข็ญหรือบังคับรัฐบาลให้กระทำการหรือไม่กระทำการใด หรือสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชนอันเป็นความผิดฐานก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135 / 1 (2 )
ข้อความดังกล่าวล้วนเป็นเท็จทั้งสิ้น เพราะความจริงแล้ว กลุ่มพันธมิตร ฯ เดินทางไปที่สนามบินทั้งสองแห่งเมื่อวันที่ 25 พ.ย.เพื่อกดดันนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ที่กำลังจะเดินทางกลับจากประเทศเปรู โดยไม่มีเจตนาปิดกั้นและไม่ได้เข้ายึดหอการบิน ซึ่ง นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผอ.การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ประกาศปิดสนามบินก่อนที่กลุ่มประชาชนจะเดินทางไปถึง ส่วนสนามบินดอนเมืองประชาชนก็ชุมนุมอยู่บริเวณนอกอาคารไม่ได้เข้าไปรันเวย์หรือหอบังคับการบิน ดังนั้นการกระทำของพันธมิตร ฯ จึงไม่เข้าองค์ประกอบตามมาตรา 135 / 1 (2) แต่อย่างใด และหลังจากที่พันธมิตร ฯ ส่งมอบสนามบินคืนทั้ง 2 แห่งแล้ว เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. สนามบินดอนเมืองสามารถเปิดให้บริการตามปกติได้ นอกจากนี้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รักษา รมว.คมนาคม ได้ให้สัมภาษณ์วันที่ 3 ธ.ค.ว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบความพร้อมและความปลอดภัยสนามบินสุวรรณภูมิพบว่าเครื่องมือต่างๆ ของท่าอากาศยานอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ ดังนั้นโจทก์ทั้ง 12 คน จึงไม่ได้ทำความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อระบบการขนส่งสาธารณะ ระบบโทรคมนาคม โดยจำเลยทั้งเจ็ดรู้ดีอยู่ว่า โจทก์ทั้ง 12 คนและประชาชนใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นเหตุยกเว้นความผิดตามมาตรา 135 / 1 (2) วรรคท้ายที่บัญญัติว่า การกระทำในการเดินขบวน ชุมนุม ประท้วง หรือเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือ หรือได้รับความเป็นธรรมอันเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นการกระทำความผิดฐานก่อการร้าย จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณา และไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ในวันที่ 30 มี.ค.ศกหน้า เวลา 09.00 น.
ภายหลังนายสุวัตร์ ทนายความ ให้สมภาษณ์ว่า การกระทำของพันธมิตร ฯ ไม่ใช่ความก่อการร้าย เพราะไม่มีการระเบิดทำลายระบบขนส่งใด ๆ นอกจากคดีนี้สัปดาห์หน้าเตรียมจะยื่นฟ้อง นพ.เหวง กับพวกอีกคดีต่อศาลแขวงพระนครเหนือในความผิดฐานเดียวกันด้วยที่ได้ร้องทุกข์แจ้งความเท็จต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( สตช.) และในการแจ้งความร้องทุกข์นั้นหากพบว่า นพ.เหวง กับพวกได้ให้การต่อพนักงานสอบสวนอีกซึ่งเป็นความเท็จ ก็จะนำคดีมายื่นฟ้องต่อศาลอาญาอีกคดีหนึ่งด้วย ซึ่งพันธมิตร ฯ พร้อมจะฟ้องกลับทุกคดีหากมีการกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริง
ส่วนกรณีพล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. จะเร่งดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตร ฯ ฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ หลังจากที่นายเสรีรัตน์ ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิร้องทุกข์ และคดีที่ นพ.เหวง กับพวก กล่าวหาว่าพันธมิตร ฯ ทำผิดข้อหาก่อการร้ายนั้น ตนได้ยื่นหนังสือถึง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกรัฐมนตรี , พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รักษาการ รมว.มหาดไทย , พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.จงรัก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตตามหลักนิติธรรม ในการดำเนินคดี โดยพันธมิตร ฯ ยืนยันว่าการกระทำของกลุ่มพันธมิตร ฯ เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญที่เป็นเหตุยกเว้นความผิดตาม มาตรา 135 / 1 (2) จึงให้ยกเลิกการตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าว ซึ่งหากยังมีการตั้งข้อหาเกินจริงเหมือนที่เคยทำมาแล้วในข้อหากบฏ พันธมิตร ฯ จะฟ้องกลับอาญากับทุกคนทันที
นอกจากนี้กรณีที่ พล.ต.อ.จงรัก พยายามจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ป.ป.ง.) ตรวจสอบกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าหรือผู้ประกอบธุรกิจที่ บริจาคเงินให้กลุ่มพันธมิตร ฯ ว่าเข้าข่ายความผิดก่อการร้ายนั้น พล.ต.อ.จงรัก รู้ดีอยู่แล้วว่า การกระทำของพันธมิตร ฯ ไม่ใช่ความผิดก่อการร้ายหากยังจะดึงดันยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ง. อีก พันธมิตร ฯ จะฟ้องกลับ พล.ต.อ.จงรัก ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 200 ที่เป็นเจ้าพนักงานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อให้บุคคลอื่นได้รับโทษทางอาญา
วันนี้ (11 ธ.ค.) เวลา 11.30 น. ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ถ.รัชดาภิเษก นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับพวกรวม 12 คน ประกอบด้วย แกนนำพันธมิตร ฯ , นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร ฯ , นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตร ฯ และแกนนำพันธมิตร ฯ รุ่น 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นพ. เหวง โตจิราการ ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย , นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ ประธานที่ปรึกษาสมาพันธ์ประชาธิปไตย , นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ , นายประสิทธิ์ ค่ายนกวงศ์ , นายเมธาพันธ์ โพธีธีรโรจน์ , นางทรงชัย วิมลภัตรานนท์ และนางสุนันทา ธรรมธีระ เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ร้องทุกข์กล่าวโทษข้อความอันเป็นเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 และ 173
ฟ้องโจทก์สรุปว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. จำเลยที่ 1-3 ซึ่งรับมอบอำนาจจากจำเลยที่ 2-7 ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้สอบสวนดำเนินคดีกับโจทก์ทั้ง 12 คน ข้อหากระทำการใดก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อระบบขนส่งสาธารณะ ระบบโทรคมนาคม หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะ ซึ่งกระทำนั้นมุ่งหมายเพื่อขู่เข็ญหรือบังคับรัฐบาลให้กระทำการหรือไม่กระทำการใด หรือสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชนอันเป็นความผิดฐานก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135 / 1 (2 )
ข้อความดังกล่าวล้วนเป็นเท็จทั้งสิ้น เพราะความจริงแล้ว กลุ่มพันธมิตร ฯ เดินทางไปที่สนามบินทั้งสองแห่งเมื่อวันที่ 25 พ.ย.เพื่อกดดันนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ที่กำลังจะเดินทางกลับจากประเทศเปรู โดยไม่มีเจตนาปิดกั้นและไม่ได้เข้ายึดหอการบิน ซึ่ง นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผอ.การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ประกาศปิดสนามบินก่อนที่กลุ่มประชาชนจะเดินทางไปถึง ส่วนสนามบินดอนเมืองประชาชนก็ชุมนุมอยู่บริเวณนอกอาคารไม่ได้เข้าไปรันเวย์หรือหอบังคับการบิน ดังนั้นการกระทำของพันธมิตร ฯ จึงไม่เข้าองค์ประกอบตามมาตรา 135 / 1 (2) แต่อย่างใด และหลังจากที่พันธมิตร ฯ ส่งมอบสนามบินคืนทั้ง 2 แห่งแล้ว เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. สนามบินดอนเมืองสามารถเปิดให้บริการตามปกติได้ นอกจากนี้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รักษา รมว.คมนาคม ได้ให้สัมภาษณ์วันที่ 3 ธ.ค.ว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบความพร้อมและความปลอดภัยสนามบินสุวรรณภูมิพบว่าเครื่องมือต่างๆ ของท่าอากาศยานอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ ดังนั้นโจทก์ทั้ง 12 คน จึงไม่ได้ทำความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อระบบการขนส่งสาธารณะ ระบบโทรคมนาคม โดยจำเลยทั้งเจ็ดรู้ดีอยู่ว่า โจทก์ทั้ง 12 คนและประชาชนใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นเหตุยกเว้นความผิดตามมาตรา 135 / 1 (2) วรรคท้ายที่บัญญัติว่า การกระทำในการเดินขบวน ชุมนุม ประท้วง หรือเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือ หรือได้รับความเป็นธรรมอันเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นการกระทำความผิดฐานก่อการร้าย จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณา และไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ในวันที่ 30 มี.ค.ศกหน้า เวลา 09.00 น.
ภายหลังนายสุวัตร์ ทนายความ ให้สมภาษณ์ว่า การกระทำของพันธมิตร ฯ ไม่ใช่ความก่อการร้าย เพราะไม่มีการระเบิดทำลายระบบขนส่งใด ๆ นอกจากคดีนี้สัปดาห์หน้าเตรียมจะยื่นฟ้อง นพ.เหวง กับพวกอีกคดีต่อศาลแขวงพระนครเหนือในความผิดฐานเดียวกันด้วยที่ได้ร้องทุกข์แจ้งความเท็จต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( สตช.) และในการแจ้งความร้องทุกข์นั้นหากพบว่า นพ.เหวง กับพวกได้ให้การต่อพนักงานสอบสวนอีกซึ่งเป็นความเท็จ ก็จะนำคดีมายื่นฟ้องต่อศาลอาญาอีกคดีหนึ่งด้วย ซึ่งพันธมิตร ฯ พร้อมจะฟ้องกลับทุกคดีหากมีการกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริง
ส่วนกรณีพล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. จะเร่งดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตร ฯ ฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ หลังจากที่นายเสรีรัตน์ ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิร้องทุกข์ และคดีที่ นพ.เหวง กับพวก กล่าวหาว่าพันธมิตร ฯ ทำผิดข้อหาก่อการร้ายนั้น ตนได้ยื่นหนังสือถึง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกรัฐมนตรี , พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รักษาการ รมว.มหาดไทย , พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.จงรัก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตตามหลักนิติธรรม ในการดำเนินคดี โดยพันธมิตร ฯ ยืนยันว่าการกระทำของกลุ่มพันธมิตร ฯ เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญที่เป็นเหตุยกเว้นความผิดตาม มาตรา 135 / 1 (2) จึงให้ยกเลิกการตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าว ซึ่งหากยังมีการตั้งข้อหาเกินจริงเหมือนที่เคยทำมาแล้วในข้อหากบฏ พันธมิตร ฯ จะฟ้องกลับอาญากับทุกคนทันที
นอกจากนี้กรณีที่ พล.ต.อ.จงรัก พยายามจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ป.ป.ง.) ตรวจสอบกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าหรือผู้ประกอบธุรกิจที่ บริจาคเงินให้กลุ่มพันธมิตร ฯ ว่าเข้าข่ายความผิดก่อการร้ายนั้น พล.ต.อ.จงรัก รู้ดีอยู่แล้วว่า การกระทำของพันธมิตร ฯ ไม่ใช่ความผิดก่อการร้ายหากยังจะดึงดันยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ง. อีก พันธมิตร ฯ จะฟ้องกลับ พล.ต.อ.จงรัก ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 200 ที่เป็นเจ้าพนักงานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อให้บุคคลอื่นได้รับโทษทางอาญา