พันธมิตรฯ เปิดทางให้สายการบินอิหร่านแอร์ไลน์ส่งมุสลิมไทยไปประกอบพิธีฮัจญ์เพียงเที่ยวเดียว ขณะที่ผู้โดยสารสายการบินอื่นๆยังตกค้างภายในสนามบิน บางคนบ่นอ่อนเพลีย เนื่องจากร้านอาหารเพิ่งเปิดบริการ ขณะเดียวกัน เกิดเหตุระเบิดบริเวณทางเข้าสนามบิน
วันนี้ (26 พ.ย.) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังคงปักหลักชุมนุมปิดสนามบินเป็นวันที่ 2 ส่งผลให้มีประชาชนชาวไทย นักธุรกิจและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตกค้างอยู่ในสนามบินเป็นจำนวนมาก โดยนักเดินทางส่วนใหญ่อยู่ในอาการเครียด อิดโรยและอ่อนเพลีย เนื่องจากร้านค้าและร้านอาหารทั้งหมดภายในสนามบินปิดบริการ และเพิ่งจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้ (26 พ.ย.) ทั้งนี้นักเดินทางที่ตกค้างต่างรอความหวังว่าหลังเวลา 12.00 น. สายการบินต่างๆอาจออกเที่ยวบินจากสนามบินได้ แต่จนถึงขณะนี้ (10.00 น.) ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดให้คำตอบได้ชัดเจนว่าจะมีเครื่องบินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิได้หรือไม่
ด้าน น.ส.มน ผิวนาม ชาวจ.บุรีรัมย์ อายุ 25 ปี เปิดเผยด้วยอาการอ่อนเพลียว่า ตนเดินทางจากจ.บุรีรัมย์มาถึงสนามบินตั้งแต่เวลา 21.00 น.ของวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับไปประเทศนอร์เวย์ โดยสายการบินไทย ก่อนเดินทางมาได้ยินข่าวว่ามีม็อบจะปิดสนามบิน แต่ไม่คิดว่าสถานการณ์จะเลวร้าย เชื่อว่าตำรวจจะควบคุมสถานการณ์ได้ แต่เมื่อมาถึงสนามบินก็ต้องมาเจอกับเคาน์เตอร์ที่ว่างเปล่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาให้ความช่วยเหลือหรือให้คำแนะนำใดๆ มีเพียงกระดาษติดเบอร์โทรศัพท์ให้สอบถาม ซึ่งตนยังไม่ได้รับประทานอาหารมาหลายชั่วโมงแล้ว
ทางด้าน นางวิระยา อุนจันดา อายุ 25 ปี ชาว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กล่าวว่า ตนเพิ่งแต่งงานกับสามีชาวอังกฤษ และจะเดินทางไปกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยการเดินทางขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศเป็นครั้งแรกในชีวิต เครื่องบินมีกำหนดออกเดินทางในเวลา 12.00 น.วันนี้ (26 พ.ย.) แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะได้ไปหรือไม่ ตนรู้สึกเบื่อหน่าย อยากกลับบ้านแต่ก็ยังออกไปไหนไม่ได้
ขณะที่พิธีกรบนเวทีปราศรัยด้านหน้าสนามบินประกาศว่า พันธมิตรฯจะเปิดให้ชาวไทยมุสลิมจากทั่วประเทศจำนวน 416 คน ได้ขึ้นสายการบินอิหร่านแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ IR809 ซึ่งบินตรงจากกรุงเทพฯไปยังกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ในเวลา 09.20 น.เพียงเที่ยวบินเดียว จากนั้นจะปิดไม่ให้มีการนำเครื่องบินขึ้นลงภายในสนามบินสุวรรณภูมิ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานที่ดูแลเที่ยวบินดังกล่าว เปิดเผยว่า สายการบินได้ตัดสินใจนำเครื่องบินเที่ยวบินที่ IR809 ลงจอดยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรับผู้โดยสารคณะผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิม ออกจากประเทศไทยในเวลา 11.10 เพื่อไปประกอบพิธีฮัจญ์
สำหรับความคืบหน้าเหตุระเบิด บริเวณทางเข้าอาคารสนามบิน ใกล้กับศูนย์ปฏิบัติการ การบินไทย ตำรวจจาก สภ.ราชาเทวะ 2 นาย ได้เข้ามาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่า แนวกำแพงราวสะพานคอนกรีตแตกเป็นแนวยาวประมาณ 1 ฟุต ขณะผิวสะพานคอนกรีตบริเวณใกล้เคียงแตกเป็นหลุมลึก มีรอยเลือดของผู้บาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจวิเคราะห์เบื้องต้นว่า จุดเกิดเหตุอยู่บนสะพานที่มีความสูง จึงค่อนข้างเป็นไปไม่ได้ว่าคนร้ายจะขว้างปาระเบิดเข้าใส่การ์ดพันธมิตร นอกจากนี้มีการเสริมกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจาก ตำรวจภูธรภาค 1 กว่า 4 กองร้อย เข้ามาประจำที่สถานีดับเพลิงภายในบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ทั้งนี้ ในส่วนของเวทีปราศรัยด้านหน้าอาคารสนามบิน พิธีกรได้ระดมผู้ชุมนุมให้ออกไปสับเปลี่ยนเป็นการ์ดอาสาสมัครตามจุดต่างๆ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลให้มากขึ้น แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าพันธมิตรฯ จะขยายพื้นที่การปิดล้อมไปยังจุดใดๆเพิ่มเติมอีกหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายสุทิน วรรณบวร นักข่าวจากสำนักข่าวเอพี ได้ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยได้ประกาศลาออกจากการเป็นนักข่าวของสำนักข่าวเอพี โดยให้เห็นผลว่าแนวทางการทำงานของสำนักข่าวเอพีกับตนไม่ตรงกัน ซึ่งหลังจากลาออกจากตำแหน่งตนจะมาร่วมเป็นหนึ่งในแนวร่วมพันธมิตรฯ เพื่อต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง เพราะการขับเคลื่อนร่วมกับพันธมิตรฯ มีหลายอย่างมากมายที่จะต้องทำต่อไป ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นนักข่าว ตนทำงานเป็นนักข่าวเอพีมากว่า 9 ปี และเคยทำงานด้านข่าวจากสำนักงานอื่นๆ อีกหลายสำนัก
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. เรือตรีแซมดิน เลิศบุตร คนใกล้ชิดผู้ติดตาม พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ได้นำผู้ชุมนุมประมาณ 30 คน เข้าไปยังหอบังคับการบิน ของสนามบินสุวรรณภูมิ และเจรจากับเจ้าหน้าที่ในหอการบินเพื่อขอเข้าไปตรวจสอบห้องการควบคุมการบิน โดยจะเข้าไปตรวจสอบเที่ยวบิน และเส้นทางการบินของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ก็อนุญาตให้เข้าไปเพียง 5 คน จากนั้นพันธมิตรฯ ได้เจรจากับเจ้าหน้าที่หอบังคับการบิน เพื่อขอให้การ์ดเข้าไปรักษาความปลอดภัยในหอบังคับการบิน เนื่องจากเกรงว่าตำรวจจะใช้หอควบคุมการบินวางแผนจัดการกลุ่มพันธมิตรฯ
อย่างไรก็ตาม หลังจากการเจรจาร่วมกับเจ้าหน้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้การ์ดพันธมิตรส่งตัวแทนเข้าไปดูแลหอบังคับการบิน และจากการเข้าตรวจสอบเส้นทางการบิน และเที่ยวบินของนายสมชายไม่พบว่ามีเที่ยวบินลงจอดในสนามบินสุวรรณ
นาวาอากาศโทโชคชัย สภานนท์ รอง ผอ.บริษัทวิทยุการบินกรุงเทพ เปิดเผยถึงกรณีที่การ์ดพันธมิตรฯ ขอเข้าไปยังหอบังคับการบิน ว่าหลังจากได้รับการประสานงานจากการ์ดพันธมิตรฯ ที่จะเข้ามาภายในห้องควบคุมการบิน ตนไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้เครื่องควบคุม เนื่องจากอุปกรณ์ทุกชิ้น มีราคาแพงมาก การใช้อุปกรณ์ต้องใช้โดยผู้ชำนาญเฉพาะด้าน แต่หากพันธมิตรฯ ต้องการควบคุมการทำงาน ทางเจ้าหน้าที่ จะตั้งเต้นท์ให้ 2 เต้นท์ ที่บริเวณหน้าหอควบคุมการบิน แต่ทางพันธมิตรฯ เกรงว่าจะถูกลอบยิงหรือลอบทำร้าย ตนจึงพยายามชี้แจงว่า เมื่อสนามบินปิด ทุกอย่างก็ปิดหมด จึงไม่จำเป็นต้องควบคุมใดๆ
นอกจากนี้ ห้องควบคุมการบินมีความคับแคบ ไม่สะดวกที่จะให้บุคคลภายนอกเข้ามา จึงทำให้พันธมิตรฯยอม และออกมาปักหลักที่บริเวณด้านหน้าหอคอบคุมการบินโดยสงบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.20 น. เจ้าหน้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ ได้ประสานกับทุกสายการบินในการขนย้ายผู้โดยสารที่พิการทางร่างกายจากชั้น 4 และชั้น 1 ของสนามบิน โดยใช้รถชัตเตอร์บัสขนถ่ายคน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นักธุรกิจชาวต่างชาติ เพื่อเดินทางไปเป็นกลุ่ม ๆ ทยอยเข้าพักตามโรงแรมที่อยู่บริเวณใกล้เคียงสนามบินสุวรรณภูมิ อาทิ โรงแรมไฮบิสต์ แถวหัวหมาก
ขณะเดียวกัน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ได้ออกหนังสือชี้แจงเป็นภาษาอังกฤษแจกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยภายในหนังสือดังกล่าวระบุว่า พันธมิตรฯมีความจำเป็นต้องปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชน เพื่อต้องหารหยุดยั้งกบฎคอรัปชั่นบ้านเมือง ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่จะหยุดการทำงานบริหารประเทศที่ไม่ชอบธรรม ภายใต้นอมินี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งเป็นวิธีการเดียวที่จะกำจัดไปได้ พร้อมทั้งได้ชี้แจงว่าการเคลื่อนไหวได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. เป็นต้นมา
เวลา 15.30 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ได้เดินทางมาร่วมสมทบกับพันธมิตรฯที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นได้ขึ้นเวทีปราศรัยถึงจุดยืนของพันธมิตรฯ
เวลา 16.00 น. สมาคมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จองโรงแรมให้ผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้ทยอยออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเข้าพักในโรแรมรีเจ้นท์ โรงแรมเอส.ซีปาร์ค โรงแรมแกรนด์ทวินทาวเวอร์ จำนวน 300 ห้อง โดยขณะนี้ได้ขนย้ายผู้โดยสารออกจากสนามบินได้เกิน 50 เปอร์เซนต์แล้ว ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะออกค่าใช้จ่ายค่าที่พักในแต่ละโรงแรมให้นักท่องเที่ยวทั้งหมด ขณะเดียวกันทางสนามบินก็ได้จัดรถไว้ช่วยขนส่งผู้โดยสารไปพักแต่ละโรงแรมจำนวน 60 คัน เพื่อจะได้ขนถ่ายนักท่องเที่ยวได้แล้วเสร็จก่อนช่วงเวลาค่ำ
วันนี้ (26 พ.ย.) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังคงปักหลักชุมนุมปิดสนามบินเป็นวันที่ 2 ส่งผลให้มีประชาชนชาวไทย นักธุรกิจและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตกค้างอยู่ในสนามบินเป็นจำนวนมาก โดยนักเดินทางส่วนใหญ่อยู่ในอาการเครียด อิดโรยและอ่อนเพลีย เนื่องจากร้านค้าและร้านอาหารทั้งหมดภายในสนามบินปิดบริการ และเพิ่งจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้ (26 พ.ย.) ทั้งนี้นักเดินทางที่ตกค้างต่างรอความหวังว่าหลังเวลา 12.00 น. สายการบินต่างๆอาจออกเที่ยวบินจากสนามบินได้ แต่จนถึงขณะนี้ (10.00 น.) ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดให้คำตอบได้ชัดเจนว่าจะมีเครื่องบินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิได้หรือไม่
ด้าน น.ส.มน ผิวนาม ชาวจ.บุรีรัมย์ อายุ 25 ปี เปิดเผยด้วยอาการอ่อนเพลียว่า ตนเดินทางจากจ.บุรีรัมย์มาถึงสนามบินตั้งแต่เวลา 21.00 น.ของวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับไปประเทศนอร์เวย์ โดยสายการบินไทย ก่อนเดินทางมาได้ยินข่าวว่ามีม็อบจะปิดสนามบิน แต่ไม่คิดว่าสถานการณ์จะเลวร้าย เชื่อว่าตำรวจจะควบคุมสถานการณ์ได้ แต่เมื่อมาถึงสนามบินก็ต้องมาเจอกับเคาน์เตอร์ที่ว่างเปล่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาให้ความช่วยเหลือหรือให้คำแนะนำใดๆ มีเพียงกระดาษติดเบอร์โทรศัพท์ให้สอบถาม ซึ่งตนยังไม่ได้รับประทานอาหารมาหลายชั่วโมงแล้ว
ทางด้าน นางวิระยา อุนจันดา อายุ 25 ปี ชาว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กล่าวว่า ตนเพิ่งแต่งงานกับสามีชาวอังกฤษ และจะเดินทางไปกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยการเดินทางขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศเป็นครั้งแรกในชีวิต เครื่องบินมีกำหนดออกเดินทางในเวลา 12.00 น.วันนี้ (26 พ.ย.) แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะได้ไปหรือไม่ ตนรู้สึกเบื่อหน่าย อยากกลับบ้านแต่ก็ยังออกไปไหนไม่ได้
ขณะที่พิธีกรบนเวทีปราศรัยด้านหน้าสนามบินประกาศว่า พันธมิตรฯจะเปิดให้ชาวไทยมุสลิมจากทั่วประเทศจำนวน 416 คน ได้ขึ้นสายการบินอิหร่านแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ IR809 ซึ่งบินตรงจากกรุงเทพฯไปยังกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ในเวลา 09.20 น.เพียงเที่ยวบินเดียว จากนั้นจะปิดไม่ให้มีการนำเครื่องบินขึ้นลงภายในสนามบินสุวรรณภูมิ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานที่ดูแลเที่ยวบินดังกล่าว เปิดเผยว่า สายการบินได้ตัดสินใจนำเครื่องบินเที่ยวบินที่ IR809 ลงจอดยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรับผู้โดยสารคณะผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิม ออกจากประเทศไทยในเวลา 11.10 เพื่อไปประกอบพิธีฮัจญ์
สำหรับความคืบหน้าเหตุระเบิด บริเวณทางเข้าอาคารสนามบิน ใกล้กับศูนย์ปฏิบัติการ การบินไทย ตำรวจจาก สภ.ราชาเทวะ 2 นาย ได้เข้ามาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่า แนวกำแพงราวสะพานคอนกรีตแตกเป็นแนวยาวประมาณ 1 ฟุต ขณะผิวสะพานคอนกรีตบริเวณใกล้เคียงแตกเป็นหลุมลึก มีรอยเลือดของผู้บาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจวิเคราะห์เบื้องต้นว่า จุดเกิดเหตุอยู่บนสะพานที่มีความสูง จึงค่อนข้างเป็นไปไม่ได้ว่าคนร้ายจะขว้างปาระเบิดเข้าใส่การ์ดพันธมิตร นอกจากนี้มีการเสริมกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจาก ตำรวจภูธรภาค 1 กว่า 4 กองร้อย เข้ามาประจำที่สถานีดับเพลิงภายในบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ทั้งนี้ ในส่วนของเวทีปราศรัยด้านหน้าอาคารสนามบิน พิธีกรได้ระดมผู้ชุมนุมให้ออกไปสับเปลี่ยนเป็นการ์ดอาสาสมัครตามจุดต่างๆ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลให้มากขึ้น แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าพันธมิตรฯ จะขยายพื้นที่การปิดล้อมไปยังจุดใดๆเพิ่มเติมอีกหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายสุทิน วรรณบวร นักข่าวจากสำนักข่าวเอพี ได้ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยได้ประกาศลาออกจากการเป็นนักข่าวของสำนักข่าวเอพี โดยให้เห็นผลว่าแนวทางการทำงานของสำนักข่าวเอพีกับตนไม่ตรงกัน ซึ่งหลังจากลาออกจากตำแหน่งตนจะมาร่วมเป็นหนึ่งในแนวร่วมพันธมิตรฯ เพื่อต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง เพราะการขับเคลื่อนร่วมกับพันธมิตรฯ มีหลายอย่างมากมายที่จะต้องทำต่อไป ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นนักข่าว ตนทำงานเป็นนักข่าวเอพีมากว่า 9 ปี และเคยทำงานด้านข่าวจากสำนักงานอื่นๆ อีกหลายสำนัก
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. เรือตรีแซมดิน เลิศบุตร คนใกล้ชิดผู้ติดตาม พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ได้นำผู้ชุมนุมประมาณ 30 คน เข้าไปยังหอบังคับการบิน ของสนามบินสุวรรณภูมิ และเจรจากับเจ้าหน้าที่ในหอการบินเพื่อขอเข้าไปตรวจสอบห้องการควบคุมการบิน โดยจะเข้าไปตรวจสอบเที่ยวบิน และเส้นทางการบินของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ก็อนุญาตให้เข้าไปเพียง 5 คน จากนั้นพันธมิตรฯ ได้เจรจากับเจ้าหน้าที่หอบังคับการบิน เพื่อขอให้การ์ดเข้าไปรักษาความปลอดภัยในหอบังคับการบิน เนื่องจากเกรงว่าตำรวจจะใช้หอควบคุมการบินวางแผนจัดการกลุ่มพันธมิตรฯ
อย่างไรก็ตาม หลังจากการเจรจาร่วมกับเจ้าหน้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้การ์ดพันธมิตรส่งตัวแทนเข้าไปดูแลหอบังคับการบิน และจากการเข้าตรวจสอบเส้นทางการบิน และเที่ยวบินของนายสมชายไม่พบว่ามีเที่ยวบินลงจอดในสนามบินสุวรรณ
นาวาอากาศโทโชคชัย สภานนท์ รอง ผอ.บริษัทวิทยุการบินกรุงเทพ เปิดเผยถึงกรณีที่การ์ดพันธมิตรฯ ขอเข้าไปยังหอบังคับการบิน ว่าหลังจากได้รับการประสานงานจากการ์ดพันธมิตรฯ ที่จะเข้ามาภายในห้องควบคุมการบิน ตนไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้เครื่องควบคุม เนื่องจากอุปกรณ์ทุกชิ้น มีราคาแพงมาก การใช้อุปกรณ์ต้องใช้โดยผู้ชำนาญเฉพาะด้าน แต่หากพันธมิตรฯ ต้องการควบคุมการทำงาน ทางเจ้าหน้าที่ จะตั้งเต้นท์ให้ 2 เต้นท์ ที่บริเวณหน้าหอควบคุมการบิน แต่ทางพันธมิตรฯ เกรงว่าจะถูกลอบยิงหรือลอบทำร้าย ตนจึงพยายามชี้แจงว่า เมื่อสนามบินปิด ทุกอย่างก็ปิดหมด จึงไม่จำเป็นต้องควบคุมใดๆ
นอกจากนี้ ห้องควบคุมการบินมีความคับแคบ ไม่สะดวกที่จะให้บุคคลภายนอกเข้ามา จึงทำให้พันธมิตรฯยอม และออกมาปักหลักที่บริเวณด้านหน้าหอคอบคุมการบินโดยสงบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.20 น. เจ้าหน้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ ได้ประสานกับทุกสายการบินในการขนย้ายผู้โดยสารที่พิการทางร่างกายจากชั้น 4 และชั้น 1 ของสนามบิน โดยใช้รถชัตเตอร์บัสขนถ่ายคน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นักธุรกิจชาวต่างชาติ เพื่อเดินทางไปเป็นกลุ่ม ๆ ทยอยเข้าพักตามโรงแรมที่อยู่บริเวณใกล้เคียงสนามบินสุวรรณภูมิ อาทิ โรงแรมไฮบิสต์ แถวหัวหมาก
ขณะเดียวกัน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ได้ออกหนังสือชี้แจงเป็นภาษาอังกฤษแจกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยภายในหนังสือดังกล่าวระบุว่า พันธมิตรฯมีความจำเป็นต้องปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชน เพื่อต้องหารหยุดยั้งกบฎคอรัปชั่นบ้านเมือง ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่จะหยุดการทำงานบริหารประเทศที่ไม่ชอบธรรม ภายใต้นอมินี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งเป็นวิธีการเดียวที่จะกำจัดไปได้ พร้อมทั้งได้ชี้แจงว่าการเคลื่อนไหวได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. เป็นต้นมา
เวลา 15.30 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ได้เดินทางมาร่วมสมทบกับพันธมิตรฯที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นได้ขึ้นเวทีปราศรัยถึงจุดยืนของพันธมิตรฯ
เวลา 16.00 น. สมาคมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จองโรงแรมให้ผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้ทยอยออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเข้าพักในโรแรมรีเจ้นท์ โรงแรมเอส.ซีปาร์ค โรงแรมแกรนด์ทวินทาวเวอร์ จำนวน 300 ห้อง โดยขณะนี้ได้ขนย้ายผู้โดยสารออกจากสนามบินได้เกิน 50 เปอร์เซนต์แล้ว ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะออกค่าใช้จ่ายค่าที่พักในแต่ละโรงแรมให้นักท่องเที่ยวทั้งหมด ขณะเดียวกันทางสนามบินก็ได้จัดรถไว้ช่วยขนส่งผู้โดยสารไปพักแต่ละโรงแรมจำนวน 60 คัน เพื่อจะได้ขนถ่ายนักท่องเที่ยวได้แล้วเสร็จก่อนช่วงเวลาค่ำ