รวบหนุ่มผักไห่ ลวงแท็กซี่ให้ไปส่งสนามบิน ปืนจี้ชิงรถ เงินสด 900 บาทหลบหนี ตร.ตามสกัดพบคนร้ายเตรียมเปลี่ยนป้ายทะเบียนตบตา ก่อนรวบตัวได้ สารภาพเคยเป็นโชเฟอร์แท็กซี่ แต่เงินไม่พอใช้จึงต้องมาก่อเหตุ
วันนี้ (23 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายเดชฤทธิ์ ใจดี อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 4 ต.ตาลาน อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์คนขับรถแท็กซี่ พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .45 พร้อมกระสุน จำนวน 4 นัด โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง เงินสด 900 บาท รถยนต์แท็กซี่สาธารณะ หมายเลขทะเบียน ทล 5480 กทม. และป้ายทะเบียนปลอม หมายเลข ทว 4290 กทม โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณศูนย์วิจัยซอย 8
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าว่า ผู้ต้องหาได้ทำทีเป็นผู้โดยสารโบกรถแท็กซี่จากบริเวณรัชดาฯ ซอย 4 แขวงและเขตห้วยขวาง เพื่อให้ไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะที่ขับไปถึงย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาได้ชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่คนขับรถแท็กซี่ และเอาทรัพย์สินไป โดยใช้เทปกาวที่เตรียมมามัดมือมัดเท้าคนขับรถ และปิดตา ก่อนจะนำคนขับแท็กซี่ไปปล่อยทิ้งไว้ข้างทางไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ แล้วขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวหลบหนีไป
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุผ่านฟ้า จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาจนถึงย่านมักกะสัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน และเจ้าหน้าที่สายตรวจจึงได้ทำการสกัดจับคนร้ายเอาไว้ได้อย่างรวดเร็วที่บริเวณตึกไบรท์เพลส ศูนย์วิจัยซอย 8 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งผู้ต้องหากำลังจะนำป้ายทะเบียนปลอมที่เตรียมมาทำการเปลี่ยนกับป้ายเดิมเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจและสะดวกในการหลบหนี ต้องขอชมเชยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่สามารถจับคนร้ายได้อย่างทันท่วงที
ต่อมา นายชาคริต วันบุญ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162 หมู่ 11 ต.เนินมะกอก อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร เจ้าของรถแท็กซี่ได้เดินทางมาที่ บช.น. พร้อมกับกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถรับผู้โดยสารอยู่ที่ย่านรัชดาภิเษก จนกระทั่งเห็นผู้ต้องหาโบกรถจึงจอดรับโดยที่ไม่ได้เอะใจอะไร เนื่องจากคิดว่าเป็นผู้โดยสารทั่วไป ระหว่างที่ขับไปถึงย่านบางพลี ผู้ต้องหาได้ชักอาวุธปืนขึ้นมาขู่ บอกให้ทำตามที่บอก และเอาทรัพย์สินไป จากนั้นก็ให้ตนใช้เทปกาวที่ผู้ต้องหาเตรียมมาด้วยพันรอบบริเวณตาแล้วบอกให้ไปนั่งที่เบาะหลัง ผู้ต้องหาใช้เทปกาวมัดมือมัดเท้าตนก่อนจะขับรถออกไปและทิ้งตนไว้ที่ข้างป่ากล้วย ตนพยายามแก้มัดอยู่นานกว่าจะหลุดออกมาแจ้งความได้
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ก็ประกอบอาชีพเป็นคนขับรถแท็กซี่ แต่เงินไม่พอใช้จึงต้องมาก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป