“พัชรวาท” สั่ง “ผบช.ก.” ระดม ตร.ฝ่ายธุรการ 487 นาย ฝึกซ้อมแผนเผชิญและยุทธวิธีควบคุมฝูงชน หลังกำลัง ตชด.ถอนกำลังไปปฏิบัติหน้าที่หน่วยงานอื่น เกรงสำนักงานตำรวจแห่งชาติอาจตกเป็นเป้าหมายดาวกระจาย ขณะที่ บช.น. กลัวผีติดตั้งเครื่องปั่นไฟเท่าตู้คอนเทนเนอร์ รับศึกพันธมิตรฯ ปิดล้อมซ้ำ
วันนี้ (26 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ก. ระดมข้าราชการตำรวจฝ่ายธุรการในสังกัดหน่วยขึ้นตรง ตร.ซึ่งปฎิบัติหน้าที่อยู่ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 487 นาย แบ่งเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรจำนวน 30 นาย ชั้นประทวนจำนวน 457 นาย เพื่อเข้ารับการฝึกซ้อมแผนเผชิญและยุทธวิธีควบคุมฝูงชน โดยมี พ.ต.ท.ยศวีร์ พรพีรพาน รอง ผกก.กก.ปพ.บก.ป. พร้อมกำลังตำรวจคอมมานโดจำนวน 1 หมู่ ทำหน้าที่ควบคุมการฝึก
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับการเรียกระดมข้าราชการตำรวจฝ่ายธุรการครั้งนี้ เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนค่ายนเรศวร จำนวน 2 กองร้อยที่ถูกส่งมาปฏิบัติหน้าที่รักษาความเรียบร้อยภายในบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งแต่วันที่ 23 ที่ผ่านมา ต้องถอนกำลังไปปฎิบัติหน้าที่ยังหน่วยงานราชการอื่น ที่อาจตกเป็นเป้าหมายในการเคลื่อนพลดาวกระจายของกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 8 จุด อีกทั้งกำลังตำรวจหน่วยงานอื่นที่ทำหน้าที่ควบคุมฝูงชนทั้งของ ผบช.น. ผบช.ก. ผบช.ภ. ต่างก็ถูกระดมไปปฏิบัติหน้าที่ตามสถานที่ต่างๆ ทำให้ในขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีกำลังพลไม่เพียงพอ จึงต้องมีการเรียกระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายธุรการเข้ารับการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์การชุมนุม
บช.น.หัวหด ตั้งเครื่องปั่นไฟเท่าตู้คอนเทนเนอร์ รับศึกพันธมิตรฯ
ในวันเดียวกัน กองบังคับการอำนวยการกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บกอก.บช.น.) สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องปั่นไฟฟ้าขนาดใหญ่ขนาดเท่าตู้คอนเทรนเนอร์ของบริษัทนำแสงเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด มาเตรียมพร้อมไว้ภายในกองบัญชาการตำรวจนครบาล เนื่องจากตำรวจทำการประเมินสถานการณ์แล้วเกรงว่าผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ จะกลับมาปิดล้อม บช.น. อีกครั้งหลังเกิดเหตุระเบิดและมีการยิงปะทะกันเกิดขึ้นในช่วงการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา และหากถูกพันธมิตรฯตัดน้ำตัดไฟจริงเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการใช้เครื่องปั่นไฟส่องสว่างได้ในทันที โดยเฉพาะในช่วงค่ำหากไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณดังกล่าวเกรงว่าจะมีมือที่ 3 เข้ามาแทรกแซงสถานการณ์ได้
โดยเครื่องปั่นไฟฟ้าขนาดใหญ่นี้จะประจำการ ณ ที่ตั้งภายใน บช.น.ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะทุเลาลง ควบคู่กับการเตรียมพร้อมรถน้ำดับเพลิงขนาดใหญ่สังกัดสำนักงานบรรเทาสาธารณะภัยไว้ ณ ที่ตั้งจำนวน 4 คันด้วย ซึ่งเป็นการเตรียมการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนกำลังตำรวจปราบจลาจล กำลังตำรวจจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งตำรวจสังกัดกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (ตปพ.) ตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจภูธรภาค 1, 2, 7 ที่เข้าร่วมปฏิบัติดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยนั้น มีการสลับเปลี่ยนกำลังไปปฏิบัติหน้าที่ในจุดต่างๆที่มีการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ส่วนผู้ที่มีหน้าที่ดูแล บช.น.และบริเวณโดยรอบนั้นยังคงนอนหลับพักผ่อนบริเวณที่ร่มต่างๆ ตามอัธยาศรัยมีการบริการอาหาร 3 มื้อและน้ำดื่มเครื่องดื่มชูกำลังตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (26 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ก. ระดมข้าราชการตำรวจฝ่ายธุรการในสังกัดหน่วยขึ้นตรง ตร.ซึ่งปฎิบัติหน้าที่อยู่ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 487 นาย แบ่งเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรจำนวน 30 นาย ชั้นประทวนจำนวน 457 นาย เพื่อเข้ารับการฝึกซ้อมแผนเผชิญและยุทธวิธีควบคุมฝูงชน โดยมี พ.ต.ท.ยศวีร์ พรพีรพาน รอง ผกก.กก.ปพ.บก.ป. พร้อมกำลังตำรวจคอมมานโดจำนวน 1 หมู่ ทำหน้าที่ควบคุมการฝึก
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับการเรียกระดมข้าราชการตำรวจฝ่ายธุรการครั้งนี้ เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนค่ายนเรศวร จำนวน 2 กองร้อยที่ถูกส่งมาปฏิบัติหน้าที่รักษาความเรียบร้อยภายในบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งแต่วันที่ 23 ที่ผ่านมา ต้องถอนกำลังไปปฎิบัติหน้าที่ยังหน่วยงานราชการอื่น ที่อาจตกเป็นเป้าหมายในการเคลื่อนพลดาวกระจายของกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 8 จุด อีกทั้งกำลังตำรวจหน่วยงานอื่นที่ทำหน้าที่ควบคุมฝูงชนทั้งของ ผบช.น. ผบช.ก. ผบช.ภ. ต่างก็ถูกระดมไปปฏิบัติหน้าที่ตามสถานที่ต่างๆ ทำให้ในขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีกำลังพลไม่เพียงพอ จึงต้องมีการเรียกระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายธุรการเข้ารับการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์การชุมนุม
บช.น.หัวหด ตั้งเครื่องปั่นไฟเท่าตู้คอนเทนเนอร์ รับศึกพันธมิตรฯ
ในวันเดียวกัน กองบังคับการอำนวยการกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บกอก.บช.น.) สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องปั่นไฟฟ้าขนาดใหญ่ขนาดเท่าตู้คอนเทรนเนอร์ของบริษัทนำแสงเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด มาเตรียมพร้อมไว้ภายในกองบัญชาการตำรวจนครบาล เนื่องจากตำรวจทำการประเมินสถานการณ์แล้วเกรงว่าผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ จะกลับมาปิดล้อม บช.น. อีกครั้งหลังเกิดเหตุระเบิดและมีการยิงปะทะกันเกิดขึ้นในช่วงการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา และหากถูกพันธมิตรฯตัดน้ำตัดไฟจริงเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการใช้เครื่องปั่นไฟส่องสว่างได้ในทันที โดยเฉพาะในช่วงค่ำหากไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณดังกล่าวเกรงว่าจะมีมือที่ 3 เข้ามาแทรกแซงสถานการณ์ได้
โดยเครื่องปั่นไฟฟ้าขนาดใหญ่นี้จะประจำการ ณ ที่ตั้งภายใน บช.น.ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะทุเลาลง ควบคู่กับการเตรียมพร้อมรถน้ำดับเพลิงขนาดใหญ่สังกัดสำนักงานบรรเทาสาธารณะภัยไว้ ณ ที่ตั้งจำนวน 4 คันด้วย ซึ่งเป็นการเตรียมการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนกำลังตำรวจปราบจลาจล กำลังตำรวจจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งตำรวจสังกัดกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (ตปพ.) ตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจภูธรภาค 1, 2, 7 ที่เข้าร่วมปฏิบัติดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยนั้น มีการสลับเปลี่ยนกำลังไปปฏิบัติหน้าที่ในจุดต่างๆที่มีการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ส่วนผู้ที่มีหน้าที่ดูแล บช.น.และบริเวณโดยรอบนั้นยังคงนอนหลับพักผ่อนบริเวณที่ร่มต่างๆ ตามอัธยาศรัยมีการบริการอาหาร 3 มื้อและน้ำดื่มเครื่องดื่มชูกำลังตลอด 24 ชั่วโมง