“โฆษกพันธมิตร” จับตารัฐบาลแก้ รธน. นัดระดมพลใหญ่

“ปานเทพ” ย้ำจุดยืนจะเคลื่อนไหวทันที หากสภาดันทุรังพิจารณาแก้ไข รธน. ลั่นขับไล่ต่อเนื่อง เย้ย “ทักษิณ” พ่ายแพ้ทางการเมืองทุกกระบวนท่า เชื่อหย่าขาด “อ้อ” มีนัยหวังเคลื่อนไหวการเมืองภายในประเทศอีกรอบ

วันนี้ (17 พ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีแกนนำพันธมิตรฯ ได้เดินทางไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดว่า วันนี้แกนนำเดินทางไปเพื่อรับทราบคดี แต่ทางอัยการได้เลื่อนการสอบสวนและให้พยานเพิ่มตามที่ผู้ต้องหาร้องขอ พร้อมเลื่อนสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 21 ม.ค.2552 เนื่องจากการสอบพยานยังไม่เสร็จสิ้น

นายปานเทพ กล่าวถึงกรณีที่มีคลิปเหมือนนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ เดินควงผู้หญิงว่ายังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นรูปนายสนธิจริงหรือไม่ หรือเป็นการพยายามที่จะให้เป็นนายสนธิ แต่ถ้าเป็นจริงก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร เนื่องจากแกนนำพันธมิตรฯ มีวิถีชีวิตธรรมดา ที่ไม่เหมือนกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ต้องวางตัวให้เหมาะสมในการจะพาใครเดินไปไหนต่อไหน

โฆษกพันธมิตรฯ ยังย้ำว่า พันธมิตรฯ จะติดตามการทำงานของรัฐบาลในการเเก้ไขรัฐธรรมนูญ อีกทั้งการตั้ง ส.ส.ร.3 และจะเคลื่อนไหวทันที่ที่รัฐบาลทำการดำเนินการแก้ไข ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแกนนำพันธมิตรฯ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พ่ายแพ้ทางการเมืองแล้ว เนื่องจากการดำเนินการต่างๆ ถือเป็นการประจานรัฐบาลชุดนี้ของไทย ถ้ายิ่งออกมาเคลื่อนไหวถือว่าจะเกิดการเสียหายกว่าเดิม

นายปานเทพ ระบุอีกว่า ความจริงแล้วบุคคลที่มีข้อหาทางกฎหมายอยู่นั้นควรที่ถูกเพิกถอนหนังสือเดินทางทุกประเทศตามกฎหมายของกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่าพันธมิตรฯ จะทำการกดดันอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้หย่ากับคุณหญิงพจมานนั้น ทางแกนนำได้ประเมินกันว่าน่าจะเกิดจากกระทำที่ต้องการที่จะแยกกันเคลื่อนไหวทางการเมืองมากที่สุด เพื่อที่จะให้คุณหญิงพจมานมาเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในประเทศ และทักษิณเคลื่อนไหวนอกประเทศ หรืออาจเป็นประเด็นที่อาจหย่าร้างกันจริง และเพื่อปกป้องทรัพย์สินที่อาจถูกยึด ดังนั้นจะเห็นได้ว่าตรงนี้เป็นเกมการเมือง ดังนั้น พันธมิตรฯ จึงมีความชอบธรรมที่จะขับไล่รัฐบาลต่อไป ที่ทางรัฐบาลยังคงใช้อำนาจปกป้องนักโทษอยู่นั้นเป็นการกระทำที่ไม่ชอบธรรม ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวของทักษิณในต่างประเทศหลายประเทศเริ่มที่จะหมดความชอบธรรมในตัวเขาแล้ว

ส่วนกรณีนักรบศรีวิชัยทั้ง 82 คนนั้น โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวว่า ทั้งหมดได้รายงานตัวต่อศาลอาญารัชดาฯ แล้วเพื่อรับฟังคำฟ้อง หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมาอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 นำสำนวนมายื่นฟ้องจำเลยทั้ง 82 คน ในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจรและข้อหาอื่นรวม 9 ข้อหา เชื่อว่าอาจจะต้องมีการรวบรวมหลักฐานต่อไปซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา พันธมิตรฯ เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมในครั้งนี้พันธมิตรฯ จะได้รับความเป็นธรรม