มูลธินิปวีณา บุกช่วยเด็กชายวัย 4 ขวบ ถูกพ่อในไส้-แม่เลี้ยงทำทารุณกรรม บุหรี่จี้ตัว ไฟลนหู ร่างกายผอมโซ ถูกมัดมือมัดเท้า จนเพื่อนบ้านทนพฤติกรรมไม่ไหวร้องเรียนมูลนิธิ พ่อใจมารอ้างที่ทำ เพราะลูกชายเป็นเด็กดื้อไม่เชื่อฟัง ชอบแย่งขนมน้อง จึงต้องลงโทษแบบนี้ ด้าน ตร.เตรียมสอบปากคำและดำเนินกับพ่อแม่ใจยักษ์ทั้ง 2 คน
วันนี้ (9 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พ.ต.ต.ทนงค์ โศภิษฐิกุล พงส.(สบ 2) สน.บางพลัด พร้อมเจ้าหน้าที่ สน.บางพลัด เดินทางไปตรวจสอบภายใน บ้านเช่าเลขที่ 616/1 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 85 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กทม.หลังได้แจ้งจากพลเมืองดี ว่า มีเด็กถูกพ่อกับแม่ทำทารุณกรรม และถูกจับมัดไว้ ภายในบ้านกลังดังกล่าว จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวแบ่งให้เช่าสูง 3 ชั้น ปลูกอย่างมีรั้วรอบขอบชิด บริเวณชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่พบ ด.ช.แมว (นามสมมติ) อายุ 4 ขวบ ถูก นายสุทัศน์ ง้วนหอม อายุ 26 ปี พ่อของ ด.ช.แมว และ น.ส.น้องหนู เชยอรุญ อายุ 22 ปี แม่เลี้ยง ด.ช.แมว จับมัดมือไขว้หลังกับมัดเท้าด้วยเชือกปอ ในสภาพผอมโซเหมือนอดอาหาร ตามร่างกายมีบาดแผลถูกทุบตี เป็นรอยเขียวช้ำตามร่างกายหลายแห่ง มีรอยถูกบุหรี่จี้เป็นแผลทั่วร่างกาย ร่องรอยถูกไฟแช็กลนที่บริเวณใบหู และบาดแผลฟกช้ำตามร่างกายจำนวนมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการแก้มัด ด.ช.แมว ก่อนควบคุมตัว นายสุทัศน์ และ น.ส.น้องหนู มาสอบสวนที่ สน.บางพลัด
จากการสอบสวน นายสุทัศน์ ได้ให้การรับสารภาพว่า ด.ช.แมว เป็นลูกชายตนกับภรรยาเก่าที่ติดคุกอยู่ ส่วนนั้นตนมีอาชีพเป็น รปภ.ของสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สยามสแควร์ ก่อนหน้าตนถูกเคยถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ในคดียาเสพติด พร้อมทั้งภรรยาเก่าและแม่ของตน ซึ่งหลังจากที่ตนพ้นโทษออกมาได้มาคบหากับ น.ส.น้องหนู ซึ่ง น.ส.น้องหนู ก็มีลูกผู้หญิงกับอดีตสามีเก่าติดมาด้วย 1 คน นอกจากนี้ น.ส.น้องหนู ยังท้องอีก 7 เดือนด้วย จากนั้นพวกตนจึงได้ย้ายมาเช่าห้องที่เกิดเหตุได้ประมาณ 1-2 เดือนแล้ว สำหรับสาเหตุที่ต้องจับลูกตนมัดไว้และทำร้ายร่างกาย เนื่องจาก ด.ช.แมว เป็นเด็กดื้อ เวลากลางคืนชอบแย่งนมน้องกิน และไม่เชื่อฟัง หากไม่เลี้ยงเองก็ไม่รู้ว่าดื้ออย่างไร ตนจึงต้องลงโทษขนาดนี้
นางปวีณา กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ทางมูลนิธิตนได้รับการร้องเรียกจากชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ว่า ด.ช.แมว ถูกพ่อแม่จับมัดและทำร้ายร่างกายต่างๆ นานา บางครั้งใช้ให้เด็กออกไปซื้อข้าวจึงเห็นร่องรอยตามร่างกายเป็นประจำ เมื่อสอบถามก็บอกว่าถูกแม่ตี ซึ่งชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงทนเห็นพฤติกรรมไม่ไหวจึงได้ร้องเรียนมาทางมูลนิธิตน ก่อนเดินทางมาดังกล่าว หลังจากนั้นจะนำตัว ด.ช.แมว ไปตรวจร่างกาย และทำการรักษาเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ก่อนส่งตัวให้สถานสังคมสงเคราะห์ดูแลแทน
ด้าน พ.ต.ต.กล่าวว่า เบื้องต้น นายสุทัศน์ และ น.ส.น้องหนู ให้การรับสารภาพว่าทำร้ายร่างกาย ด.ช.แมว จริง หลังจากนี้จะต้องสอบปากคำทั้ง 2 คน อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดี ซึ่งจะได้แจ้งข้อหา กักขังหน่วงเหนี่ยว และทำร้ายร่างกาย ก่อนส่งตัวดำเนินคดีต่อไป
